
ชีวิตของผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา
เรียบเรียง .... อ.จรวด นิมา
มนุษย์ชาติทั้งมวลเป็นผู้สืบแทนพระประสงค์ของพระองค์บนโลกนี้ แล้วพระองค์ก็ทรงทดสอบว่า ผู้ใดจะภักดี เชื่อฟังและสักการะต่อพระองค์ หรือว่าผู้ใดจะทรยศ ฝ่าฝืนและไม่สักการะต่อพระองค์ แล้วพระองค์ทรงให้มนุษย์ต้องตายจากสถานที่อยู่ชั่วคราว โลกนี้ ไปสู่สถานที่ที่มีการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาประพฤติปฏิบัติมา
ท่านร่อซูล ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สอนว่า
"ท่านทั้งหลายมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ และต้องถูกสอบสวนต่อความรับผิดชอบของเขา"
(บุคอรีย์)
บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาพวกเขาใช้ชีวิตอยู่เพื่อเป้าหมายอะไร ? หรือใช้ชีวิตเพื่อเป้าหมายแห่งโลกนี้เท่านั้น ขณะเดียวกัน พวกเขาจะถามระหว่างกันว่า พวกเขากินเพื่ออยู่ หรืออยู่เพื่อกินกันแน่ และอนาคตของผู้ปฏิเสธศรัทธา จะไม่รู้เลยว่า เพราะเหตุไรพวกเขาจะต้องตายด้วย
ดังที่ อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
"ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น พวกเขาจะมุ่งหาความสุข เฉพาะในดุนยา
พวกเขากินเหมือนสัตว์กิน(เพียงต้องการให้อิ่มท้อง อิ่มเพศเท่านั้น ไม่คำนึงถึงโลกหน้าแต่อย่างใด)
นรกจึงเป็นที่อยู่ของพวกเขาแน่นอน"
(มูฮำมัด 47:12)
อวัยวะทุกส่วนในร่างกายของมนุษย์เป็นหลักฐานยืนยัน แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงบังเกิดมนุษย์เพื่อเป็นข้อพิจารณาว่า องค์ประกอบของมนุษยชาติทั้งมวลนั้นอย่างเดียวกัน โดยไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง แม้จะมีความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันที่เวลาและสถานที่ก็ตาม
ข้อคิดจากการบังเกิดมนุษย์ จะเกี่ยวข้องต่อชีวิตโลกนี้และโลกหน้า และข้อคิดอันนี้จะไม่ปรากฎชัดให้กับผู้ที่มีวิจารณญาณแต่เพียงโลกนี้เท่านั้น
พระองค์ทรงให้ความเป็นมนุษย์ที่เหมาะสมแก่บ่าวของพระองค์ ในฐานะผู้สืบแทนบนแผ่นดิน แล้วพระองค์ทรงชี้หนทางที่ถูกต้องกับหนทางที่หลงผิดให้แก่มนุษย์เลือกที่จะปฏิบัติเพื่อจะได้รู้ว่า ผู้ใดคือผู้เชื่อฟังต่อคำสั่งใช้ของพระองค์ และผู้ใดคือผู้ฝ่าฝืนต่อคำสั่งใช้ของพระองค์
และพระองค์ทรงประดับประดาโลกนี้ให้อยู่ในการพิจารณาของมนุษย์ เหมือนกับทรงประดับประดาโลกหน้าไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ เพื่อให้มนุษย์ได้พิจารณาเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ผู้มีความศรัทธาที่เข้มแข็ง เขาจะดำเนินตามทางนำของพระองค์ ส่วนผู้มีความศรัทธาที่อ่อนแอ เขาจะถูกความเพริศแพร้วของโลกนี้หลอกลวง จนทำให้หลงผิดจากแนวทางที่ถูกต้อง ฉะนั้น โลกนี้คือสถานที่แห่งการทดสอบ และมนุษย์ก็คือผู้ที่ถูกทดสอบ
สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาจะมีชีวิตที่ตกอยู่ในความลุ่มหลงบนโลกนี้ โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่า เพราะเหตุไร พวกเขาจึงได้อาศัยอยู่บนโลกนี้ ? แล้วเพราะเหตุใดพวกเขาจะต้องพรากจากโลกนี้ไปด้วย ?
ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร หากเราเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา !
สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธา จะมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการดำเนินชีวิตของเขาบนโลกนี้และโลกหน้า พวกเขาไม่เชื่อว่า อัลลอฮฺ เป็นผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งมวล พวกเขาจึงมีความรู้สึกว่า ชีวิตทั้งหมดของพวกเขาเป็นเรื่องที่หาจุดมุ่งหมายอะไรไม่ได้เลย เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิดใหม่ เพื่อชำระความดีและความชั่ว นรกและสวรรค์มีจริงหรือเปล่า พวกเขาจึงไม่ให้ความสำคัญในการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
ผู้ปฏิเสธศรัทธา เขาจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุไรเขาจึงถูกบังเกิดมา ? ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ? ยิ่งไปกว่านั้นเขายังคิดว่า ผลตอบแทนการทำความดีและทำความเลวหลังจากความตายไปแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องกุขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ทำแต่ความดีหรือเปล่า
ผลจากความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ ทำให้ชีวิตพวกเขาตกอยู่ในสภาพวิตกกังวล บางครั้งโกรธและโมโหตัวเอง กล่าวกับต้วเองว่า ทำไมต้องเกิดมาด้วย ? เกิดมาทำไม ? เกิดมาเพื่ออะไร ? คำพูดต่างๆเหล่านี้ กล่าวออกมาตามความรู้สึกของ พวกเขา ก็เพราะพวกเขาไม่มีสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวนำพาชีวิตของพวกเขาไปสู่ความสุขทั้งกายและใจได้
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
"ผู้ใดหันหลังให้พระบัญญัติของข้า แท้จริงสำหรับเขา คือการมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้น”
(ฏอฮา 20:124)
ผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาจะพิจารณาสิ่งที่อยู่รอบตัวเขาอย่างมีอคติ และนี่คืออาการของคนที่ป่วยทางจิตหรือมีภาวะจิตที่ไม่มั่นคง อันเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหามากมายตามมา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของจิตแพทย์อยู่เวลานี้ เช่น การฆ่าตัวตาย การติดยาเสพติด ความวิปริตทางจิต ความวิปริตทางเพศ ฯลฯ
สำหรับผู้ที่ค้นหาหนทางที่ถูกต้อง เขาจะพบว่าชีวิตของผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ เป็นชีวิตที่สงบสุขตามหลักธรรมคำสอนของพระองค์
ดังที่ อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
"ผู้ใดปฎิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี"
(อันนะหฺลฺ 16:97)
โดยเฉพาะผลแห่งความสุข และความพึงพอใจในชีวิต อันเนื่องมาจากการศรัทธาและการเชื่อฟังต่อผู้ทรงบังเกิดเขา เชื่อและศรัทธาต่อผลตอบแทนในโลกหน้า เขาจึงมีความเพียรพยายาม บากบั่น มานะ อดทนที่จะปฎิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระองค์ เขาจึงพบแต่ความสุขสงบ และความพึงพอใจในชีวิต
ดังที่ อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
"โอ้วิญญาณอันบริสุทธิ์ จงกลับไปพบพระเจ้าอย่างคนที่ พอใจต่อพระกรุณาของอัลลอฮฺ และได้รับความพอพระทัยจากพระองค์เถิด
จงเข้าไปอยู่ร่วมกับบ่าวที่ดีๆของเรา และจงเข้าไปในสวรรค์ของเราเถิด"
(อัลฟัจญรฺ 30:27-30)
ส่วนผู้ปฏิเสธศรัทธา จะไม่เชื่อว่าโลกหน้าจะมีการตอบแทนความดี และความชั่ว จากการประพฤติปฏิบัติของเขา ดังนั้น เขาจึงไม่ลดละเลิกที่จะประกอบกรรมชั่วต่าง ๆ เพื่อที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่เขาต้องการ เพราะเขาไม่เชื่อผลแห่งการตอบแทนในโลกหน้ามีจริง เขาจึงเห็นแต่ผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อชีวิตแห่งโลกนี้เท่านั้น
แม้ว่า สิ่งที่เขาทำจะเกิดความหายนะบนแผ่นดิน ทำลายชีวิตบริสุทธิ์ตลอดจนบังคับคนอื่นไปตาย เพื่อการงานที่เลวทรามต่ำช้าของเขาก็ตาม เขาก็ไม่คิดที่จะกลับเนื้อกลับตัว เพราะเขาไม่คิดกลัวสิ่งใด และไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เขาต้องกลัวด้วย เนื่องจากเขาไม่เชื่อว่าการลงโทษในนรกมีจริง
เราจึงพบว่าพฤติกรรมของเขาที่อยู่ร่วมกับคนอื่นนั้น จะเป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และถ้าเขาพบว่าผลประโยชน์ของเขาขัดกับความซื่อตรงของเพื่อน เขาจะเอาผลประโยชน์ของตนเอง และทิ้งความซื่อตรงของเพื่อน
เช่นเดียวกันจะพบว่าผู้ปฏิเสธศรัทธา เขาจะเปลี่ยนแปลงข้อตกลงกับคนอื่นให้เหมาะสมต่อผลประโยชน์ของเขา และนี่คือพฤติกรรมที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ส่วนผู้ศรัทธา เขาจะเชื่อว่า โลกหน้ามีการตอบแทนความดีและความชั่ว จากการประพฤติปฏิบัติของเขา เขาจึงทำแต่ความดี ด้วยการไม่หาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง โดยทางมิชอบ เพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาคดโกง ขโมยและทุจริตกับเพื่อนมนุษย์จะมีการสอบสวนในโลกหน้า