จงเป็นเหมือนผู้รู้
  จำนวนคนเข้าชม  107

จงเป็นเหมือนผู้รู้

 

แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก

 

⇘ ขอให้ฉันได้เป็นเหมือนท่านซาลิมด้วยเถิด ⇙

 

     เรื่องราวของคอลีฟะฮฺฮิชาม อิบนุ อับดุลมะลิก กับท่านซาลิม บิน อับดุลลอฮฺ บิน อุมัร บิน อัลค็อฏฏอบ เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การเขียนด้วยน้ำทองคำเพราะความงดงามของมัน

     ครั้งหนึ่ง คอลีฟะฮฺ ฮิชาม อิบนุ อับดุลมะลิก ได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ขณะที่เขากำลังทำการฏ่อวาฟรอบๆกะอฺบะฮฺอยู่นั้น

     เขาได้เห็นท่านซาลิม บิน อับดุลลอฮฺ บิน อุมัร บิน อัลค็อฏฏอบ -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุม-ซึ่งรองเท้าของท่านได้ขาดอยู่ในมือและเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ไม่ถึงสองดิรฮัม

ท่านฮิชามจึงเข้าไปใกล้ท่าน ทักทายแล้วกล่าวว่า“โอ้ซาลิม เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้าหรือไม่?”

ท่านซาลิมมองเขาด้วยความแปลกใจและโกรธเล็กน้อย แล้วตอบว่า

     "ท่านไม่ละอายบ้างหรือ? เราอยู่ในบ้านของอัลลอฮฺ แล้วท่านอยากให้ฉันบอกความต้องการของฉันไปขอจากผู้อื่นที่ไม่ใช่อัลลอฮฺอย่างนั้นหรือ?"

     ทันใดนั้นสีหน้าของคอลีฟะฮฺก็เต็มไปด้วยความอับอายและละอายใจ จึงปล่อยให้ท่านซาลิมฏ่อวาฟต่อไป

     แต่เขายังคงจับตามองอยู่ เมื่อเห็นท่านซาลิมออกจากมัสญิดฮะรอม เขาจึงเดินตามไปแล้วกล่าวว่า:

     "โอ้ซาลิม เจ้าไม่ยอมบอกความต้องการกับฉันในฮะรอม งั้นจงบอกกับฉันตอนนี้เถิด เมื่ออยู่ด้านนอกแล้ว”

     ท่านซาลิมจึงตอบว่า:"จะให้ฉันบอกความต้องการด้านใดกับท่านเล่า? เรื่องของดุนยา หรือเรื่องของอาคิเราะฮฺ?”

    คอลีฟะฮฺตอบว่า:"โอ้ซาลิม เรื่องดุนยาสิ ส่วนเรื่องของอาคิเราะฮฺนั้น ย่อมไม่ควรขอจากผู้ใดนอกจากอัลลอฮฺ"

     ท่านซาลิมจึงกล่าวว่า: “โอ้ฮิชาม ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า ฉันไม่เคยร้องขอเรื่องของดุนยาจากผู้ที่เป็นเจ้าของดุนยา แล้วฉันจะไปขอจากผู้ที่แม้ดุนยาก็ยังไม่ใช่ของเขาได้อย่างไรเล่า?” 

     คราวนั้นน้ำตาก็เอ่อขึ้นในดวงตาของคอลีฟะฮฺฮิชาม และเขากล่าวถ้อยคำหนึ่งขึ้นว่า "ขอให้ฉันได้เป็นเหมือนซาลิมด้วยเถิด ถึงแม้ฉันจะครอบครองทั้งอาณาจักรก็ตาม!!!"

     นี่แหละ … ดุนยาและความหรูหราของมัน ได้หล่นหายไปจากหัวใจของผู้ที่รู้จักอัลลอฮฺ แต่ทุกวันนี้ เรากลับทะเลาะกันเพราะมัน ปรองดองกันเพราะมัน รักกันเพราะมัน และเกลียดกันเพราะมัน ความมุ่งมั่นของเราลดต่ำลง จนเราตกลงไปในบึงแห่งดุนยา

     โอ้อัลลอฮฺ โปรดอย่าให้ดุนยากลายเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่ใหญ่ที่สุดของเรา และอย่าให้มันเป็นขอบเขตแห่งความรู้ของเราเลย และขอให้ฉันได้เป็นเหมือนท่านซาลิม ที่ออกไปจากดุนยาโดยปลอดภัย"

 

البداية_والنهاية {235/9}

 

 

ชัยคฺ อับดุรร็อซซ๊าก อัล-บัดรฺ -ฮะฟิศ่อฮุลลอฮฺ-

 

     ชัยคฺ อิบนุ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- เล่าว่า:

     "ตอนเริ่มเรียนวิชา ก่อวาอิด ฟิกฮียะฮฺ (กฎเกณฑ์ทางฟิกฮฺ) มีนักเรียนหลายคนไปอ่านหนังสือกับชัยคฺ อิบนุ ซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- แต่เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหลือแค่ผมเพียงคนเดียว แต่ชัยคฺก็ยังคงสอนต่อไปเหมือนเดิม แม้ว่าจะเหลือนักเรียนเพียงคนเดียวก็ตาม

     ซึ่งปกติครูบางคนถ้านักเรียนหายไปเกือบหมด ก็มักจะบอกว่า ‘ไม่มีใครแล้ว’ ก็จะหยุดสอน แต่ชัยคฺ อิบนุ ซะอฺดีย์  ยังคงสอนผมต่อไปจนจบบทเรียน เมื่อผมเรียนจบเล่มนั้นแล้ว วันรุ่งขึ้นผมก็ไปพบกับท่านอีก ท่านเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า แล้วหยิบผลไม้ออกมาให้ผมหนึ่งลูก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเคยเห็นแอปเปิ้ล!

ผมถามท่านว่า ‘นี่คืออะไร’ 

ท่านตอบว่า ‘นี่คือแอปเปิ้ล’

     ผมจึงนำแอปเปิ้ลลูกนั้นกลับบ้าน ให้ทุกคนในครอบครัวมารวมกัน หยิบจานและมีด แล้วหั่นแอปเปิ้ลลูกนั้นแบ่งกันกินทั้งครอบครัว"

     ชัยคฺ อับดุรร็อซซ๊าก อัล-บัดรฺ -ฮะฟิศ่อฮุลลอฮฺ-กล่าวว่า: 

"จงพิจารณาดูความมุ่งมั่นตั้งใจของเหล่านักศึกษา ทั้งที่การแสวงหาความรู้นั้นยากลำบาก 

พิจารณาดูความอดทนของครูบาอาจารย์  ทั้งที่มีนักเรียนเพียงไม่กี่คน

พิจารณาดูความสมถะต่อดุนยา และความจริงใจในการแสวงหาความรู้ ทั้งที่พวกเขามีความขัดสนและขาดแคลน

 

     แล้วพวกเราอยู่ในส่วนใดเมื่อเปรียบกับบุคคลเหล่านั้น!! 'แอปเปิ้ล' เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า 'แอปเปิ้ล' คืออะไร?? แล้วเราทุกวันนี้มีชีวิตอย่างไร เมื่อเทียบกับการดำรงชีวิตของพวกเขา?? 

 

“ท้องของเรามีแต่สิ่งที่อิ่มเอม แต่สมองกลับว่างเปล่า"

 

 

 

ท่าน ซุฟยาน อัษเษารีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

     ท่าน ซุฟยาน อัษเษารีย์ ได้ให้คำสอนแก่ ท่าน อลี อิบนิล ฮะซัน อัซซุละมีย์ -ร่อฮิมะฮุมัลลอฮฺ- ว่า:"ท่านจงยึดมั่นบนความจริงในทุกๆสถานการณ์เถิด 

จงระวัง...การโกหก การทรยศ และการอยู่ร่วมกับผู้ที่มีอุปนิสัยเช่นนั้น เพราะทั้งหมดล้วนเป็นบาปหนักทั้งสิ้น

จงระวัง... การโอ้อวดทั้งในคำพูดและการปฏิบัติ เพราะแท้จริงมันคือการตั้งภาคี (ชิริก) โดยชัดแจ้ง

จงระวัง... การหลงตัวเอง  เพราะการงานที่ดีงามจะไม่ถูกรับ หากการงานนั้นมีการหลงตัวเองร่วมอยู่ด้วย

          อย่าเอาศาสนาของท่านมาจากใครก็ได้ เว้นแต่จากผู้ที่เขาห่วงใยศาสนาของตนจริงๆ เพราะคนที่ไม่ใส่ใจศาสนาของตัวเอง ก็เหมือนหมอที่ป่วยเป็นโรค แต่ไม่สามารถรักษาโรคของตนเองได้ แล้วเขาจะรักษาและแนะนำผู้อื่นได้อย่างไร ? เช่นนี้ คนที่ไม่ห่วงศาสนาของตน เขาจะมาห่วงศาสนาของท่านได้อย่างไร ?

 

          พี่น้องที่รัก ศาสนาของท่านก็คือเลือดเนื้อและชีวิตของท่าน ฉะนั้นจงร้องไห้ให้แก่ตัวเอง และเมตตาตัวเองเถิด เพราะหากท่านไม่เมตตาตัวเอง ท่านก็จะไม่ได้รับความเมตตา

          และให้ผู้ที่นั่งอยู่กับท่านคือผู้ที่ทำให้ท่านละจากดุนยา และทำให้ท่านปรารถนาในอาคิเราะฮฺ

          จงระวังการคบหาผู้ที่หลงในดุนยา ผู้ที่มัวแต่พูดเรื่องดุนยา เพราะพวกเขาจะทำให้ศาสนาและหัวใจของท่านเสียหาย

          จงรำลึกถึงความตายให้มาก จงขออภัยโทษต่อสิ่งที่ผ่านมาจากบาปของท่านให้มาก

          และจงวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้ประทานความปลอดภัยแก่ส่วนที่เหลือของอายุขัยของท่าน

          พี่น้องที่รัก จงยึดมั่นในมารยาทที่ดีงาม และอุปนิสัยที่งดงามเถิด อย่าได้ฝ่าฝืนญะมาอะฮฺ (กลุ่มผู้ศรัทธาที่ยึดมั่นในสัจธรรมและแนวทางที่ถูกต้อง) เพราะความดีงามอยู่กับพวกเขา ยกเว้นผู้ที่มุ่งแต่ดุนยา (หากญะมาอะฮฺนั้นเป็นผู้ที่มัวแต่ไล่ตามดุนยาไม่ห่วงศาสนา) เช่นคนที่สร้างบ้านหลังหนึ่ง  แต่กลับไปทำลายบ้านอีกหลังหนึ่ง (ทำลายอาคิเราะฮฺ)"

【الحلية لأبي نعيم (٨٢/٧ - ٨٥) 】