อย่าใช้ชีวิตแบบฟุ้งเฟ้อ
  จำนวนคนเข้าชม  9130

  

อย่าใช้ชีวิตแบบฟุ้งเฟ้อ

  


พี่น้องมุสลิมที่เคารพรักทั้งหลาย

          ในโลกปัจจุบัน มีแนวทางในการดำเนินชีวิตอยู่มากมายและหลากหลาย แต่ละแนวทางต่างก็มีอุดมการณ์ของตนเอง มีหลักการและปรัชญาซึ่งผิดแผกกันออกไป แนวทางเหล่านั้นล้วนเกิดขึ้นจากความช่างคิดช่างฝันของมนุษย์ จากประสบการณ์ และจากความต้องการอันวางอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ที่ต่างก็มุ่งรักษา คนในยุคปัจจุบันมักจะปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามอารมณ์ปรารถนา และตามความเพ้อฝัน

         ปรัชญาและอุดมการณ์ของคนสมัยนี้จำนวนไม่น้อย ที่มุ่งแต่จะแสวงหาควาสุข ความเพลิดเพลิน ความสนุกสนาน ความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ความมักมาก ความโก้เก๋ ความหรูหรา ซึ่งต้องใช้งบประมาณสนองตอบอย่างมากมายเหลือเกิน รายได้ของเขาส่วนใหญ่จึงทุ่มเทให้กับความฟุ้งเฟ้อเหล่านั้น

          ความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย เป็นหนทางที่นำไปสู่ความหายนะ เป็นแนวทางของชัยตอน มันวางแนวทางไว้เพื่อใช้ทำลายมนุษย์ที่โง่เขลา มนุษย์ที่ไร้ศรัทธาและเนรคุณ บรรดาผู้ใช้ชีวิตในความฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ จึงเป็นญาติของซัยตอน ดังปรากฏในอัลกุรอานซูเราะฮฺอิสรออฺ อายะฮฺที่ 27 ความว่า

“แท้จริงบรรดาผู้ฟุ่มเฟือย เป็นญาติของซัยตอน”

          ญาติของชัยตอนจะแหวกว่ายอยู่ในดงกิเลสตัณหา กามราคะ สำมะเลเทเมาและความเสเพล เครื่องมือของชัยตอนที่นำมายั่วยุให้เราต้องหลงทางไปกับมัน มีอยู่มากมายเหลือเกิน เสียงเพลงที่ปลุกเร้าอารมณ์ เสียงดนตรีแผดเผาหัวใจ บรรยากาศอันมะลังมะเลืองด้วยแสงสีของสถานบันเทิง หลากหลายในรสอาหาร ความสวยงามของแฟชั่น แรงโฆษณาที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งทางสื่อสารมวลชน ดังนั้นชีวิตของคนสมัยใหม่จำนวนไม่น้อยจึงต้องตกลงไปในเหวหายนะของชัยตอนจนถอนตัวไม่ขึ้น

         การดำเนินชีวิตบนพื้นฐานเช่นนั้น ย่อมนำมาซึ่งความสูญเปล่า ชีวิตที่เกิดมาทั้งที แต่ต้องถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองในสิ่งไร้สาระ และเกินความจำเป็น แนวทางอย่างนี้หรือที่เราใฝ่หา มันเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด เป็นทางนำไปสู่หายนะ มิใช่ทางของอัลลอฮฺ ซึ่งเป็นแนวทางที่เที่ยงตรง ง่ายและสัจจะ บริสุทธิ์และชัดเจน แนวทางอิสลามชี้นำมนุษย์ไปสู่ความมั่นคง ความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า


อัลกุรอานได้บัญญัติเตือนเรา ในซูเราะฮฺอัลอันอาม อายะฮฺที่ 154 ความว่า

“แท้จริงแนวทางของฉันนี้ เป็นแนวทางอันเที่ยงตรง ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงตามแนวทางนี้

และอย่าได้ตามบรรดาแนวทางอันหลากหลาย อันจักเป็นเหตุให้ท่านทั้งหลาย ต้องแตกแยกไปจากแนวทางนั้น”

ในซูเราะฮฺอัลฟาติฮะฮฺ เราอ่านเป็นประจำว่า

“โปรดชี้นำพวกเราไปสู่แนวทางที่เที่ยงตรงเถิด”

          แนวทางของอิสลามเป็นแนวทางที่เที่ยงตรง ใครยึดแนวทางนี้ไว้ แน่นอนเขาจะประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ชีวิตของเขาจะไม่ตกไปเป็นเหยื่อของชัยตอนมารร้าย ความวุ่นวายของชีวิตจะหมดสิ้น ชีวิตจะไร้ความสับสน เป้าหมายของชีวิตจะแจ่มใสชัดเจนและเที่ยงตรง มีอุดมการณ์ที่แน่นอนแน่วแน่ ผลที่อุบัติขึ้นแก่เขา คือ ความสุขสันติทั้งโลกนี้และโลกหน้า ระเบียบวินัยจะเกิดขึ้น ความอบอุ่น ชีวิตมีความหวัง มีความชุ่มฉ่ำ ประดุจน้ำอัมฤทธิ์ชะโลมกาย

อัลกุรอานซูเราะฮฺญิน อายะฮฺที่ 16 ระบุว่า

หากแม้นพวกเขายึดมั่นในแนวทางอิสลามอย่างยืนหยัด แน่นอนเรา (อัลลอฮฺ) จักหลั่งน้ำอันโอชะแก่เขาได้ดื่มกิน”

         ชีวิตที่ดูดซึมกระแสกิเลสตัณหาของสิ่งแวดล้อมเข้าไปทุกเมื่อเชื่อวัน จะเป็นชีวิตที่แห้งแล้ง และจะค่อยๆ หมดคุณภาพ จนในที่สุดชีวิตจะหมดสิ้นความหมาย เปรียบดังแผ่นดินที่ไร้คุณภาพ ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น แม้แต่หญ้าที่จะขึ้นมาประดับความสวยงามก็ขึ้นไม่ได้ เพราะเนื้อดินหมดคุณภาพโดยสิ้นเชิง ในสภาพเช่นนี้ จำต้องรีบพัฒนาดินขึ้นใหม่ ด้วยความพากเพียรพยายาม ต้องใช้งบประมาณมากมาย กว่าจะพัฒนาดินขึ้นมาใหม่จนสามารถปลูกพืชได้

         ชีวิตของเราก็เหมือนกัน หากปล่อยให้มันแห้งแล้ง จะปลูกความดีงาม ปลูกคุณธรรม ปลูกศีลธรรม ปลูกอิบาดะฮฺ ปลูกระเบียบวินัย มารยาท และปลูกวัฒนธรรมก็ไม่สำเร็จ ปลูกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น เพราะชีวิตปฏิเสธสิ่งดีงามโดยสิ้นเชิง พืชชีวิตที่ดีงามเหล่านั้น มันไม่รับเพราะไม่คุ้นเคยมาก่อน ดังนั้น  มันจึงกลายเป็นพื้นที่รองรับความสกปรกอย่างเดียว เป็นที่ถ่ายเทของอาจม เป็นที่สำหรับทิ้งขยะมูลฝอย และรองรับสิ่งโสโครกทั้งหลาย ชีวิตที่ขาดคุณภาพ จึงเต็มไปด้วยพฤติกรรมเลวร้ายที่ชัยตอนตัวร้ายนำมาคายทิ้งไว้ หรือถ่ายทิ้งไว้ หรือสำรอกทิ้งไว้อย่างเมามันและลำพอง

 

         ชัยตอนมันเข้าไปแทรกซึมในเส้นเลือดของเรา แล้วมันกระตุ้นกระซิบกระซาบให้เราคิดทำแต่เรื่องเลวร้าย มันนำสิ่งสกปรก อาจม และความกักขฬะหยาบช้า มาสำรอกใส่ชีวิตของเรา ทำให้เรามีความมักมากในกามราคะ และกิเลสตัณหา ดังนั้นชีวิตที่เริ่มต้นอย่างนี้ สิ่งเลวร้ายจากภายนอกก็จะเข้าไปยึดชีวิตของเราจนเต็มเปี่ยม 

     & ลึกลงไป คือกิเลสตัณหา และกามราคะ ทำให้โครงสร้างของชีวิตภายในประกอบด้วย ความอิจฉาริษยา ความหยิ่งทรนง ความโลภ ความหลง ความอาฆาตแค้น ความเกลียด ความโกรธ

     & ที่ลอยตัวออกมาประจักษ์ในชีวิต คือ ความตะกละในการบริโภคอาหาร ความมักมากในกามคุณ ความสำมะเลเทเมา การทำซินา การเสพสุรายาเมา และการเสพสิ่งเสพติดทั้งปวง

         ชีวิตที่มีสิ่งเหล่านี้อยู่เต็มไปหมดทั้งส่วนลึกและส่วนเปิดเผยอย่างนี้ จะเป็นชีวิตที่มีความชุ่มฉ่ำได้อย่างไร นอกจากความเสื่อมโทรม ชีวิตเปรียบดังแผ่นดินที่ถูกชัยตอนมารร้ายเข้าไปยึดครองแล้วโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นแนวทางที่เขากำลังเดินอยู่นั้น จึงเป็นแนวทางของชัยตอน ซึ่งเป็นศัตรูร้ายของเขาเอง เขาไม่รู้หรอกว่า ขณะนี้เขาได้หลงผิด เลือกคบศัตรูมาเป็นมิตร หากเขากลับตัวไม่ทัน ศัตรูร้ายตัวนี้ จะต้องนำทางเข้าสู่ประตูนรกเป็นแน่

        แนวทางของชัยตอนอันหลากหลายวิธีการดังได้กล่าวมานี้ สามารถมองเห็นความคดเคี้ยวและความคดโกงของมันได้อย่างเด่นชัด มันมิใช่เส้นทางที่เที่ยงตรงแต่ประการใด แล้วแนวทางอย่างนี้หรือ ? ที่เราจะเลือกเดิน !


         ท่านพี่น้องที่เคารพทั้งหลาย หากใครได้สังเกตว่า มีเพื่อนฝูง ญาติมิตร หรือสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งได้ถลำลึกเข้าไปเดินอยู่ในเส้นทางนั้น ก็จงทราบเถิดว่า คนๆ นั้น กำลังหลงทาง เขาเป็นบุคคลที่น่าสงสารมาก เพราะเมื่อเขาหลงเขาก็ไม่รู้สึกตัวเองว่าหลง เขายังระเริง และร่าเริง ด้วยเสียงสรวลเสเฮฮา ด้วยรอยยิ้ม ด้วยเสียงหัวเราะ และด้วยความชื่นมื่นในอารมณ์ เขาถูกชัยตอนร้ายหลอกให้เขารู้สึกว่า เขาช่างมีความสุขเสียจริงๆ

โปรดช่วยกันเตือนเขาด้วยความรัก และเป็นห่วง อินชาอัลลอฮฺ เขาจะกลับคืนมาสู่แนวทางของอัลลอฮฺ แนวทางที่เที่ยงตรง....

 

 


ที่มา: หนังสือคุตบะฮฺวันศุกร์ โดยสำนักจุฬาราชมนตรี (นายประเสริฐ มะหะหมัด)