
ผู้รู้ที่ชั่วต้นเหตุของผู้นำที่ชั่วและความเสื่อมของสังคม
อ.อิสมาอีล กอเซ็ม ....เรียบเรียง
มวลการเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
บทบาทของผู้รู้ในฐานะผู้นำทางศีลธรรมของสังคมอิสลาม และอธิบายถึงอันตรายของผู้รู้ที่ชั่วที่ละทิ้งอามานะห์แห่งความรู้ ไม่ห้ามความชั่ว และไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองรู้ ซึ่งถือเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดผู้นำที่อธรรมและความเสื่อมของสังคม โดยผู้นำชั่วมักจะอ้างอิงหลักฐานจากอัลกุรอาน หะดีษ และอาศัยการตีความและคำกล่าวอ้างของนักวิชาการอิสลามที่ไม่ได้เคร่งครัดในหลักการอิสลาม
ผู้รู้คือรากฐานของความมั่นคงทางศาสนาและสังคม หากผู้รู้มีคุณธรรม สังคมก็จะรุ่งเรือง แต่หากผู้รู้ละทิ้งหน้าที่ ความเสื่อมจะเริ่มต้นตั้งแต่จิตใจของผู้รู้จนถึงโครงสร้างการปกครองทั้งหมด
(قال الله تعالى: ﴿يَرْفَعِ اللَّهُ الَّذِينَ آمَنُوا مِنكُمْ وَالَّذِينَ أُوتُوا الْعِلْمَ دَرَجَاتٍ
“อัลลอฮ์ จะทรงยกฐานะของบรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้ที่ได้รับความรู้ให้สูงขึ้นอีกหลายขั้น”
(سورة المجادلة: ١١)
ความหมายของผู้รู้ที่ชั่ว
العَالِمُ السُّوءُ คือผู้ที่มีความรู้แต่ไม่ปฏิบัติตาม ไม่เผยแพร่ความดี และไม่ห้ามปรามความชั่ว ใช้ความรู้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ
(قال الله تعالى: ﴿إِنَّ الَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَا أَنزَلَ اللَّهُ مِنَ الْكِتَابِ وَيَشْتَرُونَ بِهِ ثَمَنًا قَلِيلًا ۙ أُولَٰئِكَ مَا يَأْكُلُونَ فِي بُطُونِهِمْ إِلَّا النَّارَ
“แท้จริงบรรดาผู้ที่ปกปิดสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ประทานลงมาในคัมภีร์ และแลกมันด้วยสิ่งเล็กน้อยในโลกนี้
(แท้จริงพวกเขากินไฟเข้าไปในท้องของตนเอง)”
(سورة البقرة: ١٧٤)
หน้าที่ของผู้รู้ในสังคมอิสลาม
ผู้รู้มีหน้าที่ 3 ประการหลัก คือ:
1. ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์
2. สั่งใช้ความดีและห้ามปรามความชั่ว
3. เป็นแบบอย่างในความยำเกรงต่ออัลลอฮ์
قال النبي ﷺ: «العلماء ورثة الأنبياء» “บรรดาผู้รู้คือทายาทของบรรดานบี”
(رواه أبو داود والترمذي)
เมื่อผู้รู้ละเลยหน้าที่เหล่านี้ เขาย่อมสูญเสียเกียรติแห่งการเป็นตัวแทนของนบี และกลายเป็นสาเหตุของความมืดในสังคม
ผู้รู้ที่เงียบต่อความชั่ว: บ่อเกิดของผู้นำที่อธรรม
การนิ่งเฉยต่อบาปคือจุดเริ่มต้นของความพินาศในทุกสังคม เพราะความเงียบของผู้รู้คือการยินยอมโดยปริยายให้ความชั่วขยายตัว
(قال الله تعالى:﴿وَاتَّقُوا فِتْنَةً لَّا تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُوا مِنكُمْ خَاصَّةً ۖ وَاعْلَمُوا أَنَّ اللَّهَ شَدِيدُ الْعِقَابِ
“และพวกเจ้าจงระวังภัยที่จะไม่ประสบแก่บรรดาผู้กระทำอธรรมเท่านั้น
แต่จะประสบแก่พวกเจ้าทั้งหมด และจงรู้เถิดว่าอัลลอฮ์ทรงลงโทษอย่างรุนแรง”
(سورة الأنفال: ٢٥)
وقال النبي ﷺ:«إن الناس إذا رأوا المنكر فلم يغيروه أوشك أن يعمهم الله بعقاب من عنده»
“เมื่อผู้คนเห็นความชั่วแล้วไม่เปลี่ยนแปลงมัน อัลลอฮ์จะทรงลงโทษพวกเขาทั้งหมด”
(رواه أبو داود)
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้รู้ที่ชั่วและผู้นำที่ชั่ว
อิบนุลก็อยยิม รอฮิมาฮุลลอฮฺได้กล่าวว่า
«إذا فسد العالِم فسد العالَم، لأن الناس على دين علمائهم وأمرائهم»
“เมื่อผู้รู้เสื่อม สังคมก็เสื่อม เพราะผู้คนจะเดินตามศาสนาของผู้รู้และผู้นำของพวกเขา”
ผู้นำที่อธรรมมักเกิดจากสังคมที่ผู้รู้เงียบ เพราะไม่มีผู้ใดกล้าชี้นำทางสัจธรรม เมื่อเสียงแห่งความจริงถูกดับลง ความหลงและอธรรมย่อมเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หากผู้รู้คือแสงสว่างของสังคม ผู้นำคือเงาที่สะท้อนแสงนั้นเมื่อแสงมืด เงาก็จะมืดตามไป
ดังนั้น ความเสื่อมของผู้นำในหลายยุค มักเริ่มต้นจาก “การเสื่อมของผู้รู้” ที่ละเลยอามานะห์แห่งความรู้
คุณลักษณะของผู้รู้
1. อิคลาศ (الإخلاص): ผู้รู้ต้องตั้งเจตนาเพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น
2. ความกล้าหาญ ต้องพูดความจริงแม้ต่อหน้าผู้นำอธรรม
قال النبي ﷺ:«أفضل الجهاد كلمة عدل عند سلطان جائر»
“การญิฮาดที่ดีที่สุด คือการพูดคำสัตย์ต่อหน้าผู้นำที่อธรรม”
(رواه أحمد وأبو داود)
หะดีษนี้ยกย่องผู้ที่กล้าพูดความจริงต่ออำนาจ แม้ต้องเผชิญกับอันตราย เพราะนี่คือ “การปกป้องศาสนา” ในระดับสูงสุด ผู้รู้ที่แท้จริงจึงต้องมีความกล้าหาญในการแสดงสัจธรรม ไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันหรือผลประโยชน์ส่วนตน
การเผยแพร่ความรู้ : ผู้รู้ต้องไม่ปิดบังความจริง ต้องถ่ายทอดสิ่งที่รู้ให้แก่ประชาชนด้วยเมตตา
การเป็นแบบอย่าง : ผู้รู้ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่สอน เพื่อให้คำพูดมีผลในหัวใจของผู้คน
ผู้รู้คือกระจกสะท้อนของสังคม หากผู้รู้บริสุทธิ์ใจและปฏิบัติตามหลักศาสนา สังคมจะได้รับแสงสว่างและผู้นำที่ยุติธรรม แต่หากผู้รู้ทรยศต่อความรู้ของตน ใช้มันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หรือเงียบต่อความชั่ว ความเสื่อมจะเกิดขึ้นทั้งในศาสนาและสังคม
ดังนั้น การฟื้นฟูประชาชาติอิสลาม ต้องเริ่มจากการฟื้นฟูผู้รู้ให้กลับมาสู่ความบริสุทธิ์ใจและการรับใช้อัลลอฮ์อย่างแท้จริง