จุดยืนต่อการตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺ
  จำนวนคนเข้าชม  3342

จุดยืนต่อการตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺ


 แปลและเรียบเรียง  อับดุลวาเอด  สุคนธา


อิหม่ามนะวะวี กล่าวว่า

     “จงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริงแล้วการด่าทอและการตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี  เป็นสิ่งต้องห้ามและเป็นสิ่งที่ไม่ดี นับได้ว่าการกระทำดังกล่าวสร้างความวุ่นวายและความแตกแยกในสังคมมุสลิมเป็นอย่างมาก”


อิบนุตัยมียะฮฺ ชัยคุยอิสลาม กล่าวว่า

    “เหตุใดท่านนบี จึงห้ามด่าทอบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่าน”

จากฮะดีษที่ท่านนบี  กล่าวเอาไว้ว่า

“ใครก็ตามที่เขาบริจาคทองคำเท่ากับภูเขาอุฮุด มันก็ไม่เท่ากับที่บรรดาเศาะฮาบะฮฺบริจาคแค่เพียงหนึ่งมุดหรือครึ่งหนึ่งทองคำ”

           ฮะดีษนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและความประเสริฐของเหล่าบรรดาเศาะฮาบะฮฺในความเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขามีต่ออิสลาม พวกเขาต่างก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจต่อสู้ออกศึกสงครามเพื่อให้ได้มาซึ่งศาสนาอิสลาม ปกป้องศาสนาอิสลามเอาไว้ให้เกรียงไกร และเชิดชูกะลามุ้ลลอฮฺให้สูงส่ง

ท่านนบี  ได้กล่าวตักเตือนไว้ในคำสั่งเสียของท่านว่า :

"สูเจ้าจงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และเชื่อฟังแล้วปฏิบัติตามผู้นำแม้ว่าเขานั้นจะเป็น(ชาวฮะบะชี)คนผิวดำก็ตาม

ใครก็ตามที่เขามีชีวิตอยู่หลังจากฉัน เขาจะได้เห็นความขัดแย้งอย่างมากมาย

ดังนั้นสูเจ้าจงยึดแนวทางของฉัน(ซุนนะฮฺ) และแนวทางของบรรดาเคาะลีฟะฮฺของฉัน และผู้ที่ได้รับทางนำ จงยึดมั่นด้วยกับฟันกราม "

(โดยอบูดาวูดและติรมิซี)

         โปรดคิดและทบทวนถึงความดีงามและความประเสริฐของเหล่าบรรดาเศาะฮาบะฮฺผู้เจริญรอยตามท่านนบี  เถิดว่าพวกเขาเหล่านั้นได้สร้างเกียรติยศและความภาคภูมิใจให้กับศาสนาอิสลามเป็นอย่างมาก ดังนั้นสมควรแล้วหรือที่ปล่อยให้มีผู้ด่าทอและตำหนิพวกเขา  ซึ่งพวกเขาเป็นที่รักยิ่ง ณ อัลลอฮฺและร่อซูล


อิหม่ามมาลิก กล่าวว่า

     “ใครก็ตามที่ด่าทอและตำหนิคนหนึ่งคนใดจากบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ท่านอบูบักร ท่าอุมัร ท่านอุสมาน ท่านอาลี  ท่านมุอาวียะฮฺ ท่านหญิงอาอีชะฮฺ ท่านฮัมรฺอิบนุอาส (ขอพระองค์ทรงพอพระทัยแก่พวกเขาด้วย)แน่นอนพวกเขาเหล่านี้เป็นผู้ที่หลงทางและตกเป็นผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาสมควรที่จะถูกฆ่า”


อิบนุอุมัร กล่าวว่า

    “ใครก็ตามที่ด่าทอและตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี  ชั่วโมงหนึ่งนั้นชั่วยิ่งกว่าการงานที่เขานั้นประกอบมาตลอดชีวิตของเขา”


ซัยคุลอิสลาม กล่าวว่า

     “ใครก็ตามที่ด่าทอและตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี  เขาผู้นั้นตกเป็นกาเฟร”


เชคมูฮัมหมัดบินวะฮาบ กล่าวว่า

     “ใครที่ด่าทอและตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี   ถือว่าเขาผู้นั้นฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺอีกทั้งยังปฏิเสธอัลกรุอานและอัลฮะดีษอีกด้วย”


อิหม่ามอะหฺมัด กล่าวว่า

     “ใครก็ตามที่จะกล่าวถึงบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี   จงกล่าวในสิ่งที่ดี และจงระวังที่จะกล่าวในสิ่งที่ไม่ดี ใครก็ตามที่ด่าทอบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี  ก็จำเป็นแก่ผู้ปกครองที่จะต้องลงโทษจากการกระทำดังกล่าว จนกว่าเขาจะกลับเนื้อกลับตัวและยอมรับผิด”


บะชีรอิบนุฮาริส กล่าวว่า 

     “ใครก็ตามที่ด่าทอบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี   เขาตกเป็นกาเฟรผู้ปฎิเสธศรัทธา แม้ว่าเขาจะละหมาด ถือศีลอดและอ้างตัวเองว่าเป็นมุสลิมก็ตาม”


อบูตอลิบถามอีหม่ามอะหฺมัด ถึงคนที่ด่าท่านอุสมาน อีหม่ามอะหฺมัดบอกว่า

    “ใครก็ตามที่พูดแบบนี้แสดงว่าเขาเป็นกลุ่มชนของ زندقه แล้วยังเป็นกลุ่มชนที่หลงทาง”


เอาชาฮี กล่าวว่า

     “ใครที่ด่าทอและตำหนิท่านอบูบักร แน่นอนเขาผู้นั้นได้(ตกมุรตัด)ออกนอกศาสนา และเลือดของเขาถือเป็นที่อนุมัติแล้ว”


         แท้จริงแล้วการด่าทอและการตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตลอดจนบรรดาเครือญาติของท่านนบี  นั้นถือได้ว่ามีโทษอย่างมหันต์ และเขาผู้นั้นถือได้ว่าเป็นผู้ปฏิเสธต่อคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺและไม่ปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านร่อซูล  และยังให้ร้ายอิสลามถึงประชาชาติที่ไม่ดี ฉะนั้นแล้วการด่าทอและการตำหนิบรรดาเศาะฮาบะฮฺก็หมายความว่าเขาผู้นั้นได้ด่าและตำหนิศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน