ท่านไม่ศรัทธาหรือ ?
  จำนวนคนเข้าชม  7121

 

ท่านไม่ศรัทธาหรือ ?


โดย....อาจารย์ สุเบร วงษ์สันต์  


         ท่านพี่น้องศรัทธาชนทุกท่าน ท่านทั้งหลายจงยำเกรง ทำจิตใจให้อ่อนน้อม หวั่นไหวในกิจการงานต่างๆของอัลลอฮ โดยการน้อมรับและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและมีความสุข และหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้อัลลอฮโกรธกริ้ว 


          ท่านพี่น้องทั้งหลาย การที่คนๆ หนึ่งทำหน้าที่เผยแพร่สารต่างๆ แต่ละคนก็มีขั้นตอนต่างกันไปขึ้นกับสภาพแวดล้อมต่างๆ จะพูดจะทำอย่างไรให้คำสอนเข้าสู่จิตใจคนฟัง หากเราย้อนดูประวัติศาสตร์ เราจะเห็นเทคนิควิธีการเผยแพร่ของบรรดานบีต่างๆ ลองย้อนกลับไปสมัยท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม  ก่อนที่ท่านจะทำหน้าที่เผยแพร่  อันดับแรกท่านต้องสร้างความมั่นใจในสิ่งที่ท่านจะนำเสนอ และสร้างความสงบใจ ก่อนที่จะไปเผชิญหน้าต่อปากต่อคำกับกลุ่มชนที่มีความเห็นแย้งกับท่าน ท่านนบีขอต่ออัลลอฮ ในซูเราะฮฺบากอเราะฮฺว่า

 
 “และจงรำลึกถึงขณะที่อิบรอฮีมขอต่อพระองค์ว่า โปรดทรงแสดงให้ข้าฯได้เห็นว่าพระองค์จะทรงทำให้คนตายฟื้นได้อย่างไร 

อัลลอฮจึงได้ถามกลับว่า  ท่านไม่ศรัทธาหรือ 

ท่านนบีอิบรอฮีมตอบว่า ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าเพียงแต่ต้องการให้จิตใจของข้าสงบ 

 และอัลลอฮก็ได้ให้นบีอิบรอฮีมเอานกมาสี่ตัว และเลี้ยงมันให้คุ้น และสับมันออกเป็นท่อนๆ แล้วเอาไปไว้ตามภูเขา

หลังจากนั้นก็ให้เรียกมัน มันจะกลับมามีชีวิตและบินมาหาท่าน”

 

          เพราะฉะนั้น ด้วยเหตนี้ ก่อนที่อัลลอฮจะใช้ท่านนบีให้ไปเผยแพร่ อัลลอฮ  ก็ทรงแสดงสัญญาณต่างๆให้ท่านเห็นมากมาย  ดังที่อัลลอฮได้ให้ท่านเห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินเพื่อให้นบีอิบรอฮีมมีความเชื่อมั่น ส่วนใหญ่การเผยแพร่ของท่านนบีอิบรอฮีมจะใช้การโต้เถียงด้วยเหตุผลทางสติปัญญา เช่นในตอนที่ท่านทำลายรูปปั้นในกลุ่มชนของท่าน ชาวเมืองถามท่านว่าใครเป็นผู้ทำลาย ท่านนบีอิบรอฮีมได้บอกให้ไปถามรูปปั้นตัวใหญ่  แค่คำพูดแค่นี้ ก็ทำให้ชาวเมืองรู้แล้วว่าสิ่งที่เขากำลังเชื่อ มันไม่สามารถพูดหรือคุ้มครองอะไรพวกเขาได้  กลุ่มชนของท่านนบีอิบรอฮีมมีความงมงายในสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้า นับถือดวงดาว  ท่านนบีอิบรอฮีมก็เคยเป็นหนึ่งในกลุ่มชนของท่าน


กุรอ่านได้เล่าเหตุการณ์ขณะที่ท่านตามหาพระเจ้าว่า เมื่อเวลากลางคืนมาถึงดวงดาวก็ปรากฏขึ้น ท่านนบีอิบรอฮีมก็บอกว่า ดวงดาวนี่แหละพระเจ้าของฉัน แต่พอมันหายไป ท่านนบีอิบรอฮีมก็ปฏิเสธการเป็นพระเจ้าของดวงดาวนั้นๆ 

และเมื่อเห็นดวงจันทร์ที่แจ่มจรัส ท่านนบีอิบรอฮีมก็บอกว่า นี่แหละพระเจ้าของฉัน แต่เมื่อดวงจันทร์หายไป ท่านนบีอิบรอฮีมก็ได้กล่าวขึ้นว่า หากว่าพระองค์ไม่ทรงนำทางฉันแล้วละก็ ฉันก็จะเป็นผู้หนึ่งในกลุ่มชนที่หลงทาง 

และเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ท่านนบีอิบรอฮีมก็บอกว่า นี่แหละพระเจ้าของฉัน อันนี่แหละใหญ่ที่สุด แต่เมื่อดวงอาทิตย์หายไป ท่านก็บอกว่า ฉันบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกท่านทำให้มีหุ้นส่วน(กับการเป็นพระเจ้าของอัลลอฮ) นี่คือการใช้หลักฐานด้านสติปัญญา 


          ในสมัยของท่านนบีมูซา อะลัยฮิสลามบ้าง  ก่อนที่ท่านนบีมูซาจะทำหน้าที่ ท่านก็ได้ขอความเชื่อมันต่ออัลลอฮเช่นกัน โดยขอเห็นตัวตนของพระองค์ อัลลอฮจึงได้มีรับสั่งท่านนบีมูซาว่าให้มองไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง หากว่าขณะที่พระองค์ทรงลงมา แล้วภูเขานั้นๆ สามารถมั่นคงอยู่กับที่ของมันได้ละก็ ท่านจะได้เห็นพระองค์  แต่เมื่อพระองค์ทรงลงมา ภูเขานั้นก็สั่นสะเทือนพังพินาศ ท่านนบีมูซาก็สลบไป  นั่นหมายถึงความยิ่งใหญ่และสูงส่งของอัลลอฮนั้นไม่เหมาะสมไม่คู่ควรกับโลกใบเล็กใบนี้  เมื่อท่านบีมูซาแน่ใจและสงบใจแล้วก็กลับไปทำหน้าที่กับกลุ่มชนต่อไป


          ท่านพี่น้องผู้มีเกียรติ สิ่งที่ผมต้องการจะถ่ายทอด คือ ให้ดูในยุคสมัยของนะบี และรอซูล ทั้งหลาย  พวกเราจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า ทุกวันนี้เรามีอัลลอฮ เป็นพระเจ้า หรือยังไม่ชัดเจนยังคลุมเครือ หลายคนยังตั้งคำถามแนวนี้กับตัวเองอยู่หรือไม่  สิ่งที่จะเพิ่มพูนอีมานและหนทางที่จะให้เราเข้าถึงอัลลอฮนั้น  ทุกวันนี้เราได้ขวนขวายหามันแล้วหรือยัง   อัลลอฮได้ให้สติปัญญามนุษย์เพื่อการคิดวิเคราะห์ โดยเฉพาะในยุคหลังๆ นี้ถือว่าสุดยอด เก่งรอบด้าน จะไม่ให้เก่งได้อย่างไรในเมื่ออัลลอฮทรงตรัสไว้ว่า

   سنريهم آيَاتِنَا فِي الآفَاقِ وَفِي أَنْفُسِهِمْ حَتَّى يَتَبَيَّنَ لَهُمْ أَنَّهُ الْحَقُّ

 “เราจะให้พวกเขาได้เห็นสัญญาณต่างๆของเราในชั้นฟ้า  จนกระทั่งคนเหล่านี้จะรู้แจ้งเห็นจริงว่าอัลลอฮนั้นคือความจริง”

 

           พี่น้องที่มีเกียรติ การเข้าถึงความจริงเหล่านี้ต้องมีการศึกษาอย่างจริงจัง และอย่าเอาดุนยามาเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของเรา หากว่าเราศึกษาเรื่องฟากฟ้าและอวกาศ และพยายามทำตัวเราให้สูงกว่าโลกใบนี้ อัลลอฮุอักบัร ท่านจะพบว่าความโกลาหล ความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดี การเอาชนะกันในเรื่องของทรัพย์สิน ตำแหน่งหน้าที่การงาน เกียรติยศ สิ่งที่อยู่ในโลกใบนี้ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเล็กมาก ต้องถามตัวเองว่าเรื่องพวกนี้ทำให้อิหม่านเราเพิ่มขึ้นไหม ตายไปแล้วมีคนสรรเสริญเยินยอไหม ?

อัลลอฮ ตรัสเอาไว้ในกุรอ่านว่า

 لَخَلْقُ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ أَكْبَرُ مِنْ خَلْقِ النَّاسِ وَلَكِنَّ أَكْثَرَ النَّاسِ لا يَعْلَمُونَ (57)

 “แน่นอน การสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้นมันยิ่งใหญ่กว่าการสร้างมนุษย์ แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้”

          เพราะฉะนั้น ทุกวันนี้เราสนใจอะไรกันอยู่  ควรมองเรื่องที่จะเพิ่มพูนอีหม่าน คิดอยู่เสมอว่าดุนยาโลกนี้เป็นเพียงทางผ่าน เรากำลังเดินทางกันอยู่ สุดท้ายแล้วก็ต้องกลับบ้าน นั่นคือ "ดิน" กลับไปหาอัลลอฮ  อย่าให้ความสำคัญกับสิ่งปลีกย่อยมากเกินไป  ควรเอาใจใส่กับประเด็นหลัก และสิ่งที่สำคัญ  เพราะฉะนั้น ตั้งสติกันให้ดี


          โดยเฉพาะบรรดาผู้หญิงทั้งหลาย แต่งตัวอย่าเอาแค่ความสวยงามตามอารมณ์  หากแต่ต้องสง่างามตามวิถีทางของอิสลาม ท่านนบี  มองเห็นในนรกสภาพของผู้หญิงที่แต่งตัวไม่ดี ....ชุดวันอีดไม่จำเป็นต้องไปซื้อใหม่ ขอแค่เป็นชุดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ก็พอแล้ว ลูกของท่านอุมัรบินอับดุลอาซีซ ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าขาดๆ ในวันอีด ได้ตอบกับผู้เป็นพ่อว่า

“หากว่าจิตใจของข้านั้นจะต้องทรยศต่อผู้เป็นเจ้าแล้ว มันเป็นสิ่งที่น่าอดสูยิ่งกว่า (การใส่เสื้อผ้าขาดๆ) 

ข้าขอรับการพอใจจากอัลลอฮ  ด้วยสาเหตุของการพอใจของพ่อแม่”

 

         ลองดูทุกวันนี้สิ พ่อแม่กลับเห็นดีเห็นงามด้วย พวกเราต้องทำความเข้าใจว่าเราเกิดมาเป็นมุสลิม และต้องยึดมั่นต่อความถูกต้อง

 อัลลอฮ   ตรัสว่า

فَمَنْ يُرِدِ اللَّهُ أَنْ يَهْدِيَهُ يَشْرَحْ صَدْرَهُ لِلإِسْلامِ

وَمَنْ يُرِدْ أَنْ يُضِلَّهُ يَجْعَلْ صَدْرَهُ ضَيِّقًا حَرَجًا كَأَنَّمَا يَصَّعَّدُ فِي السَّمَاءِ

 “ใครก็ตามที่อัลลอฮต้องการให้เขาได้รับทางนำ อัลลอฮจะทำให้จิตใจเขาเบิกบานด้วยกับอิสลาม

และใครก็ตามที่อัลลอฮต้องการให้เขาหลงทาง อัลลอฮจะทำให้หัวอกของเขาอึดอัด  ประหนึ่งเหมือนกับเขาขึ้นไปบนท้องฟ้าที่สูง”


           นี่เป็นสิ่งยืนยันความมหัศจรรย์ของกุรอ่าน ท่านนบี ไม่เคยได้ปีนเขาสูงๆ แต่ท่านทราบด้วยกับการที่อัลลอฮ  ทรงบอก เพราะฉะนั้น เราทุกคนก็มีหน้าที่ต้องศึกษา ต้องหาความรู้ ดูโทรทัศน์ให้ได้สาระ  เลือกดูรายการที่เป็นประโยชน์ที่เสริมสร้างอีมาน อะไรทีผิดพลาดไปก็เริ่มต้นกันใหม่ แต่หากเราไม่สนใจอะไร วันๆ เอาแต่คิดเรื่องธุรกิจ อีมานก็จะเข้าไม่ถึงจิตใจ   อย่าลืมว่าตอนนี้เรากำลังเดินทางอยู่ และเราจะต้องกลับไปบ้าน และการกลับไปครั้งนี้แน่นอนว่ามันจะมีคุณงามความดีรอเราอยู่ ตราบใดที่การเดินทางของเรานั้นเป็นไปตามครรลองของศาสนาอิสลาม

 

أقول قولي هذا وأستغفر الله لي ولكم و لسائر المسلمين

 

คติธรรมอาหรับ บอกไว้ว่า

ما كان لله دام واتصل .. وما كان لغير الله انقطع وانفصل


สิ่งใดดำเนินไปเพื่ออัลลอฮ

สิ่งนั้นจะถาวร และต่อเนื่อง

สิ่งใดดำเนินไปเพื่ออื่นจากพระองค์

สิ่งนั้นจะเว้นช่วง และขาดตอน

 


คุตบะฮฺวันศุกร์ มัสยิดดารุลอิห์ซาน