
การเตรียมความพร้อม
By One Muslimah
ในโลกยุคปัจจุบัน ที่เรียกกันว่า ยุคดิสรัปชัน (Disruption) การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พฤติกรรมวิถีความเป็นอยู่ การศึกษา การทำงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด ความขัดแย้ง สงคราม และวิกฤตทางสังคม ฯลฯ ถือเป็นความท้าทายอีกประการหนึ่งที่กำลังทดสอบความสามารถของมนุษย์ในการ “เตรียมความพร้อม” อย่างรอบด้าน
ในอิสลาม แนวคิดเรื่อง การเตรียมความพร้อม ไม่ได้หมายความ เพียงแค่การระดมทรัพย์สิน ทรัพยากร และการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเผชิญหรือเอาชนะปัญหาหรือบททดสอบต่างๆ แต่หมายถึง การเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณให้เท่าทันกับบททดสอบของชีวิต
ดังที่อัลกุรอานได้วางหลักการพื้นฐานไว้ ความว่า
“และพวกเจ้าจงเตรียมไว้สำหรับ(ป้องกัน) พวกเขา สิ่งที่พวกเจ้าสามารถ อันได้แก่ กำลังอย่างหนึ่งอย่างใด
และการผูกม้าไว้ โดยที่พวกเจ้าจะทำให้ศัตรูของอัลลอฮ์ และศัตรูของพวกเจ้าหวั่นแกรงด้วยสิ่งนั้น
และพวกอื่นๆ อีก อื่นจากพวกเขา ซึ่งพวกเจ้ายังไม่รู้จักพวกเขา อัลลอฮ์ ทรงรู้จักพวกเขาดี…”
(อัลอันฟาล 8:60)
แม้โองการนี้จะกล่าวถึงบริบทของการป้องกันตนเองในยามสงคราม แต่หลักการของมันครอบคลุมถึงทุกสถานการณ์ของชีวิต กล่าวคือ การไม่ประมาท การคิดวางแผนล่วงหน้า และการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในทุกมิติของชีวิต อาทิ
1. การเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง วาตภัย ไฟป่า ไม่ได้เป็นเพียงภัยทางธรรมชาติ แต่ได้กลายมาเป็นภัยพิบัติ ที่สะท้อนให้เห็นถึง “ความไม่สมดุล” ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์เอง
ดังที่อัลกุรอานเตือนว่า
“การบ่อนทำลาย(ความเสียหาย) ได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำ เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้
เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว”
(อัรรูม 30:41)
โองการนี้สะท้อนแนวคิดเรื่อง “ความรับผิดชอบร่วม” เพราะมนุษย์ไม่ใช่เป็นเพียงผู้บริโภคหรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่อัลลอฮ์ ทรงสร้างมาเพื่ออำนวยประโยชน์ในโลกดุนยานี้เท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้ดูแล(หรือคอลีฟะฮ์)ต้องรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อมและสรรพสิ่งต่างๆ ด้วย
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อภัยธรรมชาติ ในมุมมองของอิสลาม จึงหมายถึง การกลับไปสู่การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงพอดีในทางสายกลาง(วะสะฏียะฮ์) การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกที่อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา ทรงมอบหมายให้เราดูแล ดังนั้น การเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ จึงไม่ใช่เพียงการป้องกันชีวิตทางกายภาพ แต่ยังเป็นการรักษา “อามานะฮ์” (ความไว้วางใจ) ที่อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา ทรงมอบแก่เราในฐานะผู้ดูแลโลกนี้
2. การเตรียมความพร้อมต่อภัยทางสังคมและจิตใจ
ในยุคที่เทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารไหลบ่าทุกวัน ความสับสนทางคุณค่าแห่งชีวิต การแบ่งแยกทางสังคม และความเครียดทางจิตใจได้กลายเป็น “ภัยเงียบ” ที่กัดกร่อนความศรัทธาและกัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ อัลกุรอานได้วางหลักการพื้นฐานให้มนุษย์เตรียมจิตใจและเตรียมจิตวิญญาณไว้อย่างมั่นคง
ดังที่อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา ทรงตรัสไว้ในอัลกุรอาน ความว่า
“… แท้จริงอัลลอฮ์ จะมิทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด
จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง…”
(อัรเราะอฺด์ 13:11)
โองการนี้ชี้ให้เห็นว่า “การเตรียมพร้อม” ต้องเริ่มจากภายในก่อน เราต้องปรับเปลี่ยนหัวใจและปรับทัศนคติก่อน เพื่อให้พร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภายนอก การเตรียมจิตใจให้พร้อมด้วยการเสริมสร้างศรัทธา (อีหม่าน) ให้มั่นคงเข้มแข็ง การรักษาความสัมพันธ์กับอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา ผ่านการละหมาดและการวิงวอนขอดุอาร์ จะทำให้หัวใจมั่นคงแม้ในยามที่โลกสั่นคลอน
3. การเตรียมความพร้อมสำหรับความตาย
ความตาย เป็นสัจธรรมที่ชัดเจนของชีวิต ไม่ว่ามนุษย์จะเตรียมพร้อมต่อสิ่งใดในโลกดุนยานี้ หากละเลยการเตรียมตัวต่อ “โลกอาคิเราะฮ์” การเตรียมความพร้อมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ และอัลกุรอานได้ย้ำเตือนว่า
“ทุกชีวิตย่อมลิ้มรสแห่งความตาย และแท้จริง พวกเจ้าจะได้รับการตอบแทนของพวกเจ้าโดยครบถ้วนในวันกิยามะฮ์”
(อาละอิมรอน 3:185)
และอีกโองการหนึ่ง กล่าวเตือนไว้ว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และจงให้แต่ละคนดูว่า เขาได้เตรียมสิ่งใดไว้สำหรับวันพรุ่งนี้(วันอาคิเราะฮ์)”
(อัลฮัชรฺ 59:18)
คำว่า “เตรียมสิ่งใดไว้สำหรับวันพรุ่งนี้” คือคำเตือนอันลึกซึ้ง เพื่อให้เราทบทวนทุกการกระทำในชีวิตว่า ได้สร้างความดีไว้เพียงใดสำหรับการกลับไปหาอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา การเตรียมความพร้อมสำหรับความตาย ไม่ได้หมายถึงความหวาดกลัว แต่หมายถึง การ “ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย” กล่าวคือ ทำความดี ปรับปรุงตนเอง รักษาความสัมพันธ์กับอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา ผู้ทรงสร้างและเพื่อนมนุษย์
นอกจากนี้ ท่านนบีมูฮัมหมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้เคยกล่าวไว้ว่า
“ผู้ที่ฉลาด คือผู้ที่นึกถึงความตายบ่อยๆ พร้อมทั้งเตรียมตัวอย่างดี และเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่อยู่หลังความตาย”
(จากหะดิษอิบนูมาญะฮฺ)
นี่เป็นการเตรียมความพร้อมทางจิตวิญญาณ คือ การมีสติรู้เท่าทันตนเองและรู้ว่าชีวิตในโลกดุนยานี้ไม่จีรังยั่งยืน
4. การเตรียมพร้อมอย่างสมดุล ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
อิสลามได้สอนให้มนุษย์เตรียมความพร้อมทั้งสองโลก (โลกดุนยาและโลกอาคิเราะห์) อย่างสมดุล
อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา ตรัสไว้ในอัลกุรอาน ความว่า
“และจงแสวงหาสิ่งที่อัลลอฮ์ ได้ประทานแก่เจ้าเพื่อปรโลก และอย่าลืมส่วนของเจ้าแห่งโลกนี้
และจงทำความดี เสมือนกับที่อัลลอฮ์ ได้ทรงทำความดีแก่เจ้า และอย่าแสวงหาความเสียหายในแผ่นดิน
แท้จริง อัลลอฮ์ ไม่ทรงโปรดปรานบรรดาผู้บ่อนทำลาย”
(อัลเกาะศ็อศ 28:77)
โองการนี้เป็นการให้แนวทางการดำเนินชีวิตที่ชัดเจน กล่าวคือ อิสลามไม่สอนให้มนุษย์ละทิ้งโลกนี้ (ดุนยา) เพื่อโลกหน้า (อาคิเราะห์) หรือหลงอยู่ในโลกดุนยานี้จนลืมอาคิเราะฮ์ แต่ให้เราดำเนินชีวิตด้วยความพอดี เดินทางสายกลาง ไม่สุรุ่ยสุร่าย มีความระมัดระวัง และมีการเตรียมความพร้อมต่อชีวิตทั้งสองโลก
บทสรุป : การเตรียมความพร้อม คือ สะพานแห่งศรัทธาและปัญญา
การเตรียมความพร้อมในอิสลาม คือสะพานแห่งศรัทธาและปัญญา กล่าวคือ เป็นการเดินอยู่บนสะพานระหว่าง “ความพยายาม” และ “การมอบหมายต่ออัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา” เราต้องเตรียมความพร้อมทุกมิติเท่าที่เรามีกำลังความสามารถ แล้วมอบผลลัพธ์ไว้ในพระหัตถ์ของอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูวาตะอาลา
“และจงเตรียมกำลังไว้ให้พร้อมเท่าที่พวกเจ้าสามารถ”
(อัลอันฟาล 8:60)
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์ เถิด และทุกชีวิตจงพิจารณาดูว่า
อะไรบ้างที่ตนได้เตรียมไว้สำหรับพรุ่งนี้ (วันกิยามะฮฺ) และจงยำเกรงอัลลอฮ์ เถิด
แท้จริง อัลลอฮ์ นั้นทรงรู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ...”
(อัลฮัชรฺ 59:18)
สองโองการนี้ คือแก่นแท้ของ “การเตรียมความพร้อม” ทั้งต่อชีวิตในโลกนี้และชีวิตหลังความตาย
เมื่อมนุษย์มีหัวใจที่เตรียมพร้อม เขาจะไม่หวั่นไหวต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะเขารู้ว่า ทุกสิ่งเป็นเพียงการทดสอบ และการเตรียมความพร้อมด้วยศรัทธาและปัญญา คือกุญแจสู่ความสงบของหัวใจและจิตวิญญาณทั้งในโลกนี้และโลกหน้า