ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ อับบ๊าส 2
  จำนวนคนเข้าชม  7450

ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ อับบ๊าส 2


          เมื่อท่านอิบนิ อับบ๊าส ศึกษาจนกระทั่งมีความรู้แล้ว ท่านก็สอนความรู้ที่ได้รับมานั้นแก่ผู้อื่น ฉะนั้นบ้านพักของท่านจึงกลายเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับมุสลิม ครับ!เป็นมหาวิทยาลัยจริงๆเหมือนกับมหาวิทยาลัยในสมัยปัจจุบันนี้ทุกประการ ที่ต่างกันก็คือ มหาวิทยาลัยในปัจจุบันต้องระดมอาจารย์ผู้บรรยายเป็นสิบๆท่าน บางแห่งจำนวนนับร้อย แต่มหาวิทยาลัยของท่านอิบนิ อับบ๊าส นั้น มีท่านอิบนิ อับบ๊าส เป็นอาจารย์เพียงผู้เดียวที่บรรยายได้ทุกวิชา ลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านอิบนิ อับบ๊าส ได้เล่าว่า :

          เมื่อเห็นท่านอิบนิ อับบ๊าส นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ที่มาแสวงหาวิชาความรู้กับท่านแล้ว ถ้าหากชาวกุเรชจะรู้สึกภูมิใจแล้ว มันก็เป็นสถานที่ที่น่าภูมิใจจริงๆ เพราะเห็นประชาชนแออัดอยู่เต็มซอยทางเข้าบ้านของท่านจนทำให้ซอยคับแคบ ฉันจึงเข้าไปหาท่านและบอกให้ท่านทราบว่ามีประชาชนเบียดเสียดกันเต็มหน้าบ้านแล้ว ท่านจึงกล่าวว่า :  

          ช่วยเอาน้ำมาให้หน่อยซิ
         
แล้วท่านก็อาบน้ำละหมาดเสร็จแล้วจึงนั่งลงแล้วกล่าวว่า :
     
         จงไปบอกพวกเขาว่าใครต้องการจะเรียนวิชาเกี่ยวกับการอ่านอัลกุรอานที่ถูกวิธีก็เชิญเข้ามาข้างในได้

        ศิษย์ของท่านผู้นั้นก็ออกไปบอกให้ประชาชนทราบดังกล่าว พวกเขาจึงเข้าไปในบ้านจนเต็มหมดทุกห้อง ใครมีข้อข้องใจซักถาม ท่านอิบนิ อับบ๊าส ก็ตอบให้ทราบโดยละเอียดและบอกเพิ่มเติมความรู้ให้อีก เมื่อเวลาผ่านไปโดยสมควร ท่านกล่าวว่า :
 
         พี่น้องที่รัก จงเปิดโอกาสให้ผู้อื่นศึกษาบ้างเถิด
 
บรรดาศิษย์เหล่านั้นก็ออกไป แล้วท่านอิบนิ อับบ๊าส ก็กล่าวว่า :
 
         จงออกไปบอกพวกเขาว่า ใครต้องการซักถามเกี่ยวกับวิชาการอรรถาธิบายอัลกุรอาน และการให้ความหมายก็จงเข้ามาข้างในเถิด

        ฉันก็ออกไปบอกประชาชนที่รออยู่ด้านนอก พวกเขาก็เข้ามาจนเต็มบ้านทุกห้อง ทุกเรื่องที่พวกเขาซักถามเพื่อหาความเข้าใจ ท่านอิบนิ อับบ๊าส ก็ตอบให้ทราบอย่างชัดเจนและบอกเพิ่มเติมเป็นความรู้ให้อีกจนกระทั่งได้เวลาอันสมควร ท่านก็กล่าวว่า  :

         พี่น้องทั้งหลาย จงเปิดโอกาสให้ผู้อื่นศึกษาบ้างเถิด
         
แล้วพวกเขาก็ออกไป ท่านก็กล่าวอีกว่า :

         ออกไปเรียกผู้ที่รอคอยอยู่ด้านนอกว่าใครจะถามเกี่ยวกับเรื่อง ฮะล้าล ฮะรอมเรื่องฟิกฮฺก็จงเข้ามาเถิด

        ฉันจึงออกไปประกาศตามนั้น ประชาชนก็เข้ามาจนเต็มบ้านหมดทุกห้องเช่นเดิม ผู้ใดถามข้อข้องใจท่านก็ตอบให้ชัดเจนและเพิ่มเติมความรู้ให้อีกด้วย เมื่อสมควรแก่เวลาท่านก็กล่าวว่า :

          พี่น้องที่รักจงเปิดโอกาสให้ผู้อื่นศึกษาหาความรู้บ้างเถิด

พวกเขาก็ออกไปด้านนอก ท่านก็กล่าวกับฉันอีกว่า :

          ออกไปบอกผู้ที่รออยู่ด้านนอกซิว่า ใครต้องการที่จะซักถามเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งมรดก หรือเกี่ยวกับทรัพย์สินก็จงเข้ามาเถิด

         ฉันก็ออกไปประกาศตามนั้น พวกเขาก็เข้ามาในบ้านจนเต็มหมดทุกห้อง ผู้ใดถามข้อข้องใจท่านก็ตอบทุกประเด็นจนกระทั่งสมควรแก่เวลาท่านก็กล่าวว่า :

          พี่น้องทั้งหลายเปิดโอกาสให้ผู้อื่นศึกษาความรู้บ้างเถิด

พวกเขาก็ออกไปท่านก็กล่าวอีกว่า :

         จงบอกผู้ที่อยู่ด้านนอกซิว่า ใครจะซักถามเกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ภาษาอาหรับ คำโคลงกลอน คำศัพท์ในภาษาอาหรับก็จงเข้ามาได้

         ประชาชนก็เข้ามาจนเต็มบ้านหมดทุกห้อง ผู้ใดถามข้อข้องใจท่านก็ตอบ และเพิ่มเติมความรู้ให้อีก ผู้เล่าเรื่องนี้ได้กล่าวว่า :

          ถ้าหากชาวกุเรชทั้งหมดจะภูมิใจในเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นการเหมาะสมแล้ว

          ระยะต่อมา ท่านอิบนิ อับบ๊าส เห็นควรจัดตารางสอนตามวันต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผู้คนเบียดเสียดแออัดที่หน้าบ้านเช่นนี้ที่ผ่านมา ดังนั้นท่านจึงเฉลี่ยสอนวิชาละหนึ่งวันตามลำดับกล่าวคือ วิชาตัฟซีรฟิกฮฺ และการทำศึกของท่านรอซูล โคลงกลอน หลักภาษา ดังนั้นจึงไม่มีนักวิชาการท่านใดเลยที่ไม่ได้มาศึกษาหาวิชาความรู้กับท่านอิบนิ อับบ๊าส และไม่มีปัญหาใดเลยที่มีผู้ถามท่าน นอกจากท่านต้องตอบให้ทราบชัดเจน

          และด้วยความมีวิชา มีความรู้ มีความเข้าใจ และฉลาดเฉลียว จึงทำให้ท่านกลายเป็นที่ปรึกษาของท่านคอลีฟะห์ทั้งๆที่ท่านยังมีอายุน้อยขณะที่ท่านอุมัร ประสบปัญหายุ่งยากลำบากในการตัดสินใจ ท่านจะต้องเรียกบรรดาศอหะบะห์ชั้นอาวุโสมาปรึกษาหารือด้วย และเมื่อมาถึงท่านอุมัร ให้เกียรติเข้ามานั่งใกล้ๆ แล้วท่านก็กล่าวว่า :

          เรามีปัญหาที่ต้องการแก้ไขขอให้ท่านช่วยคิดหาหนทางด้วย

          ครั้งหนึ่งท่านอุมัรเคยถูกตำหนิ เพราะนำท่านอิบนิ อับบ๊าส เข้าร่วมประชุมกับผู้อาวุโส ทั้งๆที่ยังเป็นเด็กหนุ่มเท่านั้น แต่ท่านอุมัร กล่าวว่า :

          แท้จริงเขาเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์ มีลิ้นที่ชอบซักถาม สืบสวน มีสติปัญญาดี
 
          ท่านอิบนิ อับบ๊าส นั้น นอกจากจะสอนวิชาประจำแล้ว ท่านยังใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งกล่าวสุนทรพจน์ตักเตือนผู้ประพฤติผิด เช่นครั้งหนึ่งท่านได้กล่าวตักเตือนว่า :

          โอ้ผู้ทำผิดเอ๋ย ท่านอย่าได้คิดว่าจะรอดพ้นจากการทรมานไปได้ จงทราบเถิดว่าการลงโทษที่จะตามมานั้น เจ็บแสบยิ่งกว่าหลายเท่านัก การที่ท่านไม่ละอายผู้ใกล้ชิดทั้งขวาและซ้าย(มะลาอิกะฮฺ)โดยที่ท่านประพฤติชั่วนั้น ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการประพฤติชั่วโดยตรง การที่ท่านหัวเราะเยาะในขณะที่ท่านกำลังประพฤติชั่ว โดยที่ท่านไม่ทราบว่า อัลเลาะห์จะจัดการลงโทษท่านอย่างไรนั้นนับว่าร้ายแรงกว่าการประพฤติชั่วโดยตรงเสียอีก การที่ท่านดีใจว่า สามารถประพฤติชั่วได้สำเร็จนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าการทำบาป การที่ท่านเสียใจเพราะหมดโอกาสทำสิ่งผิด บาปนั้นร้ายแรงกว่าการทำบาป การที่ท่านกลัวว่าลมจะพัดม่านกั้นในขณะที่ท่านกำลังกระทำความผิด ทั้งๆที่หัวใจไม่ได้คำนึงว่า อัลเลาะห์กำลังมองดูการกระทำของท่านอยู่นั้นย่อมร้ายแรงกว่าการทำบาปเสียอีก

          โอ้ผู้ที่ชอบประพฤติปฎิบัติความผิดบาปทั้งหลาย ท่านทราบไหมว่า เท่าที่อัลเลาะห์ต้องลงโทษร่างกายและทรัพย์สมบัติของท่านนบีอัยยูบนั้น เป็นเพราะความผิดบาปสถานใด?เพราะมีผู้ยากจนท่านหนึ่งมาขอความช่วยเหลือให้ป้องกันจากการคุกคามของผู้ทุจริตอธรรมแต่ท่านกลับไม่ช่วย…

          ท่านพี่น้องที่เคารพ ท่านอิบนิ อับบ๊าสนั้น ไม่ใช่ได้แต่พูด โดยไม่ปฎิบัติ หรือห้ามผู้อื่นมิให้ประพฤติผิดแต่ไม่ห้ามตนเองก็หาไม่ แต่ท่านอิบนิ อับบ๊าส เป็นผู้ถือศีลอดในยามกลางวัน และลุกขึ้นปฎิบัติละหมาดในยามค่ำคืน ท่านอับดุลลอฮ์ บิน มุลัยกะห์ กล่าวว่า :

         ฉันเป็นเพื่อนสนิทของท่านอิบนิ อับบ๊าส ขณะอยู่มักกะห์และมะดีนะห์ พวกเรานั้นเมื่อพักอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม หลังจากเที่ยงคืนแล้วต้องตื่นขึ้นละหมาดในยามที่ผู้คนหลับสนิทอันเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อยกับการงานตลอดทั้งวัน คืนหนึ่งฉันเห็นท่านอิบนิ อับบ๊าส อ่านกุรอานมีความว่า :

         เมื่อวิกฤติการณ์แห่งความตายมาถึง สัจธรรมก็ปรากฏชัดเจน(เขาเชื่อเรื่องราวที่ท่านรอซูลนำมาบอกเช่น การฟื้นคืนชีพ การตอบแทนความดีความชั่ว ความตาย) นั่นแหละคือสิ่งที่ท่านหนีมัน
(ก็อฟ อายะฮฺที่19)

          ท่านอ่านอายะห์ดังกล่าวซ้ำๆหลายครั้งหลายหน และร้องไห้สะอึกสะอื้น จนกระทั้งแสงอรุณขึ้น ตัวอย่างดังกล่าวนี้เกินพอแล้ว ที่จะทำให้เราทราบได้ว่า ท่านอิบนิ อับบ๊าส นั้นเป็นคนดี ดึกสงัดยามค่ำคืนท่านร้องไห้จนน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง เพราะความยำเกรงอัลเลาะห์

          ท่านอิบนิ อับบ๊าส ประสบความสำเร็จในด้านวิชาความรู้ ครั้งหนึ่งขณะที่ท่านคอลีฟะห์ มุอาวิยะห์ ออกเดินทางไปทำฮัจญ์ ท่านอิบนิ อับบ๊าสก็ออกเดินทางไปทำฮัจญ์เช่นกัน ท่านมุอาวิยะห์ นั้นมีขบวนทหารและข้าราชการร่วมไปด้วย แต่สำหรับขบวนของท่านอิบนิ อับบ๊าสนั้น มีลูกศิษย์ลูกหามากมายยิ่งกว่าขบวนของท่านคอลีฟะห์เสียอีก

          ตลอดอายุเจ็ดสิบเอ็ดปีของท่านอิบนิ อับบีาสนั้น เปี่ยมล้นไปด้วยวิชาความรู้ ฮิกมะห์ และความยำเกรงพระเจ้า เมื่อท่านสิ้นชีวิต ท่านมุฮัมมัด อิบนุล หะนะฟียะห์ (หรือท่านมุฮัมมัด บิน อาลี บิน อบีตอลิบ) บรรดาศอหะบะห์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และบรรดาตาบิอีนจำนวนมากได้มาร่วมละหมาดให้ และในขณะที่กลบดินบนหลุมฝังศพนั้น ได้ยินเสียงผู้หนึ่งอ่านอายะห์ต่อไปนี้ซึ่งมีความว่า :

          โอ้ชีวิตที่ปกติสุข(แน่นแฟ้นอยู่ในอิมาน) จงกลับคืนไปสู่พระเจ้าของเจ้าในสภาพที่ปลื้มปิติต่อผลตอบแทน ที่พระองค์จะทรงมอบให้ ณ ที่พระองค์เถิด และจงเข้าไปร่วมกับบ่าวของข้า(ที่เป็นคนดี) และจงเข้าสวรรค์ของข้าพร้อมกันเถิด
(อัลฟัจญรฺ 89 : 27-30)

ขออัลเลาะห์ทรงพอพระทัยท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ อับบ๊าส และบรรดาศอหะบะห์ทุกท่านเถิด


Click<<<      ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ อับบ๊าส 1                  

จาก หนังสือประวัติซอฮาบะห์

เผยแพร่โดย สายสัมพันธ์