บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 35
  จำนวนคนเข้าชม  56

บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 35

 

แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก

 

อิบนุ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

     ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและช่วงเวลาแห่งการตอบรับดุอา

     "ผู้ที่มีความจำเป็น ซึ่งความเดือดร้อนได้บีบบังคับให้เขาต้องวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺ -ซุบฮานะฮูวะตะอาลา- แน่นอนว่า อัลลอฮฺจะทรงตอบรับดุอาของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนทำบาปก็ตาม

     ดั่งที่อัลลอฮฺตรัสว่า:

‘ผู้ใดเล่าจะตอบรับคำวิงวอนของผู้ตกทุกข์ได้ยาก เมื่อเขาวิงวอนต่อพระองค์’

(อันนะมฺล 62)

     และนี่เป็นหลักการทั่วไป แม้แต่ผู้ที่ฝ่าฝืน อัลลอฮฺก็ทรงตอบรับคำขอของเขา เพราะความจำเป็นของเขาทำให้เขาจริงใจในการพึ่งพาอัลลอฮฺ  ดังนั้นอัลลอฮฺจึงทรงตอบรับคำขอของเขา"

[شرح الكافية الشافية(526/4)]

 

 

 

อิบนุ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

"สมควรอย่างยิ่งที่จะ เลือกช่วงเวลา สถานที่ และสภาวะ ที่จะเป็นสาเหตุให้ดุอาถูกตอบรับ

ตัวอย่างช่วงเวลา : ช่วงสุดท้ายของกลางคืน และ ระหว่างการอะซานและการอิกอมะฮฺ

ตัวอย่างสถานที่ : การอยู่ใน สถานที่อันทรงเกียรติ

ตัวอย่างสภาวะ : ขณะสุญูด ขณะเดินทาง และ ขณะที่ฝนกำลังตก

[ตัฟซีร ซูเราะฮฺ อัน-นิซาอฺ (1/275)]

 

 

 

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์-ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

ผู้คนในประชาชาตินี้หลงใหลในทรัพย์สินเงินทอง 

"ทุกๆประชาชาติมีรูปปั้นที่พวกเขาเคารพบูชา และรูปปั้นของประชาชาตินี้คือ ดีนารและดิรฮัม (บูชาเงินทอง)"

(الآداب الشرعية ٣/٢٩٧)

 

 

 

อิบนุล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

ต้นตอของความหลงผิดและความวุ่นวาย

"ต้นตอของฟิตนะฮฺทั้งหมดนั้น  คือการนำความคิดเห็นส่วนตัว มาอยู่เหนือ บัญญัติศาสนา และกระทำตามอารมณ์ เหนือกว่าสติปัญญา"

إغاثة اللهفان١٦٧/٢

 

 

 

ชัยคฺ สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-

 

การเสียชีวิตของบรรดาอุละมาอฺและหน้าที่ของชาวซุนนะฮฺต่อความรู้ของพวกเขา

     "โอ้ ชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺ ! พวกท่านเห็นแล้วใช่ไหมถึงการเสียชีวิตจำนวนมากของบรรดาอุละมาอฺ (ขออัลลอฮฺทรงเมตตาพวกท่านทั้งหมดด้วยเถิด) แท้จริงในการตายของพวกเขานั้นมีบทเรียนที่ทำให้เราได้คิด

ดังนั้นจงยำเกรงอัลลอฮฺ และขอให้ท่านระมัดระวังต่อความรู้ของพวกท่าน !  

จงขออภัยโทษให้แก่บรรดาอุละมาอฺผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและอย่าลืมพวกเขา  

และจงขอดุอาให้แก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และจงได้รับประโยชน์จากพวกเขา เข้าร่วมการเรียนและเผยแผ่คุณงามความดีของพวกเขา

และจงเผยแผ่วิชาความรู้ของทั้งผู้ที่ล่วงลับและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่

     เพราะขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่าความรู้ของเขาเหล่านั้นเปรียบเสมือนสายฝนที่ตกลงมา ซึ่งจะเพิ่มพูนความดีงามและขจัดความชั่วร้าย"

 

 

 

ใช้ชีวิตอย่างมีสติก่อนที่พระองค์จะเอาชีวิตเราไปโดยไม่ทันตั้งตัว

บ่อยครั้งที่เรามักจะพูดกันก่อนจะจากลาว่า: "มีอะไรอยากเตือนกันมั้ย?"

ลองพิจารณาดูคำตอบของบรรดาสลัฟรุ่นก่อนๆว่า เขามีคำตอบกันอย่างไร ในขณะที่เราเองยังคงละเลยต่อคำตอบนี้

ชายคนหนึ่งกล่าวกับ ท่าน ซุฮัยรฺ อิบนุ นุอัยมฺ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- ว่า:"ท่านมีอะไรอยากเตือนฉันมั้ย?"

ท่านตอบว่า: "มีสิ ... จงระวังอย่าให้อัลลอฮฺเอาชีวิตท่านไปในขณะที่ท่านกำลังเผลอเรอ"

     (หมายถึง ให้เรามีสติอยู่เสมอในการใช้ชีวิต อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท จนวันหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงเอาชีวิตเราไป โดยที่เราอยู่ในสภาพที่ลืมพระองค์หรืออยู่ในการกระทำบาป)

[ صفوةُ الصَّفوة - 9/4]

 

 

 

ชัยคฺ ศอและฮฺ อัลเฟาซาน -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-

 

ผู้คนสมัยนี้รีบเร่งเพื่อดุนยา แต่เฉื่อยชาต่อศาสนา

     "เรามักจะเห็นผู้คนรีบเร่งและว้าวุ่นเพื่อแสวงหาความมั่งคั่งในดุนยา กลัวว่าจะพลาดโอกาสหรือเสียผลประโยชน์ของตนไป

     แต่ในขณะเดียวกันกลับเห็นพวกเขาเฉื่อยชาและล่าช้าเมื่อถึงเวลาละหมาดในมัสยิด ทั้งที่การละหมาดห้าเวลานั้นคือเสาหลักของศาสนา!

     เราจะเห็นพวกเขานั่งอยู่ตามถนนหนทางหรือตามร้านค้าต่าง ๆได้เป็นเวลานาน  แม้ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดก็ยังอดทนเพื่อแสวงหาสิ่งต่างๆในดุนยา

     ในขณะที่เราไม่เห็นพวกเขาอดทนที่จะนั่งอยู่ในมัสยิดแม้เพียงไม่กี่นาที เพื่อการละหมาดหรืออ่านอัลกุรอาน"

 الخطب المنبريية ١٣؛ ٣١٣-٣١٤ 

 

 

 

•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈•