
กำหนดของอัลลอฮฺ และหลักวิทยาศาสตร์
เรียบเรียงโดย อิสมาอีล กอเซ็ม
ภัยพิบัติ กับหลักการกำหนดของอัลลอฮฺ และหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ย้อนแย้งกัน
الحمد لله رب العالمين والصلاة والسلام على أشرف الأنبياء والمرسلين نبينا محمد وعلى آله وصحبه أجمعين
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ภัยแล้ง หรือดินถล่ม เป็นเหตุการณ์ที่ สามารถอธิบายได้ด้วยกฎทางธรรมชาติ ซึ่งเป็น “เป็นแนวทางของอัลลอฮฺที่กำหนดให้เกิดขึ้นในโลกนี้ ” และในขณะเดียวกัน ยังอยู่ภายใต้การกำหนดของพระองค์ โดยไม่มีความขัดแย้งระหว่างสองมุมมองนี้แม้แต่น้อย
1. วิทยาศาสตร์อธิบาย วิธีการเกิด
วิทยาศาสตร์ทำหน้าที่อธิบายว่า : ทำไมฝนถึงตกหนักจนเกิดน้ำท่วม, ทำไมจานเปลือกโลกเคลื่อนที่จนเกิดแผ่นดินไหว, ทำไมภูเขาไฟปะทุ, ทำไมพื้นที่บางแห่งเกิดดินถล่มจากการตัดไม้ทำลายป่า
ทั้งหมดเป็น สาเหตุทางกายภาพ ที่เป็นกฏที่อัลลอฮฺทรงวางไว้ในจักรวาล อัลกุรอานเรียกสิ่งนี้ว่า سُنَن الله في الكو "ซุนนะฮฺของอัลลอฮฺในจักรวาล"
2. อิสลามอธิบาย ความหมายเบื้องหลังในเชิงศาสนา
ภัยพิบัติสามารถมีความหมายได้หลายรูปแบบ เช่น บททดสอบสำหรับผู้ศรัทธา, การลงโทษ ต่อชนที่ละเมิดอย่างชัดแจ้ง, การตักเตือน เพื่อให้มนุษย์กลับตัว
กฎธรรมชาติที่พระองค์กำหนด เป็นผลของการกระทำของมนุษย์ เช่น การทำลายระบบนิเวศ, การตัดไม้, การสร้างเมืองไม่สอดคล้องพื้นที่
อัลลอฮฺตรัสว่า:
ظَهَرَ الفَسَادُ فِي البَرِّ وَالبَحرِ بِمَا كَسَبَتْ أَيْدِي النَّاسِ
“ความเสียหายได้ปรากฏขึ้นในแผ่นดินและทะเล เพราะสิ่งที่มือมนุษย์กระทำ”
(อัลรูม 41)
แสดงว่าศาสนายอมรับสาเหตุธรรมชาติและสาเหตุมนุษย์ แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้ การอนุมัติและกำหนดของอัลลอฮฺ
3. ทั้งสองมุมมองไม่ขัดแย้งกัน
เพราะ… วิทยาศาสตร์ = กฎที่อัลลอฮฺวางไว้ อธิบาย “กระบวนการ” เช่น: อากาศอิ่มตัว → ฝนตกหนัก → น้ำท่วม
อิสลาม ความหมายทางศาสนา อธิบาย “เป้าหมาย/บทเรียน” เช่น: ตักเตือน, ทดสอบ, การจัดการทรัพยากรมนุษย์ผิดพลาด
ดังนั้น…การอธิบายภัยพิบัติด้วยวิทยาศาสตร์ และ การเชื่อว่าเป็นการกำหนดของอัลลอฮฺ คือสองด้านของภาพเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกันเลย
เหมือนตัวอย่าง: เรากินอาหารเพราะหิว → วิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องพลังงาน แต่ริซกียังคงมาจากอัลลอฮฺ หมอรักษาโรค → วิทยาศาสตร์อธิบายการทำงานของยา แต่การหายคือการกำหนดของอัลลอฮฺ
ภัยพิบัติ = เกิดจากกฎธรรมชาติ + อยู่ภายใต้กอฏอฺและกอดัรฺ จึงไม่ย้อนแย้งกับหลักวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาสตร์อธิบาย “กลไก” ส่วนศาสนาอธิบาย “เป้าหมายและความหมาย”
ในโลกของมนุษย์ เหตุการณ์ภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ดินถล่ม หรือภัยแล้ง มักทำให้ผู้คนตั้งคำถามว่า “ปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ หรือเป็นการกำหนดของพระผู้สร้าง?”
คำตอบคือ—ทั้งสองอย่างนี้มิได้ขัดแย้งกันแม้แต่น้อย แต่กลับ เกื้อหนุนกัน ในการทำความเข้าใจโลกและบทบาทของมนุษย์ในจักรวาลของอัลลอฮฺ
กฎทางธรรมชาติ : ระบบที่อัลลอฮฺทรงวางไว้
วิทยาศาสตร์ทำหน้าที่อธิบาย “กระบวนการเกิดภัยพิบัติ เช่น เมื่อความชื้นสูง อากาศอิ่มตัว เกิดเมฆฝนตกหนัก จนกลายเป็นน้ำท่วม การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน เป็นแผ่นดินไหว เมื่อมนุษย์ตัดไม้ทำลายป่า ดินขาดการยึดเกาะ ก็เกิดดินถล่ม
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ขัดกับศรัทธา แต่คือ “ซุนนะฮฺของอัลลอฮฺบนโลก” คือกฎธรรมชาติที่พระองค์สร้างและให้มันทำงานอย่างเป็นระบบ
อัลลอฮฺตรัสว่า:
( وَلَن تَجِدَ لِسُنَّةِ اللَّهِ تَبْدِيلًا )
“ท่านจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อซุนนะฮฺของอัลลอฮฺ”
(อัลฟัตห์ 23)
ดังนั้น ทุกปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จึงเป็นเสมือนรหัสหรือกฎที่พระองค์วางไว้ เพื่อให้มนุษย์เรียนรู้และอยู่ร่วมกับโลกอย่างมีปัญญา
ความหมายทางศาสนา : การตักเตือน การทดสอบ และการจัดการของมนุษย์
แม้ภัยพิบัติจะมีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ ด้านในของเหตุการณ์นั้นยังแฝงความหมายทางศาสนา ขึ้นอยู่กับบริบทของสังคมและพฤติกรรมมนุษย์ เช่น
1. เป็นบททดสอบ (ابتلاء) เพื่อยกระดับผู้ศรัทธา
อัลลอฮฺตรัสว่า:
( وَلَنَبۡلُوَنَّكُم بِشَيۡءࣲ مِّنَ ٱلۡخَوۡفِ وَٱلۡجُوعِ وَنَقۡصࣲ مِّنَ ٱلۡأَمۡوَ ٰلِ وَٱلۡأَنفُسِ وَٱلثَّمَرَ ٰتِ ۗ وَبَشِّرِ ٱلصَّـٰبِرِینَ )
“แน่นอน เราจะทดสอบพวกเจ้า…”
(อัลบะเกาะเราะฮฺ 155)
2. เป็นการตักเตือน ให้มนุษย์กลับสู่เส้นทางที่ถูก
เพราะความสุขสบายอาจทำให้ผู้คนลืมพระผู้เป็นเจ้า
3. เป็นผลของการกระทำมนุษย์ (فساد) เมื่อน้ำมือมนุษย์ทำลายธรรมชาติ
อัลกุรอานกล่าวว่า:
( ظَهَرَ ٱلۡفَسَادُ فِی ٱلۡبَرِّ وَٱلۡبَحۡرِ بِمَا كَسَبَتۡ أَیۡدِی ٱلنَّاسِ )
“ความเสียหายได้ปรากฏขึ้นบนบกและในทะเล เพราะสิ่งที่มนุษย์กระทำ”
(อัรรูม 41)
นี่สะท้อนให้เห็นว่า การจัดการทรัพยากรอย่างผิดพลาด การละเลยสิ่งแวดล้อม การสร้างเมืองไม่คำนึงถึงธรรมชาติ ล้วนก่อให้เกิดผลที่ย้อนกลับมาสู่สังคมเอง
สองมิติที่เสริมกัน ไม่ใช่ขัดกัน
จุดสำคัญคือ วิทยาศาสตร์อธิบาย “สาเหตุภายนอก” ในขณะที่ อิสลามอธิบาย “ความหมายภายใน”
เราเข้าใจน้ำท่วมด้วยหลักอุตุนิยมวิทยา แต่ความสูญเสียคือบททดสอบ ความเมตตา หรือผลของการบริหารผิดพลาด เราอธิบายดินถล่มด้วยสภาพดินและการตัดต้นไม้ แต่ความจริงยังชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อเนื่องของมนุษย์และความยุติธรรมของอัลลอฮฺ
เช่นเดียวกับ ยารักษาโรค → อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ → การหาย → อยู่ภายใต้การประทานของ อัลลอฮฺ มนุษย์ต้องใช้ “เหตุผล” ผ่านวิทยาศาสตร์ และต้องใช้ “ศรัทธา” เพื่อเข้าใจเป้าหมายของเหตุการณ์นั้น ๆ
บทเรียนจากภัยพิบัติ
เมื่อเข้าใจทั้งสองมิติพร้อมกัน เราจะได้บทเรียนสำคัญว่า : มนุษย์ต้องรับผิดชอบต่อทรัพยากรที่อัลลอฮฺมอบให้ การจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของอามานะฮฺ ภัยพิบัติเตือนให้เรากลับสู่การวางแผนที่ยั่งยืน ทุกเหตุการณ์มีความหมายและไม่ไร้จุดประสงค์ ความทุกข์เป็นบททดสอบที่ยกระดับผู้ศรัทธา
ภัยพิบัติธรรมชาติไม่เคยขัดแย้งกับหลักกอฏอฺและกอดัรฺของอัลลอฮ์ เพราะวิทยาศาสตร์ คือ กฎที่พระองค์ทรงวางไว้ ส่วนศาสนาคือการให้ความหมายกับเหตุการณ์นั้น ๆ การมองทั้งสองด้านพร้อมกัน ทำให้เราเป็นมนุษย์ที่เข้าใจโลกด้วยสติปัญญา และ เข้าใจชีวิตด้วยหัวใจที่เชื่อมั่นในพระผู้สร้าง