บทเรียนจากการเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีนูฮฺ
  จำนวนคนเข้าชม  14921

 

บทเรียนจากการเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีนูฮฺ


เขียนโดย อิสมาอีล กอเซ็ม


          ไม่มีใครปฏิเสธว่าการทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนานั้นเป็นหน้าที่มีเกียติรที่สุด และเป็นงานที่บรรดานบีและรอซูลของอัลลอฮฺได้ทำหน้าที่นี้ และมีผู้ที่รับมรดกเหล่านี้มากมาย ด้วยกับความเมตตาของอัลลอฮฺที่มีต่อปวงบ่าว พระองค์ไม่ได้สร้างมนุษย์มาแล้วปล่อยให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตโดยไร้สาระ พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่งๆ ต่างๆในโลกใบนี้มาสนองตอบความต้องการของมนุษย์ แต่เป้าหมายที่อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์ให้มาอยู่ในโลกนี้ก็เพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว

          โดยที่พระองค์ได้ส่งบรรดารอซูลมาทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนให้ยอมรับอัลลอฮเป็นพระเจ้า ยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ อัลลอฮฺ คือผู้ทรงสร้างทั้งหมด ยอมรับว่าระบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้มีกลไกเป็นไปอย่างมีระเบียบนั้น อัลลอฮฺคือผู้สร้าง และเชื่อว่าการมีชีวิตของมนุษย์ในโลกใบนี้เป้าหมาย คือ เพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์ และนำบทบัญญัติทุกสิ่งทุกอย่างของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต

 

          หากเราค้นหาคำตอบจากผู้คนต่างๆในโลกใบนี้ หรือจากหลักความเชื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกใบนี้เราก็จะพบคำตอบที่มากมาย ในการบังเกิดของมนุษย์ เราจะพบคำตอบบางคำตอบ ในเรื่องมนุษย์จากคนบางกลุ่มที่มีความเชื่อว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ ไม่มีผู้สร้างแต่ประการใด และคิดว่ามนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้แค่ชั่วขณะและต้องจบชีวิตจากโลกนี้ไป ก็ถือว่าเป็นอันจบสิ้น

          ดังนั้นอัลลอฮ์ จึงได้ส่งบรรดารอซูลมาเพื่อทำหน้าที่ในการเผย่แผ่คำสอน และมาเรียกร้องบรรดามนุษย์ที่หันเหออกไปจากหนทางของพระองค์ เพราะมนุษย์ที่อัลลอฮฺได้ส่งมาในยุคของท่านนบี อาดัมจนถึงยุคของท่านนบีนัวะ  ได้เกิดการตั้งภาคีต่ออัลลอฮขึ้น อัลลอฮฺจึงแต่งตั้งท่านนบีนัวะมาทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนที่ได้หันเหออกจากแนวทางของการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺที่บริสุทธิ์ และการทำหน้าที่ของท่านนบีนัวะนั้นเป็นบทเรียนที่ดีงามแก่บรรดาผู้ที่ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาของพระองค์

          ท่านนบีนูฮฺ ได้ใช้เวลาเรียกร้องประชาติของท่านเป็นเวลา 950 ปี ท่านทำหน้าที่ทั้งวันทั้งคืน เรียกร้องคนทุกระดับไม่ว่า คนระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับผู้นำ แต่ส่วนมากบุคคลที่ศรัทธาต่อท่านนั้นเป็นบุคคลที่ยากจน บุคคลที่อ่อนแอ และไม่มีตำแหน่งทางสังคม และหลักฐานเรื่องนี้อัลลอฮผู้ทรงสูงส่งได้ตรัสไว้ว่า

 

"และโดยแน่นอนเราได้ส่งนูห์ไปยังหมู่ชนของเขา และเขาได้อยู่ร่วมกับพวกเขาหนึ่งพันปีเว้นห้าสิบปี (950 ปี)

 ดังนั้นอุทกภัยได้คร่าพวกเขาขณะที่พวกเขาเป็นผู้อธรรม"


          นี่คือระยะเวลาที่ท่านนบีนูฮฺ ได้ใช้เวลาในการเรียกร้องผู้คนให้กลับมาสู่การศรัทธาต่ออัลลอฮฺที่ถูกต้อง โดยท่านทำหน้าที่อย่างอดทน จากการดูถูกเหยียดหยาม การถูกกล่าวหาต่างๆ นานา แต่ท่านไม่เคยหมดหวังท้อแท้จากการทำหน้าที่ของท่าน ท่านทำหน้าเรียกร้องผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ ด้วยความอ่อนโยน และไม่เคยถือโกรธแก่บรรดาผู้ที่ทำการเย้ยหยันต่อท่าน ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ ทำทุกอย่างที่อัลลอฮมีพระบัญชามา

          ดังนั้นเมื่อเรากลับไปดูความทุ่มเทของบรรดานบี และบรรดารอซูลในการทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนให้มาสู่ความเข้าใจแนวทางของอัลลอฮฺที่ได้ผ่านบรรดารอซูลเหล่านั้น คงไม่มีใครที่ถูกทดสอบมากไปกว่าบรรดานบีและรอซูลของพระองค์

          ฉะนั้นอิสลามที่ได้ดำรงไว้จนถึงทุกวันนี้เพราะมีคนที่ทำหน้าด้วยความศรัทธาและอดทน มีพลังศรัทธาต่อพระเจ้าที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า บรรดารอซูลและผู้ที่ยึดมั่นในแนวทางของพวกเขานั้นไม่เคยท้อแท้ในการที่จะเป็นบ่าวของอัลลอฮฺที่ทำหน้าที่อันทรงเกียติรนี้ ดังนั้นบุคคลที่อัลลอฮฺได้ประทานความรู้ความเข้าใจในศาสนาของพระองค์นั้นจะต้องไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง และจะต้องทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตทั้งหมดไปด้วยกับการรับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างเรามาเพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์ นี่คือเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ เราอย่าลืมเป้าหมายการมีชีวิตของเราในโลกใบนี้


          ดังนั้นคนที่เป็นดาอีย์นั้นจะต้องมีลักษณะที่เป็นคุณลักษณะที่บรรดารอซูลได้มี เช่นความอดทนในการทดสอบ ความมั่นใจในการช่วยเหลือของอัลลอฮฺ การมอบหมายต่ออัลลอฮฺ และอีกมากมายที่มีแบบอย่างจากบรรดารอซูลของพระองค์ เช่น การทำงานของท่านนบีนูฮฺ นั้น เป็นแบบอย่างความอดทนและการรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักเพียงใด ก็ไม่ได้ทำให้อุดมการณ์ของท่านนบีนูฮฺต้องลดลง

         ท่านยังคงทำหน้าที่ของท่านไปจนกว่าอัลลอฮฺมีบัญชาให้สร้างเรือเพื่อที่พระองค์จะได้ทำลายกลุ่มชนที่ปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ และให้บรรดาผู้ศรัทธาได้ขึ้นไปบนเรือที่ท่านนบีนัวะได้สร้างไว้ และท่านยังคงทำหน้าที่ของท่าน จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย โดยที่ยังคงเรียกร้องเชิญชวนผู้ที่ไม่เชื่อในสิ่งที่นำมาบอก ท่านได้เรียกร้องผู้ที่ยังไม่ศรัทธาให้ขึ้นเรือเพราะวันนี้อัลลอฮฺจะให้น้ำท่วมโลกและไม่มีใครหนีพ้นการลงโทษอันนี้ นอกจากผู้ที่ขึ้นบนเรือเท่านั้น

          นบีนูฮฺได้เรียกร้องเชิญชวนภรรยาของท่านให้ขึ้นมาบนเรือ แต่นางก็ไม่ยอมเชื่อท่านนางปฏิเสธที่จะขึ้นไปบนเรือ ท่านได้ชวนลูกของท่าน แต่ลูกของท่านก็ปฏิเสธที่จะขึ้นไปบนเรือเช่นเดียวกัน จากเหตุการณ์ตรงนี้เราจะพบว่า สำหรับแนวทางของอัลลอฮฺที่ถูกต้องจะได้รับแก่ผู้ที่แสวงหาเท่านั้น มันไม่สามารถสืบทอดกันทางสายเลือดได้ ถึงแม้จะเกิดมาเป็นลูกคนดีๆ ก็ตามแต่


          การทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺนั้นกว่าที่เราจะประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา ความสำเร็จไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆได้ ที่สำคัญไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใดความตั้งใจของเราในการทำหน้าที่อันนี้ต้องคงอยู่และต้องไม่หมดไปกับกาลเวลา และการทำหน้าที่เรียกร้องเชิญชวนผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ จะต้องพบอุปสรรคมากมาย ไม่ว่า การต่อต้าน การเย้ยหยัน การทำร้ายและความทุกข์ยากต่างๆ ที่จะต้องมาประสบในการเดินอยู่ในเส้นทางนี้

          แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรามีแบบอย่างที่ดีงามจากบรรดารอซูลของอัลลอฮฺ เช่นแบบอย่างของท่านนบีนูฮฺ  และท่านนบีมูฮัมหมัด และอีกมากมายที่บรรดานบีและรอซูลของอัลลอฮฺได้แสดงแบบอย่างเอาไว้ ดังนั้นการกลับไปศึกษาแนวทางการทำงานของบรรดารอซูลของอัลลอฮฺนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นแก่บรรดาผู้ที่ทำหน้าเรียกผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ เพื่อที่จะได้เอาบทเรียนจากพวกเขาในการทำหน้าที่นั้น

 

          และหนึ่งในนั้นก็คือแบบอย่างของท่านนบีนูฮฺ ที่เป็นแบบอย่างแห่งการยืนหยัด อดทน มีความหวังไม่ท้อแท้ในการปฏิบัติภาระกิจของท่านถึงแม้คนที่เชื่อต่อสิ่งที่ท่านนำมาบอกจะมีจำนวนน้อยก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่จะมาบั่นทอนกำลังใจของท่านให้หยุดทำหน้าที่อันสูงส่งอันนี้ นักเผยแพร่จะต้องทำงานของตัวเองจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย และปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุด