
ธนาคารเพื่ออาคิเราะห์
By One Muslimah
แม้โลกดุนยาจะเป็นเพียงโลกชั่วคราว ไม่ใช่สถานที่เก็บความมั่งคั่งและมั่นคงที่แท้จริง แต่ทว่า ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงมุ่งมั่นทุ่มเทใช้ต้นทุนเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่ ในการเสาะแสวงหาให้ได้มาซึ่งอำนาจ ผลประโยชน์ ชื่อเสียง เกียรติยศ สิ่งอำนวยประโยชน์ต่างๆ และที่สำคัญคือ เพื่อการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงิน
ในโลกดุนยา เรามีธนาคารหลากหลายประเภท ทั้งธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการลงทุน แต่สำหรับ มุสลิม ผู้ศรัทธาในศาสนาอิสลาม เราควรคำนึงถึง “ธนาคารอีกแห่งหนึ่ง” ที่สำคัญกว่าและยั่งยืนกว่า นั่นคือ “ธนาคารเพื่ออาคิเราะห์”
ธนาคารนี้ไม่มีสาขาที่ตั้งเป็นหลักแหล่งในโลกดุนยา ไม่มีผลตอบแทนทางตัวเลขที่ชัดเจน ไม่ต้องถือสมุดบัญชีในมือ แต่ธุรกรรมทุกรูปแบบ (การฝาก-ถอน) ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่มีขาดตกบกพร่อง ไม่มีการสูญหาย โดย “เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่มีศักยภาพไม่เคยทำงานพลาด” นั่นคือ มะลาอิกะฮ์ทั้งสองที่เฝ้าบันทึกการกระทำของเรา
ทุกความดีที่เราทำคือ “เงินฝาก” ที่จะสะสมไว้เป็นเสบียงความดี เป็นความมั่งคั่ง และมั่นคงที่แท้จริง ในชีวิตหลังความตาย ดังที่อัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสไว้ในกุรอาน ความว่า
“แท้จริงบรรดาผู้ที่ศรัทธาและประกอบความดีนั้น อัลลอฮ์ จะไม่ทรงทำให้รางวัลการตอบแทนของพวกเขาสูญหายอย่างแน่นอน”
(อัลกะฮ์ฟิ 18:30)
หากเปรียบองค์ประกอบของธนาคารเพื่ออาคิเราะห์ กับธนาคารทั่วไปในโลกดุนยา จะพบว่ามีองค์ประกอบที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันในจุดมุ่งหมายและวิธีคิด ซึ่งสามารถสรุปความได้ดังนี้
1. โครงสร้างของธนาคารเพื่ออาคิเราะห์
(1) เจ้าของบัญชี คือ ผู้ศรัทธาทุกคน ไม่จำกัดเพศ อายุ ซึ่งแต่ละคนมีบัญชีเป็นของตนเอง ตั้งแต่เกิดจนตาย
(2) ผู้จัดการธนาคาร คือ อัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ซึ่งพระองค์ทรงดูแล บันทึก และตอบแทนด้วยความยุติธรรม
(3) เจ้าหน้าที่บันทึกบัญชี คือ มะลาอิกะฮ์ (เทวทูตผู้บันทึก) ซึ่งมะลาอิกะฮ์ทำงานโดยไม่มีข้อผิดพลาด ไม่มีการหลงลืม ไม่มีการคอร์รัปชัน
(4) เงินฝาก คือ ความดี นั่นคือ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ และทุกเจตนา
(5) ผลตอบแทน คือ ผลบุญความดี ผลตอบแทนแต่ละความดีอาจแตกต่างกันไปตามคุณลักษณะประเภทของความดี ซึ่งทบเท่าทวีคูณ 10 เท่า ถึง 700 เท่าหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับเจตนาความบริสุทธิ์ใจ
(6) ค่าธรรมเนียม/หนี้สิน คือ บาป ซึ่งการทำผิด การทำบาป จะหักผลบุญผลตอบแทนออกจากบัญชี
(7) สมุดบัญชี คือ สมุดบันทึกการกระทำ (ทั้งความดีและความชั่ว) ซึ่งจะถูกเปิดเผยในวันกิยามะฮ์ต่อหน้าอัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
หมายเหตุสำคัญ ในระบบนี้ ไม่มี “เงินตรา” และ “อัตราแลกเปลี่ยน” แต่มี “เจตนา” เป็นตัวชี้วัดมูลค่าอัตราผลตอบแทน และมี “ความบริสุทธิ์ของหัวใจ” เป็นดัชนีความมั่งคั่ง
2. ประเภทของ “บัญชีความดี”
เช่นเดียวกับธนาคารทั่วไปในโลกดุนยาที่มีหลายประเภทบัญชี เพราะความดีในศาสนาอิสลามก็มีหลากหลายระดับแตกต่างกันไป อาทิ
(1) บัญชีกระแสรายวัน เปรียบดั่ง บัญชีสำหรับความดีเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำได้ทุกวัน เช่น การยิ้มให้พี่น้อง การกล่าวสลาม การช่วยเหลือผู้คน การไม่พูดคำหยาบ เป็นต้น ความดีเหล่านี้เหมือน “ยอดคงเหลือประจำวัน” ที่ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้น
(2) บัญชีออมทรัพย์ เปรียบดั่ง ความดีที่ทำเป็นประจำ เช่น การละหมาดวันละ 5 เวลา การอ่านอัลกุรอาน การขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ (หรือการอิสติฆฟารฺ) ความดีเหล่านี้ เหมือนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
(3) บัญชีฝากประจำ เปรียบดั่ง ความดีที่ไหลรินอย่างต่อเนื่องแม้หลังจากที่เราตายไปแล้ว อาทิ การบริจาคทานด้วยความสมัครใจ (ซอดาเกาะฮ์ญารียะฮ์) การสร้างมัสยิด การสนับสนุนการศึกษา การเผยแพร่ความรู้ความดีงามต่างๆ ซึ่งผลตอบแทนความดีประเภทนี้ยังคงเจริญงอกงามอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย แม้เจ้าของบัญชีจะจากโลกดุนยาไปแล้วก็ตาม
(4) บัญชีลงทุนเพื่อส่วนรวม เป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนกว้างขวาง เปรียบดั่ง การทำดีที่ส่งผลต่อสังคมส่วนรวม เช่น การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ผู้เดือดร้อน การปกป้องความยุติธรรม การเสียสละเพื่อส่วนรวม เป็นต้น
3. วิธีเปิดบัญชี สำหรับธนาคารเพื่ออาคิเราะห์
การเปิดบัญชีธนาคารเพื่ออาคิเราะห์ ไม่ต้องใช้บัตรประชาชนหรือเงินทุน สิ่งที่ต้องใช้คือ “หัวใจ” ที่ศรัทธา และ “เจตนา” ที่บริสุทธิ์ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มฝากความดี ดังนี้
(1) ตั้งเจตนาหรือเหนียต (นียะฮ์) ในทุกการกระทำ ว่าทำเพื่ออัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
(2) ทำความดีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นความดีเล็กๆ น้อยๆ เช่น การยิ้ม
(3) ละเว้นสิ่งต้องห้าม เพราะการไม่ทำบาป เท่ากับเป็นการรักษายอดบัญชีความดี
(4) บริจาคและช่วยเหลือด้วยสิ่งที่เรามี ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม
(5) ให้อภัยและไม่ผูกใจเจ็บ เพราะการให้อภัยคือ การล้างหนี้ของหัวใจ (ล้างหนี้บัญชี)
4. “รหัสผ่าน” ของบัญชีความดี คือ “เจตนา”
ในการทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคารใดๆ ก็ตาม จำเป็นต้องมีรหัสผ่านในการเข้าถึงบัญชี แต่สำหรับธนาคารเพื่ออาคิเราะห์ “รหัสผ่าน” คือ “การตั้งเจตนา” หรือ “นียะฮ์” โดยเหนียตว่าทำเพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น ไม่ใช่ทำเพื่อต้องการคำชม ชื่อเสียง โอ้อวด หรือเพื่อต้องการผลตอบแทนจากผู้คน
เพราะการกระทำใดๆ ก็ตาม หากมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ใจ แม้จะเป็นการงานหรือความดีที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็จะไม่ถูกบันทึกไว้ในบัญชีแห่งความดี แต่จะถูกลดทอนถูกหักออกจากบัญชีโดยอัตโนมัติ แต่การกระทำการงานแม้เพียงเล็กน้อย หากมาจากใจจริงมีเจตนาที่บริสุทธิ์ ทำเพื่ออัลลอฮ์เพียงพระองค์เดียว ล้วนมีคุณค่าและผลตอบแทนอย่างมหาศาลในสายตาของอัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
5. การฝากและการถอน โดยไม่รู้ตัว
ในโลกดุนยานี้ การฝากเงิน คือการสะสมทรัพย์ การเพิ่มทรัพย์ในบัญชี แต่ในธนาคารเพื่ออาคิเราะห์ การทำความดีคือการเพิ่มผลบุญ และการทำบาปคือการถอนทุน ซึ่งบางครั้งเราอาจหลงลืมและไม่รู้ตัวเลยว่า บัญชีความดีของเราได้ถูกถอนออกไปโดยอัตโนมัติ อันเนื่องมาจากการกระทำความผิดบาป อาทิ จากการไม่ระวังคำพูด การนินทา ไม่ควบคุมอารมณ์ หรือไปอธรรมต่อผู้อื่น จนกระทั่งในที่สุด บัญชีความดีของเราอาจเหลือศูนย์หรือติดลบ เป็นเสมือนผู้ล้มละลายได้ ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้เคยเตือนไว้ว่า
“ผู้ที่ล้มละลายในวันกิยามะฮ์ คือ ผู้ที่มาพร้อมด้วยการละหมาด การถือศีลอด และการจ่ายซะกาต
แต่เขาได้ด่าทอผู้อื่น ใส่ร้ายผู้อื่น และทำร้ายผู้อื่น ดังนั้น ความดีของเขาจะถูกนำไปให้ผู้ที่เขาอธรรม”
(บันทึกโดยมุสลิม)
นั่นหมายความว่า แม้เราจะฝากสะสมผลบุญความดีไว้มากเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าเรากระทำบาปต่างๆ บัญชีของเราก็อาจ “ถูกถอน” จนเหลือศูนย์หรือติดลบได้ในวันแห่งการคิดบัญชี (วันกิยามะห์)
บทสรุปส่งท้าย
ในโลกดุนยานี้ เราอาจมองว่า คนร่ำรวยที่มีเงินฝากหลายบัญชี มีเงินหลายล้าน เป็นคนที่มีความมั่งคั่ง แต่ในสายตาของอัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) “ผู้มั่งคั่งที่แท้จริง” คือผู้ที่มี “บัญชีความดีเต็มไปด้วยความดีงาม” เพราะทรัพย์สินที่เคยครอบครองในโลกดุนยาจะจากหายไปพร้อมร่างกายภายหลังจากที่เราเสียชีวิตลง แต่ผลบุญความดีจะติดตามเราไปจนถึงหลุมฝังศพ และต่อเนื่องตราบจนถึงวันกิยามะฮ์
จงทบทวนตนเอง ตรวจสอบบัญชีความดีของเราบ้าง หมั่นคิดและถามตนเองว่า “วันนี้เราฝากอะไรไว้ในธนาคารเพื่ออาคิเราะห์บ้าง?” และความดีในบัญชีของเราได้ถูกถอนไปมากน้อยเพียงใดแล้ว …
อย่าลืมว่า ในวันกิยามะห์ สมุดบัญชีของเราจะถูกนำมาเปิดขึ้นอีกครั้งต่อหน้าอัลลอฮ์ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) … วันนั้น เราจะไม่ถูกถามว่า “คุณมีเงินเท่าไหร่” แต่จะถูกถามว่า “คุณทำความดีอะไรไว้บ้าง?” ทุกคนจะถูกเรียกมาเพื่อสรุปบัญชีชีวิตของตนเอง
และวันนั้น … ไม่มีการแก้ตัว ไม่มีการยืมโอนผลบุญ ไม่มีการต่อเวลา
ดังนั้น โลกนี้ คือ เวลาฝาก และโลกหน้า คือ เวลาถอน … จงฝากความดีไว้ให้มากที่สุด ก่อนที่ประตูธนาคารแห่งอาคิเราะห์จะปิดลง (ความตายมาเยือน) และบัญชีธนาคารเพื่ออาคิเราะห์จะถูกเปิดอีกครั้งในวันกิยามะห์ (วันแห่งการคิดบัญชี)
“ในวันนั้น ทุกชีวิตจะถูกตอบแทนอย่างครบถ้วนตามสิ่งที่มันได้กระทำ และจะไม่มีการอธรรมใดๆ เกิดขึ้น”
(อาลิอิมรอน 3:25)