ความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม
  จำนวนคนเข้าชม  6286

ความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม


           อิสลามเป็นศาสนาแห่งความเมตตาและเป็นทางนำแห่งมวลมนุษยชาติ  ซึ่งอัลลอฮฺได้ประทานลงมาเป็นของกำนัลแด่มวลมนุษยชาติ  โดยที่พระองค์ได้ส่งท่านนบีผู้นำแห่งบรรดาศาสนทูตและเป็นนบีท่านสุดท้าย  และให้เกียรติแก่ประชาชาติของท่าน  โดยการเรียกร้องเชิญชวนไปจนถึงวันกาลอวสาน

1.  อัลลอฮฺคือพระผู้อภิบาลแห่งมวลมนุษยชาติ  สำหรับพวกเขาไม่มีพระผู้อภิบาลอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า 

ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)  ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระผู้อภิบาลมวลมนุษยชาติ” (อันนาส  114: 1)

2.  อัลลอฮฺเป็นผู้มีอำนาจเหนือมวลมนุษยชาติ  สำหรับพวกเขาไม่มีอำนาจอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า 

ความว่า “อัลลอฮฺเป็นผู้มีอำนาจครอบครองมวลมนุษยชาติ”  (อันนาส  114: 2)

3.  อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า "อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ”  (อันนาส  114: 3)

4.  อัลลอฮฺได้ประทานอัลกุรอานลงมาเป็นทางนำแก่มวลมนุษยชาติ  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
 
ความว่า  “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเพื่อเป็นข้อแนะนำตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติ  และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเป็นการแยกแยะสิ่งถูกผิด” (อัลบากอเราะฮฺ 2 : 185)

5.  อัลลอฮฺได้ส่งศาสนทูตของพระองค์คือมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  มายังมวลมนุษยชาติทั้งผอง  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า  “และเรามิได้ส่งเจ้าเพื่ออื่นใดนอกจากส่งมาเพื่อเป็นผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติทั้งหมด แต่มนุษย์ส่วนมากกลับไม่รู้”  (สะบะอฺ 34 : 28)

6.  อัลลอฮฺได้ใช้เราให้ผินหน้าไปทางกะบะฮฺ  ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างแก่มวลมนุษยชาติ  โดยที่พวกเขาละหมาดหันหน้าไปทางนั้นและประกอบพิธีฮัจญ์ที่นั่น  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
 
ความว่า  “แท้จริงบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับมนุษย์  (เพื่อการอิบาดะฮฺ)  นั้นคือบ้านที่มักกะฮฺโดยเป็นสถานที่ที่ถูกทำให้ความจำเริญและเป็นทางนำแก่มวลมนุษยชาติ  ในบ้านนั้นมีหลายสัญญาณที่ชัดแจ้งส่วนหนึ่งคือมะกอม อิบรอฮีมและผู้ใดได้เข้าไปในบ้านนั้นอันได้แก่ผู้ที่สามารถหาทางไปยังบ้านหลังนั้นและผู้ใดปฏิเสธแท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงมั่งมีเหนือประชาชาติทั้งหลาย(คือไม่ทรงพึ่งผู้ใดทั้งสิ้น)”  (อาละอิมรอน 3 : 96-97)

7.  อัลลอฮฺได้ยืนยันว่าประชาชาตินี้เป็นประชาชาติที่ประเสริฐที่สุดจากบรรดาประชาชาติที่ถูกบังเกิดขึ้นบนโลกนี้  อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า  “พวกเจ้าเป็นประชาชาติที่ประเสริฐที่สุดซึ่งถูกอุบัติขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ  โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามมิให้ปฏิบัติในสิ่งที่มิชอบ และพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ” (อาละอิมรอน 3 :110)

หะดีษ จากบะฮฺซี  บิน  หะกีม  จากบิดาของเขาจากปู่ของเขากล่าวว่า  ฉันได้ยินท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า 

«أَلَا إنَّكُمْ تُوفُونَ سَبْعِينَ أُمَّةً أنْتُـمْ خَيْرُهَا وَأكْرَمُهَا عَلَى الله عَزَّ وَجَلَّ». أخرجه أحمد والترمذي

ความว่า “พึงทราบเถิดว่า  แท้จริงพวกท่านเป็นประชาชาติที่มาสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ 70  ประชาชาติ  พวกท่านเป็นประชาชาติที่ประเสริฐและมีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮฺผู้ทรงเกียรติและสูงส่ง”  (บันทึกโดยอะหมัด  หมายเลข  20282  และอัตติรมิซีย์  หมายเลข  3001 )

8.  การเรียกร้องเชิญชวนสู่อัลลอฮฺและการเผยแผ่ศาสนาตั้งแต่ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก  เป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมทุกผู้ทุกนาม  จนกระทั่งสามารถเชิดชูคำดำรัสแห่งอัลลอฮฺให้สูงส่งและทั้งหมดเข้าสู่ศาสนาเดียวกัน 

1. อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) นี่คือแนวทางของฉัน ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺอย่างประจักษ์แจ้งทั้งตัวฉันและผู้ที่ปฏิบัติตามฉัน  และมหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺฉันมิได้อยู่ในกลุ่มบรรดาผู้ตั้งภาคี”  (ยูซุฟ  12 : 108)

2. อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า  “นี่คือข้อชี้แจงอันชัดเจนสำหรับมนุษย์และเป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง  และเป็นคำตักเตือนสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง”  (อาละอิมรอน 3 : 141)  

3. อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า “นี่คือการประกาศแก่มวลมนุษยชาติเพื่อพวกเขาจะถูกเตือนด้วยมันและเพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่าแท้จริงพระองค์คือพระเจ้าผู้เอกะ และเพื่อบรรดาผู้มีสติปัญญาจะได้รำลึก” (อิบรอฮีม 14 : 52)

9.  อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล เรียกร้องมนุษย์สู่การเคารพภักดีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีหุ้นส่วน  ใดๆพร้อมพระองค์ ต้องรู้จักพระนาม  คุณลักษณะ  และการกระทำของพระองค์  และให้เกียรติแก่พวกเราที่เชิญชวนมนุษย์ไปสู่สิ่งดังกล่าว  ประการแรกที่อัลกุรอานเชิญชวนมนุษยชาติสู่การเคารพภักดีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีหุ้นส่วน  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า  “โอ้บรรดามนุษยชาติจงเคารพภักดีต่อพระผู้อภิบาลของพวกสูเจ้าผู้ที่ได้สร้างบรรดาสูเจ้าและบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกสูเจ้าเพื่อว่าพวกสูเจ้าจะได้ยำเกรง  คือผู้ที่ประทานแผ่นดินให้เป็นที่นอนและชั้นฟ้าเป็นอาคารแก่พวกสูเจ้า  และประทานน้ำฝนหลั่งลงมาจากฟากฟ้า  แล้วได้ให้ผลไม้หลากหลายชนิดออกมาเนื่องจากน้ำนั้นเพื่อเป็นริสกีแก่พวกสูเจ้า  ดังนั้นพวกสูเจ้าอย่าได้ยึดผู้ใดมาเทียบเคียงกับอัลลอฮฺ  โดยที่พวกสูเจ้าก็รู้กันอยู่”  (อัลบากอเราะฮฺ   2 : 21-22)

10. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล เป็นพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล  สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีพระผู้อภิบาลอื่นอีกแล้วนอกจากพระองค์  ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า  “การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก”  (อัลฟาติหะฮฺ  1 : 2)

11. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล ได้ส่งรอซูลของพระองค์คือนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เพื่อมาตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติและนำความเมตตามายังพวกเขาตราบจนถึงวันกาลอวสาน  อัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า “ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ผู้ประทานอัลฟุรกอนแก่บ่าวของพระองค์ (มุฮัมมัด) เพื่อเขาจะได้ตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติ” (อัลฟุรกอน 25 : 1)   

และอัลลอฮฺตรัสว่า

ความว่า  “และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่มวลมนุษยชาติ”  (อัลอัมบิยาอ์ 21 : 107)

มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ อัต-ตุวัยญิรีย์
محمد بن إبراهيم بن عبدالله التويجري

Islam house

แปลโดย: ยูซุฟ อบูบักรฺ
ترجمة: يوسف أبوبكر