ดุอาอฺที่พ่อแม่ควรขอให้ลูก
  จำนวนคนเข้าชม  506

ดุอาอฺที่พ่อแม่ควรขอให้ลูก

 

อับดุลวาเฮด สุคนธา

 

         การขอดุอาอฺ ให้แก่ลูกจากผู้เป็นเจ้าของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ คือ ลู่ทางการตอบรับจากพระองค์อัลลอฮฺ และเป็นตัวแปลสำคัญยิ่งสำหรับผู้พ่อแม่ที่จะขอดุอาให้แก่บุตรของเขา ทั้งก่อนร่วมประเวณีระหว่างสามีภรรยา ขณะที่ตั้งครรภ์ หรือขณะคลอดหรือหลังคลอดทารกน้อยลืมตาดูโลกแล้ว ทั้งดุอาอ์นั้นคืออิบาดะฮฺ

 

พระองค์อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า :

 

وَقَالَ رَبُّكُمُ ادْعُونِي أَسْتَجِبْ لَكُمْ

 

"และพระเจ้าของพวกเจ้าตรัสว่า จงวิงวอนขอต่อข่า ข้าจะตอบรับแก่พวกเจ้า " 

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺฆอฟิร 60)

 

มีรายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮูอันฮู ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัมได้กล่าวว่า

 

ثلاثُ دَعواتٍ لا تُرَدُّ : دعوةُ الوالِدِ لِولدِهِ ، ودعوةُ الصائِمِ ، ودعوةُ المسافِرِ

 

บทดุอาอ์จากบุคคลสามประเภทไม่ถูกปฎิเสธ (จะถูกตอบรับ)

♥· ดุอาอ์ของพ่อแม่ที่ขอให้ลูก

♥· ดุอาอ์ของผู้ที่ถือศิลอด

♥· ดุอาอ์ของผู้เดินทาง

(บันทึกโดย อบูดาวูด ติรมีซีย์)

 

 

บทดุอาอ์ท่านนบีอิบรอฮีม (อะลัยฮิสลาม)

 

บทที่หนึ่ง

 

(رَبِّ هَبْ لِي مِنَ الصَّالِحِينَ) (الصافات:100).

 

"ข้าแต่พรเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงประทานบุตรที่มาจากหมู่คนดีให้แก่ข้าพระองค์ด้วย

 

 

บทที่สอง

 

(رَبِّ اجْعَلْنِي مُقِيمَ الصَّلَاةِ وَمِنْ ذُرِّيَّتِي رَبَّنَا وَتَقَبَّلْ دُعَاءِ) (إبراهيم:40).

 

"ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้ข้าพระองค์และลูกหลานของข้าพระองค์ เป็นผู้ดำรงการละหมาด

โอ้พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอพระองค์โปรดทรงตอบรับการวิงวอนด้วยเถิด"

 

 

บทที่สาม 

 

     ดุอาอฺขอให้ลูกมีความนอบน้อมต่ออัลลอฮฺ

 

رَبَّنَا وَاجْعَلْنَا مُسْلِمَيْنِ لَكَ وَمِنْ ذُرِّيَّتِنَا أُمَّةً مُسْلِمَةً لَكَ [ البقرة: 128].

 

"พระผู้อภิบาลของเรา ขอพระองค์โปรดทรงทำให้เราทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์

และโปรดทรงทำให้ลูกหลานของเราเป็นชนชาติที่นอบน้อมต่อพระองค์ด้วยเถิด"

 

 

บทที่สี่

 

 وَإِذْ قَالَ إِبْرَاهِيمُ رَبِّ اجْعَلْ هَذَا الْبَلَدَ آمِنًا وَاجْنُبْنِي وَبَنِيَّ أَنْ نَعْبُدَ الْأَصْنَامَ ﴾ [إبراهيم: 35]

 

     และจงรำลึกเมื่ออิบรอฮีมกล่าวว่าโอ้ พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้เมืองนี้ (มักกะฮ) ปลอดภัย

     และทรงให้ข้าพระองค์และลูกหลานของข้าพระองค์พ้นจากการบูชาเจว็ด"

 

 

บทที่ห้า

 

 رَبَّنَا وَابْعَثْ فِيهِمْ رَسُولًا مِنْهُمْ يَتْلُو عَلَيْهِمْ آيَاتِكَ وَيُعَلِّمُهُمُ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَيُزَكِّيهِمْ إِنَّكَ أَنْتَ الْعَزِيزُ الْحَكِيمُ ﴾ [البقرة: 129]،

 

     "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของพวกข้าพระองค์โปรดส่งรอซูลคนหนึ่งคนใดจากพวกเขาเองไปในหมู่พวกเขา(ท่านนบีมุหัมมัด) ซึ่งเขาจะได้อ่านบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเขาฟัง

     และจะได้สอนคัมภีร์และความมุ่งหมายแห่งบัญญัติให้พวกเขาทราบ และซักฟอกพวกเขาให้สะอาด แท้จริงพระองค์ทรงไว้ซึ่งเดชานุภาพและปรีชาญาณ"

 

 

บทดุอาอ์ท่านนนบีซะกะรียา (อะลัยฮิสลาม)

 

{رَبِّ هَبْ لِي مِن لَّدُنْكَ ذُرِّيَّةً طَيِّبَةً إِنَّكَ سَمِيعُ الدُّعَاءِ} (آل عمران:38).

 

"ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดได้ทรงประทานแก่ข้าพระองค์ ซึ่งบุตรที่ดีคนหนึ่งจากที่พระองค์

แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยินคำวิงวอน"

 

ذِكْرُ رَحْمَتِ رَبِّكَ عَبْدَهُ زَكَرِيَّا

 

"(นี่คือ) การกล่าวถึงเมตตาธรรมแห่งพระเจ้าของเจ้า ที่มีต่อซะกะรียาบ่าวของพระองค์"

 

إِذْ نَادَىٰ رَبَّهُ نِدَاءً خَفِيًّا

 

"เมื่อเขาวิงวอนต่อพระเจ้าของเขา ด้วยการวิงวอนอย่างแผ่วเบา"

 

قَالَ رَبِّ إِنِّي وَهَنَ الْعَظْمُ مِنِّي وَاشْتَعَلَ الرَّأْسُ شَيْبًا وَلَمْ أَكُن بِدُعَائِكَ رَبِّ شَقِيًّا

 

เขากล่าวว่าข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงกระดูกของข้าพระองค์อ่อนแล้ว และศีรษะก็มีประกายหงอกแล้ว

และมิเคยปรากฏเลยว่าการวิงวอนของข้าพระองค์ต่อพระองค์นั้นไร้ผล โอ้ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์"

 

وَإِنِّي خِفْتُ الْمَوَالِيَ مِن وَرَائِي وَكَانَتِ امْرَأَتِي عَاقِرًا فَهَبْ لِي مِن لَّدُنكَ وَلِيًّا

 

และแท้จริงข้าพระองค์กลัวลูกหลานของข้าพระองค์ ภายหลัง (การตายของ) ข้าพระองค์ และภริยาของข้าพระองค์ก็เป็นหมันด้วย

ดังนั้นขอพระองค์ทรงโปรดประทานทายาที่ดีจากพระองค์แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด

 

يَرِثُنِي وَيَرِثُ مِنْ آلِ يَعْقُوبَ ۖ وَاجْعَلْهُ رَبِّ رَضِيًّا

 

"ผู้ซึ่งจะสืบทายาทแทนข้าพระองค์ และสืบทายาทจากตระกูลของยะอ์กูบ

และขอพระองค์ทรงโปรดให้เขาเป็นที่โปรดปรานด้วยเถิด ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์

 

 

บทดุอาอ์นางหันนะฮฺ บินตฺนาฟูซ(แม่ท่านหญิงมัรยัม) ภรรยาท่านอิมรอน (อะลัยฮิสลาม)

 

إِذۡ قَالَتِ ٱمۡرَأَتُ عِمۡرَٰنَ رَبِّ إِنِّي نَذَرۡتُ لَكَ مَا فِي بَطۡنِي مُحَرَّرا فَتَقَبَّلۡ مِنِّيٓۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلسَّمِيعُ ٱلۡعَلِيمُ

 

จงรำลึกถึงขณะที่ภรรยาของอิมรอน กล่าวว่า...

"โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์ได้บนไว้ว่าให้สิ่ง(บุตร)ที่อยู่ในครรภ์ของข้าพระองค์

ถูกเจาะจงอยู่ในฐานะผู้เคารพอิบาดะฮฺต่อพระองค์และรับใช้พระองค์เท่านั้น

ดังนั้นขอพระองค์ได้โปรดรับจากข้าพระองค์ด้วยเถิด แท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้"

 

(فَلَمَّا وَضَعَتۡهَا قَالَتۡ رَبِّ إِنِّي وَضَعۡتُهَآ أُنثَىٰ وَٱللَّهُ أَعۡلَمُ بِمَا وَضَعَتۡ وَلَيۡسَ ٱلذَّكَرُ كَٱلۡأُنثَىٰۖ وَإِنِّي سَمَّيْتُهَا مَرْيَمَ وَإِنِّي أُعِيذُهَا بِكَ وَذُرِّيَّتَهَا مِنَ الشَّيْطَانِ الرَّجِيمِ) (آل عمران:35-36).

 

ครั้นเมื่อนางได้คลอดบุตร นางก็กล่าวว่า...

"โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์ได้คลอดบุตรเป็นหญิง และอัลลอฮฺนั้นทรงรู้ดียิ่งกว่าถึงบุตรที่นางได้คลอดมา

และใช่ว่าเพศชายนั้นจะเหมือนกันเพศหญิงก็หาไม่ และข้าพระองค์ได้ตั้งชื่อเขาว่ามัรยัม

แล้วข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้ทรงคุ้มครองนาง และลูกของนางให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกขับไล่

 

 

ดุอาอฺขอให้ลูกอยู่ในความดีงาม

 

رَبِّ أَوْزِعْنِي أَنْ أَشْكُرَ نِعْمَتَكَ الَّتِي أَنْعَمْتَ عَلَيَّ وَعَلَى وَالِدَيَّ وَأَنْ أَعْمَلَ صَالِحًا تَرْضَاهُ وَأَصْلِحْ لِي فِي ذُرِّيَّتِي إِنِّي تُبْتُ إِلَيْكَ وَإِنِّي مِنَ الْمُسْلِمِينَ [النمل آية:١٩]

 

ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ....

     ขอพระองค์โปรดดลบันดาลให้ข้าพระองค์ ได้ทำการขอบคุณต่อความโปรดปรานของพระองค์ ที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ และแก่บิดามารดาของข้าพระองค์

     ขอพระองค์โปรดให้ข้าพระองค์ได้กระทำความดีอันเป็นที่พึงพอพระทัย และขอพระองค์ทรงปรับปรุงลูกหลานเชื้อสายของข้าพระองค์ให้อยู่ในความดีงาม

     แท้จริง ข้าพระองค์ขอลุแก่โทษต่อพระองค์ และแท้จริง ข้าพระองค์อยู่ในหมู่ผู้นอบน้อมยอมจำนน

 

 

.ดุอาอฺขอให้ลูกเป็นลูกที่ดี เป็นที่รักของพ่อแม่

 

(وَالَّذِينَ يَقُولُونَ رَبَّنَا هَبْ لَنَا مِنْ أَزْوَاجِنَا وَذُرِّيَّاتِنَا قُرَّةَ أَعْيُنٍ وَاجْعَلْنَا لِلْمُتَّقِينَ إِمَامًا)(الفرقان:74).

 

"พระผู้อภิบาลของเรา ขอพระองค์โปรดประทานให้กับเรา ซึ่งคู่ครองและลูกหลานอันเป็นที่รื่นรมย์แก่สายตา (เป็นที่รักยิ่งด้วยความดีที่กระทำ)

และโปรดทรงทำให้เรา เป็นแบบอย่างแก่ผู้ยำเกรงทั้งหลายด้วยเถิด"

 

นักอธิบายกรุอ่านได้กล่าวว่า...

     พวกเขาจะต้องวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้ลูกหลานนั้นเกิดมาเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียว และปฎิบัติด้วยการเชื่อฟัง

     นี้คือสิ่งที่จะทำให้เขานั้นมีดางตาที่รื่นรมย์เมื่องมองไปยังพวกเขาทั้งโลกนี้และโลกหน้า

 

อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า

 

(رَبِّ أَوْزِعْنِي أَنْ أَشْكُرَ نِعْمَتَكَ الَّتِي أَنْعَمْتَ عَلَيَّ وَعَلَى وَالِدَيَّ وَأَنْ أَعْمَلَ صَالِحًا تَرْضَاهُ وَأَصْلِحْ لِي فِي ذُرِّيَّتِي إِنِّي تُبْتُ إِلَيْكَ وَإِنِّي مِنَ الْمُسْلِمِينَ)(الأحقاف:15).

 

     ขอพระองค์ทรงโปรดประทานแก่ข้าพระองค์ เพื่อให้ข้าพระองค์ขอบคุณต่อความโปรดของพระองค์ท่าน

     ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงโปรดปรานแก่ข้าพระองค์ และบิดามารดาของข้าพระองค์

     และให้ข้าพระองค์ทำความดีเพื่อให้พระองค์ท่านทรงพอพระทัยแก่ข้าพระองค์ และทรงให้ความดีเกิดขึ้นในลูกหลานของข้าพระองค์

     แท้จริงข้าพระองค์ขอลุแก่โทษต่อพระองค์ และแท้จริงข้าพระองค์อยู่ในหมู่ผู้นอบน้อม

 

 

ขอดุอาอฺให้ลูกนั้นเข้าใจศาสนา

 

عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَضَعَ يَدَهُ عَلَى كَتِفِي، أَوْ عَلَى مَنْكِبِي، شَكَّ سَعِيدٌ، ثُمَّ قَالَ : " اللَّهُمَّ فَقِّهْهُ فِي الدِّينِ، وَعَلِّمْهُ التَّأْوِيلَ ".

 

     จากอิบนุอับบาส รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า : แท้จริงท่านรอซูลุลลอฮฺได้วางมือของท่านลงบนบ่าของฉัน หรือบนไหล่ของฉัน (ซะอี๊ดซึ่งเป็นผู้รายงานไม่เเน่ใจ) 

     หลังจากนั้นท่านกล่าวว่า : โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้เขาเข้าใจในศาสนา เเละโปรดสอนให้เขารู้การอรรถาธิบายอัลกุรอาน

(บันทึกโดยอิหม่ามอะหมัด เเละเชคอะหมัดชากิรให้สถานะศ่อฮีหฺ)

 

     อีกสำนวนหนึ่ง: มีรายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อับบาส เล่าว่า : ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้อุ้มฉันและท่านได้ขอดุอาอ์ ว่า :

 

اللَّهُمَّ عَلِّمْهُ الْحِكْمَةَ 

โอ้อัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงสอนความรู้ (การอธิบายอัลกุรอ่าน) ให้แก่เขาด้วยเถิด

(บันทึกโดยบุคอรีย์)

 

 

การได้รับความรู้ในเรื่องศาสนานั้นถือว่าเป็นความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่จากอัลลอฮฺ

 

     ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

«مَنْ يُرِدْ اللَّهُ بِهِ خَيْرًا يُفَقِّهْهُ فِي الدِّينِ»

 

"เมื่ออัลลอฮฺทรงประสงค์ให้บ่าวคนหนึ่งได้รับความดีงาม พระองค์จะให้เขามีความเข้าใจในศาสนา"

 

(บันทึกโดยบุคอรีย์ มุสลิม)

 

การศึกษาหาความรู้ จะเป็นหนทางสู่เข้าสู่สวนสวรรค์

 

     ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

مَنْ سَلَكَ طَرِيقًا يَلْتَمِسُ فِيهِ عِلْمًا سَهَّلَ اللَّهُ لَهُ طَرِيقًا إِلَى الْجَنَّةِ

 

ใครก็ตามที่ได้ออกไปบนหนทางการแสวงหาความรู้ อัลลอฮฺจะทรงทำให้ง่ายดายแก่เขาซึ่งหนทางไปสู่สวรรค์ 

(รายงานโดยมุสลิม)

 

          ฉะนั้นจำเป็นมุสลิมทุกคนจะต้องเรียนรู้อิสลามเราต้องย้อนถามตัวเองว่า วันนี้เรารู้เรื่องอิสลามมากน้อยแค่ใหน เรื่องของอัลลออฺ เรื่องของการใช้ชีวิตและการกลับไปสู่อัลลอฮฺ

 

          วันนี้ช่องทางการศึกษาอิสลามมีมากมาย เฟสบุ๊ค ทีวี วิทยุ เสียงตามสาย ยูทูป เหมือนฝุ่นลอยในอากาศเราจะจับมาใส่ตอนไหนก็ได้ จงวางเป้าหมายชีวิตในแต่ละวันในการศึกษาอัลอิสลาม วันละนิดวันละนิด นี้คือแพลนชีวิตที่ดีงามอัลกรุอานและซุนนะของท่านนบี

 

 

พ่อแม่จะได้รับผลบุญจากลูกที่ดี หลังจากจากไปแล้ว

 

     ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

เมื่อมนุษย์ได้เสียชีวิตลง การงานของเขาจะถูกตัดขาด นอกจากการงานสาม ประการ

إِذَا مَاتَ ابنُ آدم انْقَطَعَ عَنْهُ عَمَلُهُ إِلَّا مِنْ ثَلَاثٍ: صَدَقَةٍ جَارِيَةٍ، أو عِلْمٍ يُنْتَفَعُ بِهِ، أَوْ وَلَدٍ صَالِحٍ يَدْعُو لَهُ.

- การบริจาคทานที่ถาวร

- ความรู้ซึ่งเป็นประโยชน์

- ลูกที่ดีซึ่งขอดุอาอ์ให้กับเข

(บันทึกโดยมุสลิม)

 

เชคอุษัยมีนกล่าวว่า 

      ลูกที่เสียชีวิตที่เขานั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ พวกเขานั้นจะช่วยเหลือบิดามารดาด้วยการปกป้องรอดพันจากไฟนรก หากลูกที่บรรลุนิติภาวะแล้ว พวกเขาจะขอความช่วยเหลือให้แก่บิดามารดาของเขา

 

 

สาเหตุที่เด็กออกห่างจากศาสนาอิสลามได้ด้วยเหตุผลหลายประการ

 

1. การเปลี่ยนแปลงทางวัย:

- วัยรุ่นมักตั้งคำถามกับทุกสิ่ง รวมถึงความเชื่อทางศาสนา

- ต้องการค้นหาตัวตนและความคิดของตัวเอง

- ต้องการอิสระในการใช้ชีวิต

 

2. การขาดความเข้าใจ:

- เด็กอาจไม่เข้าใจหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม

- มองว่าศาสนาเป็นข้อจำกัด

- รู้สึกอึดอัดกับกฎเกณฑ์

 

3. อิทธิพลจากภายนอก:

- เพื่อน หรือ สื่อ

- วัฒนธรรมตะวันตก

- ลัทธิความเชื่ออื่น

 

4. ปัญหาภายในครอบครัว:

- พ่อแม่ไม่เคร่งศาสนาและละเลยการเรียนศาสนา

- ครอบครัวมีความขัดแย้ง

- เด็กถูกกดดัน

 

5. ประสบการณ์ที่ไม่ดี:

- ถูกคนในศาสนาอิสลามปฏิบัติไม่ดี

- เห็นความรุนแรงในนามของศาสนา

- รู้สึกผิดหวังกับศาสนา

 

ผลกระทบ

- เด็กอาจรู้สึกสับสน

- รู้สึกผิด

- รู้สึกโดดเดี่ยว

- ห่างไกลจากครอบครัว

- เสี่ยงต่อการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข

 

 

แนวทางการแก้ไข

 

เปิดใจพูดคุยกับเด็ก:

- พยายามเข้าใจมุมมองของเด็ก

- อธิบายหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างใจเย็น

- ยกตัวอย่างที่ดี

- หาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกฝังกับเขา

 

ส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ศาสนา:

- หาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

- พาเด็กไปมัสยิด

- เข้าค่ายอบรม

- เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเกี่ยวกับศาสนา เช่น การแข่งขันวิชาการ ท่องจำกรุอ่าน ท่องจำหะดีส

 

สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก:

- ใช้เวลาร่วมกัน

- แสดงความรักความห่วงใย

- เป็นผู้ฟังที่ดี

 

เป็นแบบอย่างที่ดี:

- ปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด

- ใจเย็น

- ใจกว้าง

- ให้อภัยเมื่อเด็กผิดพลาด

 

 

สิ่งสำคัญคือ

- พ่อแม่ ครู และผู้อาวุโส

- เข้าใจธรรมชาติของวัยรุ่น

- พูดคุยกับเด็กอย่างเปิดใจ

- สนับสนุนให้เด็กเรียนรู้ศาสนา

- เป็นแบบอย่างที่ดี