จุดจบของมุนาฟิก
  จำนวนคนเข้าชม  2356


จุดจบของมุนาฟิก

 

คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ

 

        ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความยำเกรงต่อพระองค์ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ โดยการศึกษา แสวงหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์ และพยายามทำให้สุดกำลังความสามารถของเรา เพราะเมื่อเรายำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างจริงจังแล้ว เมื่อเรามีปัญหาในเรื่องอะไร พระองค์ก็จะทรงให้ทางออกแก่เรา จะประทานปัจจัยยังชีพแก่เรา จะทรงลบล้างความชั่วความผิดบาปออกจากตัวเรา จะทรงอภัยโทษให้แก่เรา จะทรงให้เราเป็นผู้ที่รู้จักแยกแยะความจริงกับความเท็จ แท้จริง อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเป็นผู้ทรงโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย คุฏบะฮฺวันนี้ ยังคงเป็นเรื่องราวที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อพระองค์ และบรรดามุชริกีนหรือผู้ตั้งภาคีต่อพระองค์ตกนรกไปก่อน แล้วพระองค์ก็ได้ทรงวางสะพานอัศศิรอฏ สะพานที่สำหรับใช้ข้ามนรกเพื่อไปสู่สวรรค์ ซึ่งในคุฏบะฮฺครั้งก่อนได้บอกลักษณะของสะพานไปแล้วว่า มันมีลักษณะเล็กยิ่งกว่าเส้นผม อีกทั้งมีความลื่น มีความคม มีตะขอ เป็นหนามเกาะเกี่ยวคอยฉุดกระชากผู้คนที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาให้ลงนรก ซึ่งแต่ละคนจะใช้เวลาในการการข้ามสะพานแตกต่างกัน จะเร็วจะช้าก็ขึ้นอยู่กับสภาพอะมัลการงานของเขาที่ได้กระทำไว้บนโลกดุนยา

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงวางสะพานอัศศิรอฏนี้ เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาและบรรดามุนาฟิกใช้ข้ามไปสู่สวรรค์ ...ในตัฟซีรระบุว่า ท่านอิบนุ อับบาส เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ อธิบายว่า ในท่ามกลางความมืดมิดนั้น อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงมอบแสงสว่างให้ด้วย มอบแสงสว่างเพื่อให้ใช้นำทางในการข้ามสะพานที่ทั้งเล็ก ทั้งแคบ ทั้งลื่น ทั้งคม แล้วก็มีอุปสรรคขวากหนามมากมาย เพื่อนำทางไปสู่สวรรค์ของพระองค์

 

          อัลหะดีษในบันทึกของอิมามมุสลิม รายงานจากท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

حديث جابر عند مسلم (( )(5: وَيُعْطَى كُلُّ إِنْسَانٍ مِنْهُمْ مُنَافِقٍ أَوْمُؤْمِنٍ نُورًا ثُمَّ يَتَّبِعُونَهُ وَعَلَى جِسْرِ جَهَنَّمَ كَلَا لِيبُ وَحَسَكٌ تَأْخُذُ مَنْ شَاءَاللَّهُ ثُمّ َيُطْفَأُ نُورُ الْمُنَافِقِينَ ثُمّ َيَنْجُو الْمُؤْمِنُونَ

 

     “ และมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นมุนาฟิกหรือผู้ศรัทธาก็ตาม พวกเขาจะได้รับแสงสว่าง จากนั้น พวกเขาก็จะตามมันไป(ตามแสงสว่างไป) ซึ่งบนสะพานที่ข้ามญะฮันนัมนั้น มีตะขอเหล็ก มีเหล็กแหลม มาคอยฉกเกี่ยวผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้ตกลงไปในนรก ..หลังจากนั้น แสงสว่างของมุนาฟิกก็จะถูกดับ ในขณะที่บรรดาผู้ศรัทธาจะผ่านพ้นไปได้อย่างปลอดภัย

 

         สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหมด แต่ละคนจะได้รับแสงสว่างตามระดับความศรัทธา และสภาพของอะมัลศอลิหฺของเขาที่เขาได้ทำไว้บนโลกดุนยา แสงสว่างมากที่สุดที่จะได้รับก็เท่ากับหุบเขา แสงสว่างน้อยที่สุดเท่าส่วนนิ้วหัวแม่เท้า

 

          อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลฮากิม รายงานจากท่านอิบนุ มัสอู๊ด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

الحديث: فَيُعْطَوْنَ نُورَهُمْ عَلَى قَدْرِ أَعْمَالِهِمْ، قَالَ : فَمِنْ هُمْ مَنْ يُعْطَى نُورَهُ مِثْلَ الْجَبَلِ بَيْنَيَدَيْهِ، وَمِنْهُمْ مَنْ يُعْطَى نُورَهُ فَوْقَ ذَلِكَ، وَمِنْهُمْ مَنْ يُعْطَى نُورَهُ مِثْلَ النَّخْلَةِ بِيَمِينِهِ، وَمِنْهُمْ مَنْ يُعْطَى دُونَ ذَلِكَ بِيَمِينِهِ حَتَّى يَكُونَ آخِرُ ذَلِكَ مَنْ يُعْطَى نُورَهُ عَلَى إِبْهَامِ قَدَمِهِ

يُضِيءُ مَرَّةً، وَيُطْفِئُ مَرَّةً، فَإِذَا أَضَاءَقَدَمُهُ، وَإِذَا طُفِئَ قَامَ فَيَمُرُّ وَيَمُرُّونَ عَلَى الصِّرَاطِ

 

พวกเขาจะได้รับแสงสว่างตามสภาพอะมัลการงานของพวกเขา 

ซึ่ง..ในบรรดาพวกเขานั้น มีผู้ที่ได้รับแสงสว่างดุจดังหุบเขามาส่องสว่างต่อหน้าเขา ..

และในบรรดาพวกเขา มีผู้ที่ได้รับมากยิ่งกว่านั้น ..

และจากพวกเขานั้น มีผู้ได้รับแสงสว่างประหนึ่งต้นอินทผลัมทางด้านขวาของเขา ..

และจากพวกเขาก็มีผู้ที่ได้รับอย่างอื่นๆนอกจากนั้น โดยจะได้รับจากทางด้านขวา ...

       จนกระทั่งท้ายที่สุดจะมีผู้ที่ได้รับแสงสว่างบนนิ้วหัวแม่เท้าของเขา โดยที่แสงนั้นเดี๋ยวส่องสว่าง เดี๋ยวมืดดับ ...เมื่อเวลาที่มันส่องสว่าง เขาก็เดินหน้าไป และเมื่อเวลาที่มันดับมืด เขาก็หยุดยืนอยู่เช่นนั้น แต่แล้วเขาก็ผ่านไปได้ และพวกเขาก็ผ่านสะพานกันไปได้

 

          แสดงว่า แต่ละคนจะข้ามสะพานได้สะดวกสบายไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับอีมาน ความศรัทธาและอะมัลศอลิหฺ ความดีงามของแต่ละคน

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงยืนยันอยู่ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลหะดีด อายะฮฺที่ 12 ว่า

 

يَوْمَ تَرَى الْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ يَسْعَىٰ نُورُهُم بَيْنَ أَيْدِيهِمْ وَبِأَيْمَانِهِم بُشْرَاكُمُ الْيَوْمَ جَنَّاتٌ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الْأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَا ۚ ذَٰلِكَ هُوَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ

 

     “(วันกิยามะฮฺ)วันที่เจ้าจะเห็นบรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิง แสงสว่างของพวกเขาจะฉายแสง เบื้องหน้าของพวกเขา และทางเบื้องขวาของพวกเขา 

     (จะมีเสียงกล่าวว่า) วันนี้มีข่าวดีแก่พวกเจ้า คือ(พวกเจ้าจะได้รับ)สวนสวรรค์หลากหลายที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน เบื้องล่างของมัน โดยพวกเจ้าจะได้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นคือ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่

 

          อันนี้ สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างจริงใจ ...แต่สำหรับในส่วนของบรรดามุนาฟิก ผู้ที่มีความกลับกลอกในหัวใจนั้น จะไม่มีแสงสว่างนำทางพวกเขาเลย เพราะเมื่อบรรดามุนาฟิกเห็นบรรดาผู้ศรัทธามุ่งหน้าไปตามแสงสว่าง พวกเขาก็จะตามไปด้วย แต่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงให้ความมืดมิดปกคลุมพวกเขา พวกเขามองไม่เห็นอะไร พวกเขาก็เลยบอกกับบรรดาผู้ศรัทธาว่า มองมาที่เราหน่อย

          ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลหะดีด อายะฮฺที่ 13

 

يَوْمَ يَقُولُ الْمُنَافِقُونَ وَالْمُنَافِقَاتُ لِلَّذِينَ آمَنُوا انظُرُونَا نَقْتَبِسْ مِن نُّورِكُمْ قِيلَ ارْجِعُوا وَرَاءَكُمْ فَالْتَمِسُوا نُورًا فَضُرِبَ بَيْنَهُم بِسُورٍ لَّهُ بَابٌ بَاطِنُهُ فِيهِ الرَّحْمَةُ وَظَاهِرُهُ مِن قِبَلِهِ الْعَذَابُ

 

     “วันที่บรรดามุนาฟิกชาย และบรรดามุนาฟิกหญิงจะกล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า จงมองมายังเราหน่อย เพื่อเราจะได้รับแสงสว่างของพวกท่านด้วย

     (แล้วก็จะมีเสียงกล่าวแก่บรรดามุนาฟิกว่า) จงหันหลังกลับไปทางข้างหลังของพวกท่านเพื่อแสวงหาแสงสว่างเอาเอง ..(แล้วในขณะนั้น)ก็จะมีกำแพงที่มีประตูบานหนึ่งมาขวางกั้นระหว่างพวกเขา (ระหว่างมุนาฟิกกับมุอ์มิน)

     (ซึ่งท่านหะซันและท่านอัลก่อตาดะฮ์อธิบายว่ามันเป็นกำแพงกั้นระหว่างนรกกับสวรรค์) ...(โดยที่)ด้านในของมันนั้นมีความเมตตา และด้านนอกของมันนั้นมีการลงโทษ

 

อายะฮฺที่ 14

 

يُنَادُونَهُمْ أَلَمْ نَكُن مَّعَكُمْ ۖ قَالُوا بَلَىٰ وَلَٰكِنَّكُمْ فَتَنتُمْ أَنفُسَكُمْ وَتَرَبَّصْتُمْ وَارْتَبْتُمْ وَغَرَّتْكُمُ الْأَمَانِيُّ حَتَّىٰ جَاءَ أَمْرُ اللَّهِ وَغَرَّكُم بِاللَّهِ الْغَرُورُ

 

     “พวกเขา(บรรดามุนาฟิก)จะร้องเรียก(บรรดามุอ์มิน) ว่า พวกเราไม่เคยอยู่ร่วมกับพวกท่านหรอกหรือ

     บรรดามุอ์มินกล่าวว่า แน่นอน (เราเคยอยู่ร่วมกันมา) แต่พวกท่านได้ทำลายตัวของพวกท่านเองด้วยการกลับกลอก

     และพวกท่านคอยสิ่งที่(ไม่ดีให้)เกิดขึ้น(แก่บรรดามุอ์มิน) และพวกท่านสงสัย(ในเรื่องราวของศาสนา)

     และความหวังที่เลื่อนลอยได้หลอกลวงพวกท่าน จนกระทั่งคำสั่งของอัลลอฮฺได้มีมา และมัน (ชัยฎอน) ได้ล่อลวงพวกเจ้าเกี่ยวกับอัลลอฮฺ

 

อายะฮฺที่ 15 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

فَالْيَوْمَ لَا يُؤْخَذُ مِنكُمْ فِدْيَةٌ وَلَا مِنَ الَّذِينَ كَفَرُوا ۚ مَأْوَاكُمُ النَّارُ ۖ هِيَ مَوْلَاكُمْ ۖ وَبِئْسَ الْمَصِيرُ

 

     “ดังนั้น วันนี้การไถ่บาปจากพวกเจ้า จะไม่ถูกรับ และ(การไถ่บาป)จากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา(ก็ไม่ถูกรับด้วยเช่นกัน)

     (และแน่นอน)ที่พำนักของพวกเจ้าก็คือไฟนรก มันเป็นสถานที่อันเหมาะสมแก่พวกเจ้า และมันเป็นทางกลับที่ชั่วร้ายยิ่ง

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย นั่นก็คือ สภาพของบรรดามุนาฟิกที่จะได้รับในวันกิยามะฮฺ และจุดจบของพวกเขาก็คือที่อยู่ที่พำนักในไฟนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและบรรดามุชริกีน และที่ร้ายแรงยิ่งไปกว่านั้นก็คือ บรรดามุนาฟิกจะอยู่ในชั้นต่ำสุดของนรกอีกด้วย

     ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนิซาอ์ อายะฮฺที่ 145 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

إِنَّ الْمُنَافِقِينَ فِي الدَّرْكِ الْأَسْفَلِ مِنَ النَّارِ وَلَن تَجِدَ لَهُمْ نَصِيرًا

 

แท้จริง บรรดามุนาฟิกนั้นอยู่ในชั้นต่ำสุดของนรก และเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใด สำหรับพวกเขาเป็นอันขาด

 

          ข้อความที่ว่า فِي الدَّرْكِ الْأَسْفَلِ مِنَ النَّارอยู่ในชั้นต่ำสุดของนรก” นั้น ท่านอิบนิ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เศาะฮาบะฮฺของท่านนบี ได้กล่าวว่า หมายถึง อยู่ชั้นล่างที่สุดของนรก โดยที่นรกก็มีหลายชั้น เช่นเดียวกับสวรรค์ก็มีหลายชั้น พวกเขาจะถูกกักขังไว้อย่างแน่นหนา โดยที่ไม่มีใคร หรือไม่มีสิ่งใดที่จะมาช่วยเหลือพวกเขาออกมาให้พ้นจากการลงโทษอันเจ็บแสบทรมานได้เลย

 

          ดังนั้น เราจะเห็นความร้ายแรงของการเป็นมุนาฟิกว่า บรรดาผู้ปฏิเสธก็ตกนรก บรรดามุนาฟิกก็ตกนรก แต่มุนาฟิกกลับเป็นผู้ที่จะอยู่ในชั้นต่ำสุดของนรก ต่ำยิ่งกว่าบรรดาผู้ปฏิเสธเสียอีก มุนาฟิกจึงเป็นพวกที่ถูกตำหนิอย่างรุนแรงตามที่ปรากฏหลักฐานอยู่ในอัลกุรอานและอัลหะดีษที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจึงได้ทรงมีคำถามถามเรา ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลหะดีด อายะฮฺที่ 16 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงถามว่า

 

أَلَمْ يَأْنِ لِلَّذِينَ آمَنُوا أَن تَخْشَعَ قُلُوبُهُمْ لِذِكْرِ اللَّهِ وَمَا نَزَلَ مِنَ الْحَقِّ

 

     ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือ “..ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา ที่หัวใจของพวกเขาจะนอบน้อมต่อการรำลึกถึงอัลลอฮฺ และสิ่งซึ่งได้ประทานลงนั้นคือสัจธรรมความจริง

 

          สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงคุ้มครองเราทุกคนให้พ้นจากการเป็นมุนาฟิก ขอพระองค์ทรงให้เรารู้เท่าทันลักษณะของมุนาฟิกและได้ปลีกตัวออกห่างจากการปฏิบัติมัน ขอพระองค์ทรงปกปักรักษาเราให้พ้นจากการเป็นผู้ที่ละเมิด ขอให้เราได้ดำรงตนและปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตของบทบัญญัติศาสนา และเสียชีวิตในสภาพของผู้ที่นอบน้อมยอมจำนนต่อพระองค์โดยสิ้นเชิง

 

 

(คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ)