อะญัล(อายุขัย)และริสกี(โชคลาภหรือปัจจัยยังชีพ) 1
  จำนวนคนเข้าชม  15407

 

อะญัล(อายุขัย)และริสกี(โชคลาภหรือปัจจัยยังชีพ) 1


ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์



          มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิของอัลลอฮฺ ขอการประทานพรและความสันติมีแด่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ข้าขอปฏิญานว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมหมัดนั้นเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์


    รายงานจากท่าน อับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่าแท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งท่านเป็นผู้สัจจริงและผู้ถูกยอมรับว่าสัจจริง ได้กล่าวว่า

« إِنَّ أَحَدَكُمْ يُجْمَعُ خَلْقُهُ فِى بَطْنِ أُمِّهِ أَرْبَعِينَ يَوْمًا، ثُمَّ يَكُونُ مِثْلَ ذَلِكَ عَلَقَةً، ثُمَّ يَكُونُ مِثْلَ ذَلِكَ مُضْغَةً، ثُمَّ يُرْسَلُ الْمَلَكُ فَيَنْفُخُ فِيهِ الرُّوحَ، وَيُؤْمَرُ بِأَرْبَعِ كَلِمَاتٍ : بِكَتْبِ رِزْقِهِ، وَأَجَلِهِ، وَعَمَلِهِ، وَشَقِىٌّ أَوْ سَعِيدٌ» [البخاري برقم 7454، ومسلم برقم 2631]

ความว่า “แท้จริงแต่ละคนในหมู่พวกท่าน จะถูกรวมใน(ช่วงแรกเริ่ม)การกำเนิดของเขาในครรภ์มารดาเป็นระยะเวลา 40 วัน 

หลังจากนั้น มันก็กลายเป็นก้อนเลือด(ในระยะเวลา)เช่นเดียวกัน(คือ 40 วัน)   หลังจากนั้นมันกลายเป็นก้อนเนื้อ(ในระยะเวลา) เช่นเดียวกัน(คือ 40วัน)  

แล้ว มะลาอิกะฮฺก็จะถูกส่งมาเพื่อทำการเป่าวิญญาณใส่เข้าไป และถูกบัญชาให้บันทึก 4 ประการ 

คือบันทึก(จำนวน)ปัจจัยยังชีพ(ริสกี)ของเขา  อายุขัย(ระยะเวลาการมีชีวิต)ของเขา การงานของเขา และบันทึกว่าเขาเป็นคนโชคร้ายหรือโชคดี“


(อัล-บุคอรีย์ เล่มที่ 4 หน้าที่ 396 หะดีษหมายเลข 7454 และมุสลิม เล่มที่ 4 หน้าที่ 2036 หะดีษหมายเลข 2631)


          ในหะดีษบทนี้มีเรื่องที่เร้นลับสี่อย่างที่วาญิบจำเป็นจะต้องศรัทธาและเชื่อมั่นในความเป็นจริงของมัน ในที่นี้จะขอกล่าวเพียงสองอย่างนั้นคือ อายุขัยและริสกี


          หลักฐานจากอัลกุรอานและสุนนะฮฺได้บ่งบอกว่า อัลลออฮฺได้กำหนดอะญัล(อายุขัย)และริสกี(ปัจจัยยังชีพ)ไว้แล้ว ดังนั้น ความพยายามของผู้ที่พยายามจึงไม่อาจจะเพิ่มทั้งสองสิ่งนี้ได้ และความรังเกียจของผู้ที่รังเกียจก็ไม่อาจจะปฏิเสธมันได้

         รายงานจากท่าน อับดุลลอฮฺ บิน อัมร์ บิน อัล-อาศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ว่าแท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า



«كَتَبَ اللَّهُ مَقَادِيرَ الْخَلاَئِقِ قَبْلَ أَنْ يَخْلُقَ السَّمَوَاتِ وَالأَرْضَ بِخَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ - قَالَ - وَعَرْشُهُ عَلَى الْمَاءِ» [مسلم برقم 2652]

ความว่า “อัลลอฮฺได้เขียนกำหนดการต่างๆ ให้แก่สรรพสิ่งต่างๆ ก่อนที่จะทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินถึงห้าหมื่นปี”

แล้วท่านนบีกล่าวต่อความว่า “และบัลลังค์ของอัลลอฮฺนั้นอยู่เหนือน้ำ“


(มุสลิม เล่มที่ 4 หน้าที่ 2044 หะดีษหมายเลข 2652)

   
          แท้จริง อัลลอฮฺได้เน้นย้ำความจริงนี้ในหลายๆ อายะฮฺในคัมภีร์ของพระองค์ อัลลอฮฺตรัสว่า



﴿ وَمَا كَانَ لِنَفۡسٍ أَن تَمُوتَ إِلَّا بِإِذۡنِ ٱللَّهِ كِتَٰبٗا مُّؤَجَّلٗاۗ وَمَن يُرِدۡ ثَوَابَ ٱلدُّنۡيَا نُؤۡتِهِۦ مِنۡهَا وَمَن يُرِدۡ ثَوَابَ ٱلۡأٓخِرَةِ نُؤۡتِهِۦ مِنۡهَاۚ وَسَنَجۡزِي ٱلشَّٰكِرِينَ ١٤٥ ﴾ [آل عمران: ١٤٥]

ความว่า และชีวิตหนึ่งชีวิตใดย่อมจะไม่ตายนอกจากด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้น ทั้งนี้เป็นลิขิตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

และผู้ใดต้องการผลตอบแทนในโลกนี้ เราก็จะให้แก่เขาจากโลกนี้

และผู้ใดต้องการผลตอบแทนในปรโลก เราก็จะให้แก่เขาจากปรโลกและจะตอบแทนแก่ผู้กตัญญูทั้งหลาย“


(สูเราะฮฺ อาล อิมรอน 145)  


         และอัลลอฮฺตรัสว่า



﴿ وَلِكُلِّ أُمَّةٍ أَجَلٞۖ فَإِذَا جَآءَ أَجَلُهُمۡ لَا يَسۡتَأۡخِرُونَ سَاعَةٗ وَلَا يَسۡتَقۡدِمُونَ ٣٤ ﴾ [الأعراف: ٣٤]  

ความว่า “และสำหรับแต่ละประชาชาตินั้นมีกำหนดเวลาหนึ่ง ครั้นเมื่อกำหนดเวลาของพวกเขามาถึงแล้ว

พวกเขาไม่อาจจะขอให้ล่าช้าไปสักชั่วโมงหนึ่งได้ และพวกเขาไม่อาจจะขอให้เร็วขึ้น(สักหนึ่งชั่วโมง)ได้“


(สูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ 34 )
 

          พวกมุนาฟิกีนบางส่วนคิดไปว่าการที่เขาไม่เข้าร่วมสู้รบในหนทางของอัลลอฮฺ และความขลาดของพวกเขาในการเผชิญหน้ากับศัตรู จะเป็นเกราะป้องกันพวกเขาจากความตาย อัลลอฮฺได้ตัดความหวังที่เป็นเท็จนั้น ด้วยการตรัสว่า



﴿يَقُولُونَ لَوۡ كَانَ لَنَا مِنَ ٱلۡأَمۡرِ شَيۡءٞ مَّا قُتِلۡنَا هَٰهُنَاۗ قُل لَّوۡ كُنتُمۡ فِي بُيُوتِكُمۡ لَبَرَزَ ٱلَّذِينَ كُتِبَ عَلَيۡهِمُ ٱلۡقَتۡلُ إِلَىٰ مَضَاجِعِهِمۡۖ وَلِيَبۡتَلِيَ ٱللَّهُ مَا فِي صُدُورِكُمۡ وَلِيُمَحِّصَ مَا فِي قُلُوبِكُمۡۚ وَٱللَّهُ عَلِيمُۢ بِذَاتِ ٱلصُّدُورِ ١٥٤ ﴾ [آل عمران: ١٥٤]  

“พวกเขากล่าวว่า หากปรากฏว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากกิจการนั้นเป็นสิทธิของเราแล้วไซร้ พวกเราก็จะไม่ถูกฆ่าตายที่นี่ จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า

 

แม้ว่าพวกท่านจะอยู่ในบ้านของพวกท่านก็ตาม แน่นอนบรรดาผู้ที่การฆ่าได้ถูกกำหนดให้แก่พวกเขา ก็จะออกไปฆ่าถึงที่นอนของพวกเขา

และเพื่อที่อัลลอฮฺจะทรงทดสอบสิ่งที่อยู่ในหัวอกของพวกเจ้า และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในหัวอกทั้งหลาย“


(สูเราะฮฺ อาลอิมรอน 154) 



         ด้วยเหตุนี้ ข้อเท็จจริงที่เราเห็นก็คือว่า ในสงครามต่างๆ นั้นผู้ที่ถูกฆ่าตายขณะที่หนีทัพนั้นมีมากกว่าผู้ที่ตายขณะที่มุ่งหน้าเข้าประจัญบานกับศัตรูหลายเท่าทีเดียว นักกวีกล่าวความว่า

 

“เมื่อฉันถอยในการเผชิญชีวิต ฉันพบว่าไม่มีชีวิต(ที่ดี)สำหรับฉันเท่ากับการที่ฉันเดินหน้า”


         เช่นเดียวกันกับเรื่องริสกีหรือปัจจัยยังชีพ เพราะสิ่งที่ถูกกำหนดให้กับบ่าวนั้น เขาจะได้รับมันอย่างปฏิเสธไม่ได้ อัลลอฮฺได้ตรัสว่า



﴿ ۞وَمَا مِن دَآبَّةٖ فِي ٱلۡأَرۡضِ إِلَّا عَلَى ٱللَّهِ رِزۡقُهَا وَيَعۡلَمُ ُسۡتَقَرَّهَا وَمُسۡتَوۡدَعَهَاۚ كُلّٞ فِي كِتَٰبٖ مُّبِينٖ ٦ ﴾ [هود: ٦]  

ความว่า “และไม่ว่าสัตว์ตัวใดที่เหยียบย่ำอยู่ในแผ่นดิน เว้นแต่เครื่องยังชีพของมันเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ(ที่จะทรงกำหนดให้)

และพระองค์ทรงรู้ที่พำนักของมันและที่พักชั่วคราวของมัน ทุกสิ่งอยู่ในบันทึกอันชัดแจ้ง"


(สูเราะฮฺ ฮูด 6)


และอัลลอฮฺได้ตรัสว่า



﴿ وَفِي ٱلسَّمَآءِ رِزۡقُكُمۡ وَمَا تُوعَدُونَ ٢٢ فَوَرَبِّ ٱلسَّمَآءِ وَٱلۡأَرۡضِ إِنَّهُۥ لَحَقّٞ مِّثۡلَ مَآ أَنَّكُمۡ تَنطِقُونَ ٢٣ ﴾ [الذاريات: ٢٢،  ٢٣]  

ความว่า “และในฟากฟ้านั้นมีปัจจัยยังชีพของพวกเจ้า และสิ่งที่พวกเจ้าถูกสัญญาไว้ 

ดังนั้น จึงขอสาบานต่อพระเจ้าแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดินนี้ว่า

แท้จริง (สิ่งที่ถูกสัญญาไว้นั้น) เป็นความจริงอย่างแน่นอน เสมือนกับที่พวกเจ้าสนทนากัน“


(สูเราะฮฺ อัซ-ซาริยาต 22-23)


          มีรายงานจากท่าน อบู อุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่าแท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า

«إِنَّ رُوْحَ القُدُسِ نَفَثَ فِيْ رُوْعِيْ أَنَّ نَفْسًا لَنْ تَمُوْتَ حَتَّى تَسْتَكْمِلَ أَجَلَهَا، وَتَسْتَوْعِبَ رِزْقَهَا، فَاتَّقُوا اللهَ وَأَجْمِلُوْا فِيْ الطَّلَبِ، وَلَا يَحْمِلَنَّ أَحَدَكُمْ اسْتِبْطَاءُ الرِّزْقِ أَنْ يَطْلُبَهُ بِمَعْصِيَةِ اللهَ، فَإِنَّ اللهَ تَعَالَى لَا يُنَالُ مَا عِنْدَهُ إِلَّا بِطَاعَتِهِ» [حلية الأولياء 10/28، وصححه الألباني في صحيح الجامع الصغير برقم 2085]



ความว่า “แท้จริง วิญญาณบริสุทธิ์(ญิบรีล)ได้ใส่วะหฺยูมายังฉันว่า

แท้จริงชีวิต(คนๆ)หนึ่งจะไม่ตายจนกว่าจะครบอายุขัยที่ถูกกำหนดให้แก่เขา(อะญัล)และใช้ริสกีที่ถูกกำหนดให้จนหมด

ดังนั้น พวกท่านจงเกรงกลัวอัลลอฮฺ และจงหามา(ริสกี)ด้วยวิธีที่ดี(ถูกหลักศาสนา)

อย่าให้การล่าช้าในการได้ริสกี ทำให้คนใดในหมู่พวกท่านหามันมาด้วยวิธีที่บาป

เพราะแท้จริงอัลลอฮฺตะอาลานั้น ไม่มีใครที่สมควรได้สิ่งที่อยู่ ณ พระองค์ยกเว้นด้วยการภักดีต่อพระองค์เท่านั้น”


(หิลยะตุลเอาลิยาอ์ 10/28 เชค อัล-อัลบานีย์วินิจฉัยว่าเศาะฮีหฺในเศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ อัศ-เศาะฆีรฺ 1/420 หมายเลข 2085)



          ดังนั้น สิ่งที่ถูกกำหนดสำหรับบ่าวเกี่ยวกับริสกีและอายุขัยนั้น เขาจะได้ใช้มันจนหมดก่อนที่เขาจะสิ้นชีวิตลง รายงานจากท่าน ญาบิรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า แท้จริงท่านบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า



«لَوْ أَنَّ ابْنَ آدَمَ فَرَّ مِنْ رِزْقِهِ كَمَا يَفِرُّ مِنَ الْمَوْتِ لَأَدْرَكَهُ رِزْقُهُ كَمَا يُدْرِكُهُ الْمَوْتُ» [حلية الأولياء 7/90، وصححه الألباني كما في السلسلة الصحيحة برقم 752]

ความว่า “หากลูกหลานอาดัม(มนุษย์)วิ่งหนีจากริสกีของเขาเหมือนกับที่เขาวิ่งหนีความตาย

แน่แท้ว่า ริสกีของเขาก็จะมาถึงตัวเขาเหมือนเช่นความตาย ที่ย่อมจะมาถึงตัวเขาแน่นอน”

 

 

(หิลยะตุลเอาลิยาอ์ 7/90 เชค อัล-อัลบานีย์ตัดสินว่าเศาะฮีหฺในอัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ 1/672 หมายเลข 752)

 



แปลโดย : อิสมาน จารง / Islam house

 

อะญัล(อายุขัย)และริสกี(โชคลาภหรือปัจจัยยังชีพ) 2  >>>>......Click next