เคล็ดลับการใช้ชีวิตที่เป็นสุข (1)
  จำนวนคนเข้าชม  7962

เคล็ดลับการใช้ชีวิตที่เป็นสุข (1)


         มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะไขว่คว้าหาความสุข ด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงดิ้นรนต่อสู้ไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตามเพื่อให้ได้มันมา แม้จะด้วยวิธีการที่ผิดก็ตาม สำหรับบางคน เงินคือทุกสิ่ง เพราะเงินทำให้เขาได้รับความสุขและความสะดวกสบาย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สนใจว่าจะหาเงินมาได้โดยวิธีไหน (ไม่ว่าจะผิดหรือถูก) คนเหล่านี้จะนึกถึงแต่ผลที่ได้ กล่าวคือ จำนวนเงินที่จะได้ ในทางตรงข้ามบางคน กลับมีความสุขความสบายใจเมื่อได้ใช้จ่ายเงินไปในการทำกุศลทาน คนเหล่านี้รู้สึกสงบเมื่อพวกเขาเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ในทำนองเดียวกัน ก็มีอีกบางคนที่ได้รับความสุขเมื่อได้รับความรู้เรื่องอิสลามและเผยแผ่ถ้อยคำอันเป็นสัจธรรมของอัลลอฮฺไปยังผู้อื่น


ความลับของชีวิตที่มีความสุข

           อัลลอฮฺทรงเป็นพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ถ้าหากอัลลอฮฺทรงตัดสินใจที่จะประทานทางนำแก่ผู้ที่หลงทางแล้ว ความเศร้าโศกและความกังวลของคนผู้นั้นก็จะเปลี่ยนไปเป็นความสุข เพราะการที่เขาได้รู้และเข้าใจถึงเป้าหมายในชีวิตของเขา


เคล็ดลับบางอย่างในการมีชีวิตที่มีความสุข

1) แสดงความกตัญญูและมีความพึงพอใจ

           วิญญาณที่ท้อแท้สิ้นหวังทั้งหลาย ลองดูรอบๆ ตัวคุณดูสิ รอบตัวคุณนั้นมีแต่ความโปรดปรานมากมายสุดคณานับ อากาศที่คุณหายใจเข้าไป อาหารสดใหม่ที่คุณกิน เสื้อผ้าสะอาดที่คุณสวมใส่ และที่พักอันอบอุ่นที่คุณอาศัยอยู่ ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงส่วนเล็กๆ น้อยๆ จากความโปรดปรานอันสุดคณานับจากพระผู้อภิบาลผู้ทรงยิ่งใหญ่ของเรา แต่ถึงกระนั้น พวกเราบางคนก็ยังมีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวัง กังวลและกดดัน แน่นอน ถ้าเราเปรียบเทียบว่าอัลลอฮฺทรงโปรดปรานเรามากมายเพียงใดนั้น คุณจะไม่ปล่อยเวลาในชีวิตของคุณให้สูญเสียไปอยู่ในความท้อแท้สิ้นหวังแม้แต่เพียงวินาทีเดียว

“และถ้าหากสูเจ้าจะนับความโปรดปรานของอัลลอฮฺแล้ว สูเจ้าก็ไม่สามารถที่จะนับมันได้ทั้งหมด”

(กุรอาน 14: 34)

 ครั้งหนึ่ง ท่านนบีมุฮัมหมัด  ได้แนะนำเราอย่างน่าคิดว่า

“จงมองไปยังคนที่อยู่ต่ำกว่าพวกท่าน และจงอย่ามองไปยังคนที่อยู่เหนือกว่าท่าน

แล้วท่านจะไม่คิดว่าความโปรดปรานที่อัลลอฮฺได้ประทานแก่ท่านนั้นเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย”

(บันทึกโดยอะหมัด)

          ความจริงแล้ว การมองโลกในแง่ดีดังกล่าว จะทำให้เรารู้สึกดีกว่าหลายคน ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายอย่างไร หัวใจของเราก็ยังมีความพึงพอใจ อันที่จริง ถ้าหากเราตรึกตรองถึงความโปรดปรานที่อัลลอฮฺประทานแก่เรา (ทั้งที่เห็นและไม่เห็น) ชีวิตของเราก็จะยิ่งมีความสุข

 

2) ปกป้องคุ้มครองความโปรดปรานที่ถูกประทานแก่เรา

“ดังนั้น (โอ้ ญินและมนุษย์) ความโปรดปรานอันใดเล่าของพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ที่สูเจ้าทั้งสองปฏิเสธ?”

(กุรอาน 55:13)

          เรามีสองตา มีลิ้น มีริมฝีปาก มีสองมือและสองขา แต่มีใครสักกี่คนในหมู่พวกเราที่ขอบคุณอัลลอฮฺสำหรับการที่เรามีอวัยวะ? จะมีสักกี่คนในหมู่พวกเราที่ปกป้องคุ้มครองอวัยวะเหล่านั้นให้พ้นจากการทำสิ่งต้องห้าม? แต่ก็น่าเสียใจที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

          ลองจินตนาการถึงตัวเองดูสักหน่อยว่า หากปราศจากลิ้นที่เรากินและพูด เราจะเป็นเช่นใด ในทำนองเดียวกัน ชีวิตของคุณจะเป็นเช่นใด หากไม่สามารถเดินหรือไม่สามารถได้ยินหรือเห็นความงามของโลกรอบตัวคุณ? เพียงแค่สิ่งเหล่านี้ ก็เพียงพอแล้วสำหรับคุณที่จะนึกถึงความโปรดปรานอันสุดคณานับของอัลลอฮฺที่ทรงมีต่อคุณ

 “และในตัวของสูเจ้าเองก็เช่นกัน แล้วสูเจ้ายังไม่เห็นอีกหรือ?”

(กุรอาน 51:21)

           ดังนั้น จงขอบคุณอัลลอฮฺทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับของขวัญอันประเมินค่ามิได้นี้ โดยการใช้มันไปในการสร้างความพึงพอพระทัยให้แก่พระองค์และปกป้องตัวเราเองให้พ้นจากการกระทำที่ทำให้พระองค์ทรงกริ้ว

 

3) ทำตามที่สาบานไว้กับอัลลอฮฺก่อนเมื่อคำวิงวอนถูกตอบรับ

          มีพวกเราบางคนได้บนบานหรือได้สัญญาไว้กับอัลลอฮฺ เพื่อที่จะให้คำวิงวอน(ดุอาร์) ของตัวเองได้รับการตอบสนอง แต่เมื่ออัลลอฮฺได้ประทานสิ่งที่พวกเขาวิงวอนขอแล้ว พวกเขากลับลืมคำบนบานหรือคำสัญญาที่ทำไว้กับพระองค์

          ดังนั้น จงหลีกเลี่ยงการทำความผิดเช่นนี้ เพราะเมื่อบนบานหรือสัญญาอะไรไว้กับอัลลอฮฺแล้วก็จะต้องทำตามนั้น การไม่ทำตามคำบนบานหรือคำสัญญาถือเป็นบาป (เว้นเสียแต่ว่า คำบนบานหรือคำสัญญานั้นเป็นบาปโดยตัวของมันเอง)

 

4) จำไว้ว่า ปัจจุบันคือทั้งหมดที่คุณมีอยู่ อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และอนาคตยังมาไม่ถึง

           ท่านรอซูลุลลอฮฺ  เคยขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺให้พ้นจากความกังวลใจและความเสียใจ (ความเสียใจในเรื่องที่ได้เกิดขึ้นในอดีต เพราะมันไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ และความกังวลใจในเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต) ผู้ศรัทธาที่แท้จริงจะคิดถึงเรื่องปัจจุบัน และทุ่มเทพลังของตนทั้งหมดไปในการทำในสิ่งที่ท่านรู้ว่าดีที่สุดในปัจจุบัน

          เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺ  จะวิงวอนหรือสอนคำวิงวอนให้แก่บรรดาศอฮาบะฮ์ ท่านจะสนับสนุนคนเหล่านั้นไม่ให้วิงวอนขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺและหวังในความโปรดปรานจากพระองค์เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องทำงานหนักและดิ้นรนต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองวิงวอนขอด้วย เพราะคำวิงวอนจะอยู่คู่กับความพยายาม ดังนั้น จงดิ้นรนต่อสู้เพื่อสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณในเรื่องของศาสนาและกิจการทางโลก และจงวิงวอนต่อพระองค์ให้ประทานสิ่งที่คุณต้องการ

 อบูฮุรอยเราะฮฺ รายงานว่า ครั้งหนึ่ง ท่านรอซูลุลลอฮฺ  ได้กล่าวว่า

“ผู้ศรัทธาที่แข็งแรงนั้นดีกว่าผู้ศรัทธาที่อ่อนแอ แต่ทั้งสองนี้ก็ดี จงให้ความสนใจต่อสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกท่าน

จงขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮฺ และจงอย่ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน จงอย่ากล่าวว่า ถ้าฉันทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ มันก็คงเป็นเช่นนั้นเช่นนี้แล้ว

เพราะการกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นถ้าอย่างนี้ เป็นการเปิดหนทางให้ซัยฎอน”

(บันทึกโดยมุสลิม)

          ดังนั้น จงพยายามทำลายสาเหตุแห่งความท้อแท้สิ้นหวัง และจงพอใจโดยการลืมเคราะห์กรรมในอดีต เพราะการมัวเสียใจเกี่ยวกับอดีตนั้นเป็นการสิ้นเปลืองเวลาอันมีค่า ในทำนองเดียวกัน จงอย่าว้าวุ่นใจเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งยังไม่เกิดขึ้น เพราะมันจะไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย นอกไปจากความกังวลใจและความท้อแท้สิ้นหวัง

 

5) ทำความดีเพิ่มเติม

 อัลลอฮฺทรงกล่าวไว้ตอนหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า

“ใครก็ตามที่กระทำความดี ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ตาม ถ้าหากเขาเป็นผู้ศรัทธา เราจะให้เขามีชีวิตที่บริสุทธิ์ในโลกนี้

และแน่นอน เราจะตอบแทนคนเหล่านั้นในโลกหน้าตามที่พวกเขาได้กระทำไว้อย่างดีที่สุด”

(กุรอาน 16:97)

          โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ เมื่อใดก็ตามที่คุณเจตนากระทำความดีใดๆ จงอย่าเลื่อนการทำดีนั้นออกไปเป็นวันหน้า แต่จงรีบทำมันโดยทันที เพราะมันจะช่วยป้องกันตัวท่านให้พ้นจากซัยฏอนที่ชอบฉวยโอกาสทำให้คุณขี้เกียจและหลงลืม จงจำไว้ว่าเมื่อวานไม่สามารถกลับมาได้อีกและพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ดังนั้น จงมุ่งมั่นในวันนี้และรีบทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

          ในแต่ละวัน อัลลอฮฺประทานเวลาให้เรา 86,400 วินาที ลองคิดดูว่า คุณมีเวลาเพียงเท่านี้ในการที่ทำให้วัตถุประสงค์แห่งการมีชีวิตของคุณครบถ้วน นั่นคือการเคารพภักดีและสร้างความพึงพอพระทัยให้อัลลอฮฺ ดังที่พระองค์ได้ทรงกล่าวว่า

 “ฉันไม่ได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อที่พวกเขาจะเคารพภักดีฉัน”

(กุรอาน 51:56)

          คุณจะทำอะไรในช่วงเวลา 86,400 วินาทีนี้ ? อะไรเป็นสิ่งที่คุณห่วงใย ต่อสู้ และต้องการ ? แน่นอนเราทุกคนต่างแข่งขันกันทำความดีเท่าที่เราสามารถโดยการใช้เวลาของเราไปในการนมาซ การระลึกถึงอัลลอฮฺ การบริจาคและการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของเรา หัวใจของเราจะเต้นด้วยความเกรงกลัวอัลลอฮฺ และวันเวลาของเราจะผ่านไปด้วยความสุขและความพอใจ

 

6) จงเป็นตัวของตัวเองและอย่าล้อเลียนหรือลอกเลียนแบบคนอื่น

           นับตั้งแต่อาดัมจนถึงทารกคนสุดท้ายที่เกิดขึ้นมาใหม่ ไม่มีมนุษย์คนใดที่ถูกสร้างมาเหมือนกัน มนุษย์ทุกคนที่อัลลอฮฺทรงสร้างมามีความแตกต่างกัน โดยที่ทุกชีวิตต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ดังนั้น จงอย่ารังเกียจอัตลักษณ์ของตัวเองและลอกเลียนคนอื่น แต่จงมองภายในของตัวเองแล้วค้นหาธรรมชาติและความสามารถของตัวคุณเอง

           เมื่อพบแล้ว ก็ใช้มันในลักษณะที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่คือความลับไปสู่ความสำเร็จและความสุข บรรดาผู้บุกเบิกอิสลาม เช่น อบูบักรและอุมัรฺ บินค๊อฏฏอบ ที่มีเป้าหมายและภารกิจเหมือนกัน แต่มีบุคลิกภาพที่ต่างกัน ทั้งสองคนแข่งขันกันในการทำความดี แต่ไม่เคยมีใครคิดเลียนแบบลักษณะของอีกคนหนึ่ง

 

 

 

ที่มา: หนังสือไข่มุกแห่งวิทยปัญญา หน้า 74-83