สิทธิและหน้าที่ของการเป็นเพื่อนในด้านกายภาพ
  จำนวนคนเข้าชม  3627

 

สิทธิและหน้าที่ของการเป็นเพื่อนในด้านกายภาพ

 

อุมมุ อาอิช

 

         ในที่นี้หมายถึงการช่วยเหลือเพื่อนด้วยพละกำลัง การลงมือปฏิบัติก่อนที่เพื่อนจะร้องขอ และให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นพิเศษ ซึ่งขั้นนี้มีหลายระดับเช่นเดียวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน

 

ระดับที่หนึ่ง 

 

        ระดับต่ำสุด คือ การช่วยเหลืออย่างเต็มใจและยินดีเมื่อมีความสามารถและได้รับการร้องขอ  ท่านนบีมุหัมมัด-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-ได้กล่าวว่า


«مَنْ نَفَّسَ عَنْ مُؤْمِنٍ كُرْبَةً مِنْ كُرَبِ الدُّنْيَا ، نَفَّسَ اللَّهُ عَنْهُ كُرْبَةً مِنْ كُرَبِ يَوْمِ الْقِيَامَةِ ، وَمَنْ يَسَّرَ عَلَى مُعْسِرٍ ، يَسَّرَ اللَّهُ عَلَيْهِ فِي الدُّنْيَا وَالْآخِرَةِ ، وَمَنْ سَتَرَ مُسْلِمًا ، سَتَرَهُ اللَّهُ فِي الدُّنْيَا وَالْآخِرَةِ ، وَاللَّهُ فِي عَوْنِ الْعَبْدِ ، مَا كَانَ الْعَبْدُ فِي عَوْنِ أَخِيهِ» 

 

“ผู้ใดปลดความทุกข์ยากดุนยาจากคนมุอ์มินผู้ศรัทธาหนึ่งอย่าง

อัลลอฮฺจะทรงปลดความทุกข์ยากของวันกิยามะฮฺหนึ่งอย่างแก่เขา  

และผู้ใดที่ผ่อนปรนหนี้แก่คนที่ลำบากจริงๆ อัลลอฮฺจะทรงผ่อนปรนให้ความง่ายดายแก่เขาในดุนยาและอาคิเราะฮฺ 

และผู้ใดปกปิดความลับของมุสลิมคนหนึ่ง อัลลอฮฺจะทรงปกปิดความลับของเขาในดุนยาและในอาคิเราะฮฺ 

อัลลอฮฺนั้นจะทรงช่วยเหลือบ่าวของพระองค์เสมอ ตราบใดที่บ่าวให้ความช่วยเหลือต่อมิตรของเขา” 


 

อัล-หะสัน อัลบัศรีย์ ได้ส่งเพื่อนของเขากลุ่มหนึ่งเพื่อให้มาช่วยเหลือความจำเป็นของเพื่อนของพวกเขาคนหนึ่ง 
 

ท่านบอกว่า พวกท่านจงแวะเข้าพบ ษาบิต อัล-บุนานีย์ แล้วจงชวนเขาไปด้วย

พวกเขาจึงแวะเข้าพบษาบิต แต่เขาอ้างว่า ฉันกำลังอิอฺติกาฟอยู่ พวกเขาจึงกลับมาบอกอัล-หะสัน 
 

       ท่านจึงบอกว่า พวกท่านจงบอกเขาว่า โอ้ คนที่ตาเป็นฝ้าฟางเอ๋ย ท่านไม่รู้หรือว่าการไปช่วยเพื่อนคนหนึ่งของท่านนั้นมันดีต่อท่านมากกว่าการไปทำหัจญ์สุนัต (หัจญ์ครั้งที่สองขึ้นไป)เสียอีก 
 

พวกเขาจึงกลับไปบอกษาบิต เขาจึงละการอิอฺติกาฟและออกไปพร้อมกับพวกเขา


 

ระดับที่สอง 

 

จะต้องตระหนักว่าความจำเป็นของเพื่อนนั้นคือความจำเป็นของตัวเอง

         ชาวสะลัฟบางคนพยายามดูแลจุนเจือความต้องการของครอบครัวเพื่อนหลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้วเป็นเวลาถึงสี่สิบปี เขาจะมาหาและออกค่าใช้จ่ายให้กับพวกเขาทุกวันด้วยเงินของตัวเอง ทำให้คนในครอบครัวเหล่านั้นรู้สึกว่า พ่อของพวกเขาเสียเพียงแต่ร่างเท่านั้นแต่ความสะดวกอื่น ๆ ยังคงอยู่


ระดับที่สาม 

         ต้องให้ความสำคัญแก่ความจำเป็นของเพื่อนมากว่าความจำเป็นของท่าน ต้องเร่งช่วยเหลือเขาแม้ว่าความจำเป็นของท่านต้องชะลอการตอบสนอง

อิบนุ ชุบรุมะฮฺ ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อความจำเป็นของเพื่อนบางคน

จากนั้นก็มีของฝากมาแด่เขา เขาถามว่า นี่มันอะไรกัน ? 

เขาตอบว่า เป็นรางวัลให้กับสิ่งที่ท่านได้ช่วยเหลือฉัน 

       เขาตอบว่า ท่านเอาของของท่านกลับไปเถอะ ขอให้อัลลอฮฺ ประทานพลานามัยแด่ท่าน เมื่อท่านขอความช่วยเหลือใด ๆ จากเพื่อน แล้วเพื่อนของท่านไม่ได้ทุ่มเทมอบความช่วยเหลือแก่ท่าน ท่านก็จงเอาน้ำละหมาดแล้วละหมาดญะนาซะฮฺสี่ตักบีรให้กับเขา จงถือเขาเหมือนเป็นคนตายแล้วเสียดีกว่า

        อัล-หะสัน กล่าวว่า เพื่อนของเรา เป็นที่รักแก่เรามากกว่าภรรยาและลูก ๆ เพราะลูกเมียนั้นได้แต่พูดถึงเรื่องโลกดุนยา แต่เพื่อนของเราคอยตักเตือนเรื่องอาคิเราะฮฺ 

         นอกจากนี้ การไปเยี่ยมเยือนเพื่ออัลลอฮฺก็เป็นหนึ่งในภารกิจที่มุสลิมต้องปฏิบัติกับเพื่อน ดังที่ท่านนบีมุหัมมัด -ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม- ได้กล่าวว่า

«أَلا أُخْبِرُكُمْ بِرِجَالِكُمْ مِنْ أَهْلِ الْجَنَّةِ ؟ النَّبِيُّ فِي الْجَنَّةِ ، وَالشَّهِيدُ فِي الْجَنَّةِ ، وَالصِّدِّيقُ فِي الْجَنَّةِ ، وَرَجُلٌ يَزُورُ أَخَاهُ فِي نَاحِيَةِ الْمِصْرِ فِي الْجَنَّةِ»

“เอาไหมล่ะ ฉันจะบอกประเภทบุคคลที่จะได้เข้าสวรรค์ให้พวกท่านทราบ ? 
 

         นบีจะได้เข้าสวรรค์ ชะฮีดที่ตายเพื่อศาสนาจะได้เข้าสวรรค์ ศิดดีกหรือผู้สัจจริงก็จะได้เข้าสวรรค์ และคนที่ไปเยี่ยมเพื่อนที่ชานเมืองจะได้เข้าสวรรค์”


         มาดูตัวอย่างภาพที่น่าประทับใจของการเยี่ยมเยือนเพื่ออัลลอฮฺที่ควรแก่เอาอย่างสำหรับผู้ที่ต้องการมีจรรยามารยาทที่สมบูรณ์ นั้นคือ สัมพันธภาพระหว่างอบู อุบัยด์ อัล-กอซิม บิน สลาม กับ ท่านอิหม่ามอะหมัด บิน หันบัล เราะฮิมะฮุลลอฮฺ  

ท่านอบู อุบัยด์ ได้เล่าว่า ฉันได้เข้าพบท่านอิหม่ามอะหฺมัด บิน หันบัล ณ บ้านของท่าน แล้วท่านก็ให้ฉันนั่งที่ตรงกลางบ้าน โดยเขานั่งลงก่อน 

ฉันเลยถามว่า โอ้ อบู อับดุลลอฮฺ มีคนบอกว่า เจ้าบ้านนั้นพึงควรจะต้องนั่งที่กลางบ้านมากกว่าคนอื่นมิใช่หรือ? 

ท่านตอบว่า ใช่ เขาจะนั่งหรือจะให้ใครนั่งก็ได้ 

ฉันเลยนึกในใจว่า โอ้ อบูอุบัยด์ จงจำเป็นบทเรียนให้ดีน่ะ 

จากนั้น ฉันก็กล่าวว่า โอ้ อบู อับดุลลอฮฺ หากฉันได้มาหาท่านในสภาพที่พึงควรแก่ฐานะท่าน ฉันก็อยากจะมาหาท่านทุกวัน 

ท่านตอบว่า อย่าทำอย่างนั้นเลย ฉันมีเพื่อนมากมายที่เจอกับเขาแค่ปีละครั้ง แต่มีความสนิทสนมมากกว่าคนที่เจอกันทุกวัน 

ฉันนึกในใจว่า อ้า นี่ก็บทเรียนอีกอย่างแล้ว อบู อุบัยด์ เอ๋ย 

ครั้นเมื่อฉันต้องการผละจากไป ท่านก็ยืนขึ้น ฉันเลยบอกว่า ไม่ต้อง ท่านอบู อับดุลลอฮฺ อย่าทำอย่างนี้ 

ท่านเลยบอกว่า อัช-ชะอฺบีย์ได้กล่าวว่า การต้อนรับแขกที่สมบูรณ์ จะต้องเดินไปส่งเขาที่ประตูบ้านและสัมผัสกับพาหนะเขา 

ฉันเลยนึกใจใจอีกว่า อ้า นี่ก็อย่างที่สามแล้วล่ะ อบู อุบัยด์ เอ๋ย จากนั้น ท่านก็เดินมาส่งฉันที่ประตูและจับสัตว์พาหนะของฉัน


         อีกหนึ่งภาพตัวอย่างที่น่าประทับใจเกี่ยวกับการเยี่ยมเยือนในหมู่ชาวสะลัฟและความยินดีที่ได้เพิ่มอีมานและการรักกันในหนทางของอัลลอฮฺก็คือเรื่องที่รายงานโดยอัล-เคาะฏีบ อัล-บัฆดาดีย์ ในหนังสือ ตารีคบัฆดาดของท่าน ที่รายงานจาก อัน-นักกอช ว่า

           "ฉันได้รับรายงานว่าเพื่อนของมุหัมมัด บิน ฆอลิบ หรืออบู ญะอฺฟัร อัล-มุกริอ์ บางคนได้มาหาเขาในวันที่ดินเต็มไปด้วยโคลนจนเปื้อนเท้าไปหมด 

          แล้วท่านก็บอกเขาว่า เมื่อไรอีกเล่าที่ฉันจะมีโอกาสตอบแทนขาทั้งสองข้างที่ต้องเหนื่อยเดินมาหาฉันอย่างในวันนี้ เพื่อมาหาผลบุญจากการเยี่ยมเยียน จากนั้น ท่านก็ลุกขึ้นหาน้ำให้เขาดื่มและล้างเท้าทั้งสองข้างให้เขา”


 

 

 

 

ผู้แปล: ซุกรีย์นูร จงรักศักดิ์, ซุฟอัม อุษมาน / Islamhouse