สาเหตุแห่งความพินาศของประชาชาติในอดีต
  จำนวนคนเข้าชม  20038

สาเหตุแห่งความพินาศของประชาชาติในอดีต


เขียนโดย อับดุรเราะฮฺมาน บินอับดิลลาฮฺ อัลละอฺบูน


มีฮะดิษที่รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า

“แท้จริงท่านรอซูลุลลอฮฺ  เมื่อเกิดอากาศแปรปรวนและลมพายุโหมแรง สีหน้าของท่านก็จะเปลี่ยน และท่านมักลุกขึ้นยืนด้วยอาการสับสนอยู่ในห้อง ท่านจะเดินเข้าเดินออกอยู่เช่นนั้นหลายรอบ เนื่องมาจากความกลัวว่า อัลลอฮฺจะทรงให้มีการลงโทษ”

(ฮะดิษมุนตะฟะกุน อะลัยฮฺ)

          อัลลอฮฺ ได้ทรงลงโทษประชาชาติในอดีตมากมาย ด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ เช่น จากกระแสน้ำ น้ำท่วม ฟ้าผ่า และแผ่นดินไหว เป็นต้น ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ บางคนก็ได้เห็นมากับตาตนเอง หรืออาจได้รับทราบชะตากรรมความเป็นไปของผู้คนมากมาย หากลองพิจารณาและใคร่ครวญให้ยาวนาน และทุกคราที่ท่านรู้สึกว่า พบทางตันก็จงเพิ่มการพิเคราะห์ยิ่งขึ้นอีก แล้วในที่สุด ความเร้นลับ และวิทยปัญญาต่างๆ ก็จะกระจ่างแก่ท่าน ในสิ่งที่ท่านต้องประหลาดใจและเข้าใจมากยิ่งขึ้นถึง “กฎธรรมชาติของพระเจ้า” ที่ได้กำหนดไว้ และตัวท่านเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน

          โดยเฉพาะในปัจจุบัน เป็นยุคสมัยที่กำลังถูกกระหน่ำด้วยกระแสคลื่นแห่งความชั่วร้ายเลวทราม ล้วนแต่ควรแก่การรับโทษทั้งสิ้น หากไม่เป็นเพราะความเมตตาและความสงสารของพระองค์แล้ว แน่นอนคงไม่มีชีวิตใดหลงเหลืออยู่บนพื้นพิภพนี้ แม้กระทั่งสัตว์เลื้อยคลานสักตัวเดียว เนื่องจากความชั่วอันสาหัสสากรรจ์นั้น

          เพียงท่านติดตามดูสภาพการเป็นไปของประชาชนในประเทศต่างๆ ทั่วทุกหนทุกแห่งในโลก ขณะนี้ล้วนแต่เต็มไปด้วยความเสียหาย ข่าวคราวในทางเสื่อมเสียเกิดขึ้นมากมายอย่างน่าใจหาย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วใครกันเล่า? จะรับประกันได้ว่า วันหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ พระองค์จะไม่ทรงลงโทษพวกเขาด้วยเหตุที่พวกเขาทำความชั่วมากมายนั่นเอง

อัลลอฮฺ  ตรัสว่า

“แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง (ก่อน) เท่านั้น”

(อัรเราะฮฺดุ : 11)

คำตรัสของอัลลอฮฺ ผู้ทรงยิ่งใหญ่และทรงรอบรู้ทุกสิ่งในจิตวิญญาณ

อัลลอฮฺ  ตรัสอีกว่า

“ไม่มีสิ่งที่น้ำหนักเพียงเท่าธุลีในชั้นฟ้า และในแผ่นดิน และสิ่งที่เล็กยิ่งกว่านั้น และที่ใหญ่กว่านั้น จะรอดพ้นจากพระองค์

เว้นแต่จะอยู่ในบันทึกอันชัดแจ้งทั้งสิ้น

(การกระทำใดๆ ก็ตามที่มนุษย์ได้ปฏิบัติในโลกดุนยานี้ จะไม่เป็นที่ซ่อนเร้นไปจากความรอบรู้ของพระองค์เป็นอันขาด ในเมื่อสิ่งที่มีน้ำหนักเท่าผงธุลี ก็จะไม่เป็นที่ซ่อนเร้นไปจากความรู้ของพระองค์ แน่นอน การกระทำและสภาพของมนุษย์ก็ไม่อาจจะรอดพ้นไปจากพระองค์ได้)”

(สะบะฮฺ : 3)

          กระนั้น ช่างประหลาดแท้ ที่มนุษย์ยังไม่คิดเปลี่ยนแปลงตนเอง ทั้งที่ทราบแก่ใจดีว่า เป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทำให้เขาเป็นคนดีได้ ห่างไกลออกจากความกริ้วโกรธ และรอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮฺ ได้

         เพราะกี่ประชาชาติมาแล้ว? ที่ถูกทำลายไปในอดีต กี่เมืองมาแล้วที่ต้องพินาศไป? และกี่กลุ่มชนมาแล้ว? ที่พวกเขาเคยศรัทธาต่อองค์พระผู้อภิบาล แต่ต่อมาก็กลับไปปฏิเสธและทรยศต่อพระองค์อีก แล้วเราคิดหรือว่าอัลลอฮฺ จะทรงช่วยเหลือบรรดาผู้ล่วงละเมิดเหล่านั้น และจะทรงให้พวกเขาเริงร่าต่อไปบนพื้นพิภพนี้

         ในคัมภีร์อัลกุรอานมีหลายโองการที่เอ่ยถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มชนต่างๆ ในอดีต เพื่อเรียกร้องให้เราได้ใคร่ครวญสภาพการใช้ชีวิตของคน และสิ่งที่ประสบกับพวกเขาในวาระสุดท้าย

อัลลอฮฺ ตรัสว่า

“และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธาและยำเกรงแล้วไซร้ แน่นอนเราก็เปิดซึ่งบรรดาความดีงามจากฟากฟ้า และแผ่นดินให้แก่พวกเขา

แต่ทว่า พวกเขาปฏิเสธ ดังนั้น เราจึงได้ลงโทษพวกเขา เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้”

“แล้วชาวเมืองนั้นปลอดภัยกระนั้นหรือ ในเมื่อการลงโทษของเราจะมายังพวกเขาในเวลากลางคืน ขณะที่พวกเขานอนหลับอยู่”

“และชาวเมืองนั้น ปลอดภัยกระนั้นหรือ เมื่อการลงโทษของเราจะมายังพวกเขาในเวลาสาย ขณะที่พวกเขากำลังเล่นสนุกสนานกันอยู่”

“แล้วพวกเขาปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ ไม่มีใครมั่นใจว่าจะปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮฺ นอกจากกลุ่มชนที่ขาดทุนเท่านั้น”

“และก็ยังมิได้ประจักษ์แก่บรรดาผู้ที่ได้รับแผ่นดินสืบทอดหลังจากเจ้าของมันดอกหรือว่า หากเราประสงค์ เราก็ให้ภัยพิบัติประสบแก่พวกเขา

เนื่องด้วยบาปกรรมของพวกเขา และเราจะประทับตราบนหัวใจของพวกเขา แล้วพวกเขาก็จะไม่ได้ยิน”

(อัลอะอฺรอฟ : 96-100)

อัลลอฮฺ ตรัสว่า

“แน่นอน บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาได้วางแผน ดังนั้น อัลลอฮฺได้ทำลายอาคารของพวกเขาจากรากฐานของมัน

ฉะนั้น หลังคาที่อยู่เหนือพวกเขาได้ถล่มลงมาทับพวกเขา และการลงโทษได้มายังพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว”

 (อันนะฮฺลุ : 26)

อัลลอฮฺ ตรัสอีกว่า

“แน่นอน บรรดาผู้วางแผนชั่วร้ายทั้งหลาย จะปลอดภัยกระนั้นหรือ

จากการที่อัลลอฮฺจะทรงให้ธรณีสูบพวกเขา หรือการลงโทษที่มาหาพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว”

(อันนะฮฺลุ : 45)

         จากอิบนุญุบัยร์ เล่าต่อมาจากบิดาของเขาว่า “ภายหลังจากที่เมือง กุบรุซ (เกาะไซปรัสในปัจจุบันอยู่ใกล้ซีเรีย) ถูกพิชิตโดยมุสลิม เชลยผู้หนึ่งถูกนำตัวเดินผ่านท่านอบูดัรดาอฺ เมื่อเห็นดังนั้น ท่านอบูดัรดาอฺ ก็ร้องไห้”

ฉันจึงถามว่า “ท่านร้องไห้ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่อัลลอฮฺทรงให้เกียรติแก่อิสลามและมุสลิมกระนั้นหรือ?”

อบูดัรดาอฺตอบ “โอ้ญุบัยร์ ขณะนี้ประชาชาตินี้มีอำนาจและมีชัยชนะ แต่เมื่อใดที่พวกเขาฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ พวกเขาย่อมพบกับสภาพที่ต่ำต้อยเช่นกัน”

          “ใช่แล้ว” คำพูดของอบูดัรดาอฺนั้นถูกต้อง มนุษย์จะต้องประสบกับความตกต่ำและพินาศ คราใดก็ตามหากเขาทรยศต่ออัลลอฮฺแล้ว สภาพของสังคมมุสลิมทุกแห่งหน ทุกแวดวง และทุกระดับชั้นในปัจจุบันนี้ล่ะ มีสภาพเป็นเช่นใดหรือ? ส่วนสังคมอื่นๆ ในวงกว้างก็แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยภาวะวิกฤติอันตรายและเลวร้าย มีโรคภัยต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย กฎธรรมชาติที่อัลลอฮฺทรงกำหนดไว้กำลังย่างกรายเข้ามา อำนาจ ความมั่งคั่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมีสิ่งควบคุมอยู่เหนือพวกเขา

         สำหรับประชาชาติในปัจจุบันแทบกล่าวได้ว่า กลายเป็นยุคตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยพบในอดีต อำนาจที่พวกเขามีอยู่และปกครองโลกอยู่นานนับหลายศตวรรษในช่วงเรืองอำนาจ ได้กลับกลายมาเป็นความตกต่ำน่าอดสูและถูกเหยียดหยามท่ามกลางประชาชาติยุคก่อน

 

ที่มา : หนังสือเมื่อผู้ศรัทธาร้องไห้

แปลโดย นัศรุลลอฮฺ ต็อยยิบ