
รากฐานของการสร้างสังคมจิตอาสา
เรียบเรียงโดย ... อิสมาอีล กอเซ็ม
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
อิสลาม ศาสนาแห่งการสละเพื่อส่วนรวม และรากฐานของการสร้างสังคมจิตอาสา อิสลามมิได้เป็นเพียงระบบความเชื่อ หากแต่เป็นศาสนาที่ขัดเกลามนุษย์ให้มีหัวใจแห่งความเมตตา และจิตวิญญาณของการเสียสละเพื่อสังคม
ท่ามกลางความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในโลกสงคราม ภัยธรรมชาติ พายุ น้ำท่วม หรือความยากไร้เรามักเห็นมุสลิมเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่รวมพลังเข้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อนทั้งภายในและนอกชุมชนของตน ภาพเหล่านี้มิใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากหลักคำสอนของอิสลามที่ปลูกฝังให้ผู้ศรัทธาเป็น “คนของสังคม” ผู้ที่ยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติด้วยความจริงใจ
ฟิตเราะฮฺแห่งความเมตตา : ธรรมชาติที่พระเจ้าทรงวางไว้ในหัวใจมนุษย์
มนุษย์ทุกคนถูกสร้างมาพร้อม “ฟิตเราะฮฺ”—ธรรมชาติเดิมแท้แห่งความดี ความเมตตา และความสงสารต่อผู้อื่น เมื่อเพื่อนมนุษย์เดือดร้อน หัวใจของมนุษย์ย่อมสั่นไหวและผลักดันให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แม้ไม่รู้จักกันมาก่อน
อัลลอฮฺตรัสว่า:
( فِطْرَتَ اللَّهِ الَّتِي فَطَرَ النَّاسَ عَلَيْهَا )
“นี่คือฟิตเราะฮฺของอัลลอฮฺที่พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา”
(อัร-รูม 30:30)
ด้วยฟิตเราะฮฺนี้ การช่วยเหลือจึงเป็นคุณค่าพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน ไม่จำกัดศาสนา ชาติพันธุ์ หรือสีผิว
อิสลามและหน้าที่ในการช่วยเหลือกัน
อิสลามยืนยันชัดเจนว่า การช่วยเหลือผู้อื่นคืออิบาดะฮฺ คือหนทางหนึ่งสู่ความโปรดปรานของอัลลอฮฺ และเป็นหน้าที่ของผู้ศรัทธา
หลักฐานจากอัลกุรอาน
( وَتَعَاوَنُوا عَلَى الْبِرِّ وَالتَّقْوَى )
“และพวกเจ้าจงช่วยเหลือกันบนทางความดีและความยำเกรง”
(อัล-มาอิดะฮฺ 5:2)
( إِنَّمَا الْمُؤْمِنُونَ إِخْوَةٌ )
“แท้จริงผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน”
(อัล-หุญุรอต 49:10)
หลักฐานจากหะดีษ
ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า:
“ผู้ศรัทธาต่อผู้ศรัทธาด้วยกันเปรียบเสมือนร่างกายเดียวกัน”
“อัลลอฮฺจะช่วยบ่าวของพระองค์ ตราบที่บ่าวนั้นช่วยพี่น้องของเขา”
(บันทึกโดยมุสลิม)
คำสอนเหล่านี้ยืนยันว่าสังคมมุสลิมต้องเป็นสังคมที่ยืนหยัดด้วยความเมตตาและการแบ่งปัน การช่วยเหลือของมุสลิม ไม่แบ่งแยกสีผิว เชื้อชาติ หรือศาสนา แม้จะยึดมั่นในศาสนาของตน แต่อิสลามสอนให้มนุษย์ทุกคนได้รับความเมตตา
ท่านนบี ﷺ ช่วยเหลือชาวยิว ผู้เดินทาง คนต่างศาสนา และแม้กระทั่งสัตว์ ก็ยังมีสิทธิในความเมตตา
ท่าน ﷺ กล่าวว่า :
“ในทุกชีวิตที่มีตับ (สิ่งมีชีวิต) ย่อมมีรางวัลในการช่วยเหลือมัน”
(บุคอรีและมุสลิม)
นี่คือหลักฐานชัดเจนว่า เป้าหมายของความเมตตาในอิสลามมีความเป็นสากล ครอบคลุมทุกชีวิต
ตัวอย่างความเป็นจิตอาสาในประวัติศาสตร์อิสลาม
1. ฮิลฟุลฟุดูล (พันธสัญญาแห่งคุณธรรม)
ก่อนเป็นนบี ท่านมุฮัมมัด ﷺ เข้าร่วมข้อตกลงเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกกดขี่ในมักกะฮฺ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร และหลังเป็นนบี ท่านยังกล่าวว่า: “หากวันนี้ฉันถูกเรียกให้เข้าร่วมอีก ฉันก็จะเข้าร่วม” นี่คือต้นแบบขององค์กรจิตอาสาในอิสลาม
2. การเสียสละของอันศอรในมะดีนะฮฺ
เมื่อมุฮาญิรีนอพยพไปมะดีนะฮฺ ชาวอันศอรแบ่งบ้าน แบ่งอาหาร และแบ่งทรัพย์สินให้ โดยอัลลอฮฺตรัสยกย่องว่า:
( وَيُؤْثِرُونَ عَلَى أَنْفُسِهِمْ وَلَوْ كَانَ بِهِمْ خَصَاصَةٌ )
“พวกเขาให้ผู้อื่นก่อน แม้ตัวเองจะขัดสน”
(อัล-หัชรฺ 59:9)
3. การรวมพลังในช่วงสงครามและวิกฤติ
ในสงครามตะบู๊ก มุสลิมบริจาคแม้เพียงกำมืออินทผลัม ท่านนบี ﷺ จัดตั้ง “กองเกื้อกูล” เพื่อช่วยครอบครัวผู้ยากลำบาก หญิงมุสลิมอย่าง รุฟัยดะฮฺ อัล-อัสลามียะฮฺ ทำหน้าที่เป็นพยาบาลจิตอาสาแห่งแรกในประวัติศาสตร์อิสลาม
4. ระบบวักฟ์: โครงสร้างจิตอาสาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม
วักฟ์คือกองทุนสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนรวมที่มุสลิมบริจาคไว้ ทำให้เกิด :
♦ โรงพยาบาลฟรี
♦ โรงเรียนและมหาวิทยาลัย
♦ บ้านพักคนยากไร้
♦ ที่พักนักเดินทาง
♦ การสนับสนุนผู้เป็นม่ายและเด็กกำพร้า
นี่คือสถาบันที่สร้างด้วย “หัวใจจิตอาสา” อย่างแท้จริง
การสร้างกลุ่มจิตอาสา:
ซุนนะฮฺแห่งสังคมมุสลิมเมื่อหลักคำสอนของอิสลามเน้นการช่วยเหลือ เมื่อประวัติศาสตร์มุสลิมสะท้อนการเสียสละและเมื่อฟิตเราะฮฺในหัวใจมนุษย์โน้มเอียงสู่ความดี จึงไม่แปลกที่ การสร้างกลุ่มจิตอาสาเพื่อรับใช้ส่วนรวมจะเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของสังคมมุสลิม
กลุ่มจิตอาสาไม่เพียงช่วยเหลือผู้เดือดร้อน แต่ยังสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนปลูกฝังเยาวชนให้รักการให้ทำให้ศาสนามีภาพลักษณ์ที่งดงามฟื้นฟูแบบอย่างของท่านนบี ﷺ ในยุคปัจจุบัน
การช่วยเหลือกันคือธรรมชาติเดิมแท้ของมนุษย์เป็นคำสอนที่อิสลามขัดเกลาให้สมบูรณ์ เป็นซุนนะฮฺของท่านนบี ﷺเป็นรากฐานของสังคมมุสลิมยุคแรกและเป็นความงดงามที่มนุษย์ทุกคนสัมผัสได้โดยไม่แบ่งแยกศาสนาและเชื้อชาติ
ดังนั้น การจัดตั้งกลุ่มจิตอาสาในชุมชนมุสลิมคือการปลุกหัวใจแห่งความเมตตาเสริมพลังให้สังคมและเดินตามเจตนารมณ์อันสูงส่งของอิสลาม