ปรัชญากลุ่มคอวาริจกับแนวคิดเรื่องผู้นำ
  จำนวนคนเข้าชม  12582

ปรัชญากลุ่มคอวาริจกับแนวคิดเรื่องผู้นำ

 


        เรื่องผู้นำถือเป็นปัญหาใหม่ของอัลคอวาริจ และเป็นสาเหตุแรกที่ทำให้พวกเขาต้องแยกตนออกเป็นอิสระ นับตั้งแต่สมัยคอลีฟะห์อาลี  เรื่อยมาจนถึงสมัยของราชวงศ์อุมัยยะห์ และช่วงต้นของราชวงศ์อับบาซียะห์ พวกเหล่านี้จะยกประเด็นเรื่องการเป็นผู้นำนี้มาเป็นข้ออ้างในการปฏิบัติการณ์โค่นล้มอำนาจที่พวกเขาเห็นว่าไม่ยุติธรรม โดยใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ทั้งการกล่าวหาผู้นำว่าไม่เหมาะสมกับการบริหารบ้านเมือง การปลุกระดมในการกำหนดคุณสมบัติของผู้นำที่ถูกต้อง การตรวจสอบผู้นำและจุดยืนในการต่อต้านผู้นำที่ทุจริตต่อหน้าที่ เป็นต้น

          ประวัติศาสตร์ได้บันทึกโศกนาฎกรรมครั้งสำคัญคือ การฆาตกรรมท่านอาลี ซึ่งเกิดจากความร่วมมืออย่างลับๆ ของพวกคอวาริจ ที่ได้ดำเนินการตามแนวคิดเรื่องผู้นำที่ทุจริต ความเด็ดเดี่ยวและความเฉียบขาดในอันที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้กลุ่มคอวาริจนี้ได้ประชุมกันเพื่อวางแผนการร้าย สังหารบรรดาผู้นำ คือท่านอาลี ท่านมุอาวียะห์ และท่านอัมร์ยบุตรอาศ ซึ่งเป็นผู้ชี้ขาดในกรณีประชุมยุติศึก (ตะฮ์กีม) ให้ตายไปพร้อมๆกัน (อับดุลลอฮ์ อัลกอรี แปลโดยดลมนรรจน์ บากา, 2537:135-136) ตามความคิดเห็นของพวกเขานั้น บุคคลทั้งสามนี้เป็นต้นเหตุให้เกิดความแตกแยกและการเข่นฆ่าในหมู่ประชาชาติมุสลิมด้วยกัน ปฏิบัติการณ์เริ่มต้นพร้อมๆกัน และจบลงที่ท่านคอลีฟะห์อาลีเพียงท่านเดียวเท่านั้น ที่ถูกสังหารในขณะที่ท่านกำลังเดินไปมัสยิด


ความสำคัญของผู้นำ

          ผู้นำถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสังคม ประชาชนจะได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จากการบริหารงานของผู้นำที่ดี มีความรู้ความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆของประชาชนได้ สำหรับฝ่ายคอวาริจแล้ว ทัศนะเรื่องผู้นำสามารถแยกได้ 2 กลุ่มคือ

          1. ส่วนใหญ่ของกลุ่มมีความเห็นว่าจำเป็นจะต้องมีผู้นำ ตราบใดที่สถานการณ์ทางสังคมมีความต้องการ

          2. กลุ่มที่มีความเห็นว่า ตำแหน่งผู้นำไม่มีความจำเป็น หากประชาชนมีความยุติธรรมให้แก่กันและกัน กลุ่มนี้ได้แก่กลุ่มอัลมุฮักกะมะห์ อัลนัจดาดและอับอิบาฎียะห์

          กลุ่มผู้เห็นว่าไม่มีความจำเป็นในเรื่องผู้นำ ได้อ้างเหตุผลไว้ว่าอุดมการณ์ที่ว่า “ไม่มีการตัดสินใดๆ นอกจากเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺเท่านั้น” ถือว่ามีความหมายที่ตรงตัวและชัดเจน ไม่มีประโยชน์อะไรในการจัดตั้งรัฐบาล ข้อชี้ขาดใดๆก็ตามไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์ ดังนั้นความจำเป็นจริงๆ คือการดำเนินตามบทบัญญัติของศาสนา หากมนุษย์ทุกคนทำตามนั้นผู้นำก็ไม่จำเป็นต้องมี และที่สำคัญอัลกุรอานและอัลหะดีษ มิได้ชี้แจงหรือวางกฏเกณฑ์เอาไว้อย่างชัดเจนในกรณีดังกล่าวนี้ด้วย (อะวาญีย์, มปป:113)

          แม้พวกเหล่านี้จะมองไม่เห็นความจำเป็นในการมีผู้นำ แต่ความเป็นจริงแล้วในกลุ่มพวกเขานี้ก็มีผู้นำกลุ่มเช่นเดียวกัน เพราะทุกครั้งที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้นภายในกลุ่ม จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม พวกเขาจะแยกตัวออกไปตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาอีกพร้อมผู้นำคนใหม่ ดังนั้นแนวคิดดังกล่าวจึงเป็นเพียงความคิดลอยๆ ที่ไร้ซึ่งการนำมาปฏิบัติ


เงื่อนไขการเป็นผู้นำ

          อัลคอวาริจได้วางกฏเกณฑ์ไว้อย่างรัดกุมและเข้มงวด แก่ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้นำ โดยประชาชนทั้งหมดจะต้องยินยอมกับผลการเลือกตั้ง หากมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ ถือว่าการเลือกตั้งไม่สมบูรณ์และเป็นโมฆะ การเลือกผู้นำจะไม่พิจารณาว่าจะอยู่ในตระกูลใด เชื้อชาติใด พวกคอวาริจไม่ไห้ความสำคัญกับเงื่อนไขการเป็นชาวกุเรช แม้จะมีรายงานจากท่านศาสดามูฮัมมัด  ก็ตาม

          เงื่อนไขผู้นำตามทัศนะของฝ่ายคอวาริจมีดังนี้

          1. ผู้นำจะต้องยึดมั่นในหลักการอย่างบริสุทธิใจ   ทั้งในด้านอิบาดะห์และอะกีดะห์ ตามความเข้าใจของพวกเขา

          2. ผู้นำจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความตั้งใจจริง มีความคิดริเริ่ม มีความกล้าหาญและกล้าตัดสินใจ

          3. ผู้นำจะต้องไม่บกพร่องในการศรัทธา ไม่หมกมุ่นในความผิดทั้งเล็กและใหญ่ แม้ว่าเขาจะสารภาพผิด(เตาบะห์)ตัวแล้วก็ตาม (อะวาญีย์, มปป:113)


การตรวจสอบผู้นำ

          กลุ่มคอวาริจมีกฏเกณฑ์ในการตรวจสอบผู้นำที่เข้มงวดมาก ซึ่งแตกต่างกับแนวคิดกลุ่มชีอะห์ พวกเขาจะคอยพิจารณาถึงตัวผู้นำว่า จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี มีความยุติธรรมทั้งด้านวาจาและการกระทำ โดยไม่มีข้อบกพร่องแม้จะเล็กน้อยก็ตาม ผู้นำจะต้องตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอว่าควรจะอยู่ต่อไปหรือไม่ และถือเป็นเรื่องแปลกที่ว่าหากผู้นำทำผิดตกเป็นกุโฟร และผู้ตามกลับปล่อยวางไม่เอาผิด ถือว่าผู้ตามก็ตกเป็นกุโฟรด้วย นั่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดฝ่ายคอวาริจจึงได้แตกออกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยมากมาย มีการรบราฆ่าฟันกันในระหว่างกลุ่มอยู่บ่อยครั้ง

         
 

กลุ่มคอวาริจในปัจจุบัน

          อัลคอวาริจในประวัติศาสตร์อิสลามยังมิได้ดับสูญไป อุดมการณ์และแนวปฏิบัติยังคงมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะคอวาริจอิบาฎียะห์ ที่แตกออกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ยังคงหลบซ่อนและจะเผยให้เห็นแนวคิดที่รุนแรงเป็นระยะๆ เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มหนึ่งที่ใช้แนวคิดนี้ได้ถือกำเนิดเปิดตัวขึ้นพร้อมกับนโยบายอันแข็งกร้าว นั่นก็คือ “กลุ่ม ญะมาอะตุ้ลตักฟีรวัลฮิจเราะห์” ซึ่งได้ประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาคือผู้ที่จะนำอิสลามอันแท้จริงมาสู่ประชาชนผู้ศรัทธาทุกคน (อะห์มัด ญะลีย์, 1988:108)

          ป็นที่น่าสังเกตว่าแนวทางของกลุ่มนี้ค่อนข้างจะรุนแรง มีการชักจูงคนหนุ่มสาวให้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ผลักดันให้คนเหล่านั้นมายอมรับหลักการคือ การชูประเด็นการบริหารที่ล้มเหลวของผู้นำโลกอิสลาม ที่ละเมิดบทบัญญัติของศาสนา ยึดเอากฏหมายของมนุษย์ผู้ที่จ้องทำลายล้างอิสลามมาใช้ และกล่าวหาบรรดาผู้รักอัลลอฮฺอย่างแท้จริงว่าเป็นพวกก่อกวน มีการตัดสินลงโทษในรูปแบบต่างๆ เพียงแค่พวกเขาเปล่งเสียงออกมาว่าพระเจ้าของเราคืออัลลอฮฺ และเรียกร้องให้นำแนวทางอันแท้จริงกลับคืนสู่สังคมเท่านั้นเอง

 

 

 

 


กำเนิด อัลคอวาริจ >>>> Click

ที่มา : มิฟตาฮู่ลอุลูมิดดีนียะห์ บ้านดอน