อ่านกรุอ่านในพิธีนิกะห์ได้หรือไม่ ?
เรียบเรียง... อ.อับดุลวาเฮด สุคนธา
ท่านชัยคฺ อัล-อัลบานีย์ การอ่านซูเราะฮ์อัล-ฟาติหะฮ์ในพิธีหมั้นหรือพิธีแต่งงานมิได้เป็น สุนนะฮ์แบบอย่างจากท่านนบี แต่อย่างใด แต่เป็นบิดอะฮ์ (สิ่งใหม่ที่ถูกนำเข้าสู่ศาสนา) เพราะไม่อนุญาตให้เจาะจงบทหนึ่งบทใดจากอัลกุรอานในบางการงาน โดยปราศจากหลักฐานรองรับ
อิหม่ามอบู ชามะฮ์ อัลมักดะซีย์ ได้กล่าวในหนังสือ "อัลบาอิษ อะลา อิงการ อัลบิดะอ์ วัลฮะวาดิษ" หน้า 165 ว่า:
"ไม่สมควรเจาะจงการอิบาดะฮ์ใด ๆ กับเวลาใดเวลาหนึ่งที่ศาสนาไม่ได้เจาะจงไว้ เพราะผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามศาสนาไม่มีสิทธิ์ที่จะเจาะจงเวลาใดเวลาหนึ่งขึ้นมาเอง เพราะสิ่งนั้นเป็นหน้าที่ของศาสนาเท่านั้น"
คณะกรรมการถาวรเพื่อการออกฟัตวา (الَلَّجْنَةُ الدَّائِمَةُ لِلإِفْتَاءِ) เคยถูกถามว่า: "การอ่านอัลฟาติหะฮ์ในขณะผู้ชายทำการขอหมั้นหญิง ถือเป็นบิดอะฮ์หรือไม่?"
ตอบคือ:"การอ่านอัลฟาติหะฮ์ในขณะขอหมั้น หรือขณะทำการนิกะห์ เป็นบิดอะฮ์"และการอ่านซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์นั้น ไม่มีผลใด ๆ ในการทำสัญญานิกะห์ เพราะสิ่งที่ทำให้การแต่งงานสมบูรณ์คือ การตกลงยินยอมของทั้งสองฝ่ายต่อหน้าเงื่อนไขของศาสนา คือ มีผู้เป็นวะลีย์และมีพยาน
ส่วนสุนนะฮ์ที่แท้จริงในขณะทำการนิกาห์คือ การอ่าน "คุตบะตุลฮาญะฮ์" (خُطْبَةُ الحَاجَةِ) โดยท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ มัสอูด รายงานว่า:
ท่านรอซูลุลลอฮ์ ﷺ ได้สอนให้พวกเราอ่าน คุตบะตุลฮาญะฮ์ ไม่ว่าจะในพิธีแต่งงานหรืออื่น ๆ ว่า:
"แท้จริงการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และขออภัยโทษจากพระองค์ และเราขอลี้ภัยกับพระองค์จากความชั่วร้ายของตัวเราเอง
ใครที่อัลลอฮ์ทรงนำทาง เขาก็จะไม่หลงทาง และใครที่พระองค์ทรงปล่อยให้หลง ก็จะไม่มีผู้ใดนำทางเขาได้
และข้าขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการเคารพภักดีนอกจากอัลลอฮ์ และข้าขอปฏิญาณว่าแท้จริงมุฮัมมัดเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์"
แล้วให้อ่านอายะฮ์เหล่านี้ :
(يَا أَيُّهَا النَّاسُ اتَّقُواْ رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُم مِّن نَّفْسٍ وَاحِدَةٍ ...)
(يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اتَّقُواْ اللّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ ...)
(يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ وَقُولُوا قَوْلاً سَدِيداً ...)
รายงานโดยอบูดาวูด (หมายเลข 2118) และชัยคฺอัลบานีรับรองว่าเป็นหะดีษเศาะฮีหฺ
ท่านอัศ-ศ็อนอานีย์ อัลยะมะนีย์ กล่าวว่าในหนังสือ “ซุบุล อัส-สลาม” (1/297):
"ส่วนการอ่านอัล-ฟาติหะฮ์โดยตั้งเจตนาโน้นนี้ อย่างที่ผู้คนในปัจจุบันกระทำนั้น—ไม่มีหลักฐานใด ๆ รองรับเลย และถือว่าเป็นบิดอะฮ์"
ท่านอัชชุก็อยรี อัลหะวาเมดี อัลมิศรียฺ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ “อัส-สุนัน วัลมุบตะดะอาต” (หน้า 217) ว่า:
"การอ่านอัล-ฟาติหะฮ์เพื่อยกเกียรติให้กับท่านนบี ﷺ นั้นเป็นบิดอะฮ์ที่ไม่มีต้นเค้า (ไม่มีหลักฐานรองรับ)
การอ่านอัล-ฟาติหะฮ์เพื่อ ขอให้ความต้องการสำเร็จ ลำบากคลี่คลาย ศัตรูพินาศ นั้นก็เป็น บิดอะฮ์ ที่ศาสนาไม่ได้อนุญาต
การอ่านอัล-ฟาติหะฮ์เพื่อขอให้ อนุญาต (สิ่งใดสิ่งหนึ่ง) ตามที่พวกกลุ่มซูฟีย์ (หรือที่เรียกว่า อัล-ฟุกรออ์) นิยมทำกัน ก็ถือเป็นบิดอะฮ์
การอ่านอัล-ฟาติหะฮ์ในขณะตกลงหมั้นหรือขอแต่งงาน พร้อมกับมีความเชื่อว่า การอ่านอัล-ฟาติหะฮ์คือการให้สัจจะที่ไม่สามารถล้มเลิกได้ หรือ ถือว่าเป็นการให้คำมั่นเท่ากับสาบาน 44 ครั้ง—สิ่งเหล่านี้ เป็นบิดอะฮ์ ความเชื่อที่ผิด และเป็นความไม่รู้ในศาสนา"
เกี่ยวกับการเรียกพิธีแต่งงานว่า "ฟาติหะฮ์" และการอ่านซูเราะฮ์อัล-ฟาติหะฮ์ในงานแต่งงาน : บางคนเรียกการแต่งงานว่า “ฟาติหะฮ์” และเข้าใจว่าชื่อนี้มาจากการที่มีการอ่านซูเราะฮ์อัล-ฟาติหะฮ์ร่วมกันในพิธี
ได้มีผู้ถามท่านเชค อิบนุ อุษัยมีน ว่า:
“มีบางคนอ่านซูเราะฮ์อัล-ฟาติหะฮ์ในพิธีแต่งงาน จนถึงขั้นที่บางคนไม่เรียกว่างานแต่งงานแล้ว แต่กลับเรียกว่า การอ่านฟาติหะฮ์ โดยพูดว่า: ‘ฉันได้อ่านฟาติหะฮ์ของฉันกับหญิงคนนี้แล้ว’ การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ชอบธรรมตามศาสนาหรือไม่?”
ท่านตอบว่า: “นี่ ไม่ใช่สิ่งที่ชอบธรรม หากแต่เป็น บิดอะฮ์ (สิ่งประดิษฐ์ใหม่ในศาสนา)
การอ่านซูเราะฮ์อัล-ฟาติหะฮ์ หรือซูเราะฮ์อื่น ๆ ที่ถูกเจาะจงนั้น จะต้องอ่านเฉพาะในสถานที่และในกรณีที่ศาสนาได้บัญญัติไว้เท่านั้นหากมีการอ่านอัล-ฟาติหะฮ์ในสถานการณ์อื่น ๆ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการเคารพบูชา นั่นก็ถือว่าเป็น บิดอะฮ์
เราได้เห็นผู้คนมากมายอ่านอัล-ฟาติหะฮ์ในทุกโอกาส แม้กระทั่งบางคนพูดว่า : ‘จงอ่านอัล-ฟาติหะฮ์ให้กับผู้ตาย’ หรือ ‘จงอ่านให้กับสิ่งนั้นสิ่งนี้’
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่และเป็นสิ่งที่น่าตำหนิในศาสนา เพราะซูเราะฮ์อัล-ฟาติหะฮ์ และซูเราะฮ์อื่น ๆ จะไม่ถูกอ่านในทุกสถานการณ์ ทุกสถานที่ หรือทุกเวลา เว้นแต่จะมีหลักฐานจากคัมภีร์อัลกุรอานหรือสุนนะฮ์ของท่านรอซูล ﷺ เท่านั้น มิเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นบิดอะฮ์ ซึ่งผู้กระทำควรถูกตักเตือน”
ที่มา: "ฟะตาวา นูร อะลา อัด-ดัรบ" (10/95)