มารยาทในการเยี่ยมผู้ป่วย 2
  จำนวนคนเข้าชม  15084

มารยาทในการเยี่ยมผู้ป่วย

การเยี่ยมผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม

จากอนัส เล่าว่า :

كَانَ غُلاَمٌ يَهُودِىٌّ يَخْدُمُ النَّبِىَّ - صلى الله عليه وسلم - فَمَرِضَ ، فَأَتَاهُ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - يَعُودُهُ، فَقَعَدَ عِنْدَ رَأْسِهِ فَقَالَ لَهُ « أَسْلِمْ » . فَنَظَرَ إِلَى أَبِيهِ وَهْوَ عِنْدَهُ فَقَالَ لَهُ أَطِعْ أَبَا الْقَاسِمِ - صلى الله عليه وسلم - . فَأَسْلَمَ ، فَخَرَجَ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - وَهْوَ يَقُولُ « الْحَمْدُ لِلَّهِ الَّذِى أَنْقَذَهُ مِنَ النَّارِ »
 
ความว่า : มีเด็กชายชาวยิวคนหนึ่งที่รับใช้ท่านนะบี  ได้ป่วยลง ท่านนะบี จึงไปเยี่ยมเขา ซึ่งท่านได้นั่งลงตรงศีรษะของเขาและกล่าวกับเขาว่า “จงรับอิสลามเถิด” เขาเลยจ้องมองบิดาซึ่งอยู่ใกล้ ๆเขา (เพื่อขอความเห็นจากบิดา) แล้วบิดาของเขาก็กล่าวว่า “เจ้าจงเชื่อฟังอบูลกอซิม(หมายถึงท่านนะบี)  เถอะ” เขาจึงเข้ารับอิสลาม แล้วท่านนบี ก็ออกมาพร้อมกับกล่าวว่า “ขอบคุณอัลลอฮฺ ผู้ทรงกู้เขาให้รอดพ้นจากไฟนรก” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 1356)

 

การเป่าตัวผู้ป่วย

มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ  ว่า :

أَنَّ النَّبِىَّ - صلى الله عليه وسلم - كَانَ يَنْفُثُ عَلَى نَفْسِهِ فِى الْمَرَضِ الَّذِى مَاتَ فِيهِ بِالْمُعَوِّذَاتِ ، فَلَمَّا ثَقُلَ كُنْتُ أَنْفِثُ عَلَيْهِ بِهِنَّ، وَأَمْسَحُ بِيَدِ نَفْسِهِ لِبَرَكَتِهَا. 

ความว่า : ท่านนะบี  ได้เป่าตัวของท่านด้วยอัลมุเอามิซาต(อัลมุเอามิซาต คือ สูเราะฮฺอัลฟะลัก และสูเราะฮฺอันนาส ซึ่งเป็นสองสูเราะฮฺสุดท้ายของอัลกุรอาน บางท่านกล่าวว่ารวมสูเราะฮฺ อัลอิคลาศ อีกหนึ่งสูเราะฮฺด้วยซึ่งเป็นความเห็นที่อิบนุ หะญัรรับรอง - ดู ฟัตหุลบารีย์) ในการป่วยครั้งที่ท่านเสียชีวิตลงซึ่งเมื่ออาการป่วยของท่านหนักขึ้นฉันจึงใช้มันเป่าลงบนตัวท่านและฉันใช้มือท่านลูบตัวท่านเอง เพราะความบะเราะกะฮฺของมือท่าน (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ  บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 5735  และมุสลิม หมายเลข 2192)


การแนะนำผู้ป่วยในสิ่งเป็นประโยชน์

1.มีรายงานจากอุสมาน บินอบิลอาศ อัซซะเกาะฟียฺ ว่า:

أَنَّهُ شَكَا إِلَى رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- وَجَعًا يَجِدُهُ فِى جَسَدِهِ مُنْذُ أَسْلَمَ. فَقَالَ لَهُ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- « ضَعْ يَدَكَ عَلَى الَّذِى تَأَلَّمَ مِنْ جَسَدِكَ وَقُلْ بِاسْمِ اللَّهِ. ثَلاَثًا. وَقُلْ سَبْعَ مَرَّاتٍ أَعُوذُ بِاللَّهِ وَقُدْرَتِهِ مِنْ شَرِّ مَا أَجِدُ وَأُحَاذِرُ ».   

ความว่า : เขาได้ระบายต่อท่านเราะสูลุลลอฮฺ  ถึงความเจ็บปวดที่เกิดในตัวของเขานับตั้งแต่เข้ารับอิสลาม ท่านเราะสูลุลลอฮฺ  จึงบอกกับเขาว่า “ท่านจงเอามือวางลงบนอวัยวะส่วนที่เจ็บปวดของร่างกายและกล่าวว่า “บิสมิลลาฮฺ” สามครั้ง และกล่าวว่า

أَعُوذُ بِاللَّهِ وَقُدْرَتِهِ مِنْ شَرِّ مَا أَجِدُ وَأُحَاذِرُ

(แปลว่า ฉันขอความคุ้มครองด้วยอัลลอฮฺและความสามารถของพระองค์จากพิษภัยที่ฉันพานพบและหวาดกลัว) (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2202)

2.มีรายงานจากอิบนุอับบาส ว่าท่านนบี  ได้กล่าวว่า :

« الشِّفَاءُ فِى ثَلاَثَةٍ شَرْطَةِ مِحْجَمٍ، أَوْ شَرْبَةِ عَسَلٍ ، أَوْ كَيَّةٍ بِنَارٍ ، وَأَنْهَى أُمَّتِى عَنِ الْكَىِّ »

ความว่า : “การบำบัดรักษานั้นมีอยู่สามวิธี คือ การเอาเลือดออก(กรอกเลือด) การดื่มน้ำผึ้ง หรือการประคบด้วยไฟ และฉันขอห้ามประชาชาติของฉันไม่ให้ใช้วิธีประคบไฟ (การที่ท่านนบีบอกถึงวิธีการรักษาด้วยการใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อโรคแต่ท่านห้ามนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าสิ่งดังกล่าวเป็นที่อนุมัติเฉพาะเท่าที่จำเป็น  เช่นการฉายแสงเลเซอร์ที่ใช้ในวงการแพทย์ในสมัยปัจจุบัน ดู ฟัตหุลบารีย์ในคำอธิบายหะดีษนี้ - ผู้แปล) (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ  บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 5681  และมุสลิม หมายเลข 2205)

3.มีรายงานจากอบีฮุร็อยเราะฮฺ ว่าเขาได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ กล่าวว่า :

« إِنَّ فِى الْحَبَّةِ السَّوْدَاءِ شِفَاءً مِنْ كُلِّ دَاءٍ إِلاَّ السَّامَ ». 

ความว่า : “แท้จริงในเมล็ดอัลหับบะตุสเสาดาอ์(เมล็ดยี่หร่าดำ) นั้นมียารักษาสำหรับทุกโรคยกเว้นความตาย” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ  บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 5688  และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 2215)

4.จากอุมมุรอฟิอฺ คนรับใช้ของท่านเราะสูลุลลอฮฺ  เล่าว่า :

كَانَ لاَ يُصِيبُ النَّبِىَّ -صلى الله عليه وسلم- قَرْحَةٌ وَلاَ شَوْكَةٌ إِلاَّ وَضَعَ عَلَيْهِ الْحِنَّاءَ.

ความว่า : “ท่านนะบี  นั้น ทุกครั้งที่ได้รับบาดแผลหรือโดนหนามตำท่านจะทาด้วยอัลหินนาอ์(อัลหินนาอ์ (al-Henna) คือ พืชที่ใช้ย้อมผมหรือเล็บให้เป็นสีแดง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีโดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิง – ผู้แปล)  (หะสัน  บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ หมายเลข 2054  เศาะฮีหสุนันอัตติรมิซีย์ หมายเลข 1676 และบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺตามสำนวนนี้ หมายเลข 3502  เศาะฮีหฺสุนันอิบนิมาญะฮฺ หมายเลข 2821)


คำที่ควรกล่าวกับผู้ป่วยหรือผู้ตาย 

1.มีรายงานจากอุมมุสะละมะฮฺ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ  ได้กล่าวว่า:

« إِذَا حَضَرْتُمُ الْمَرِيضَ أَوِ الْمَيِّتَ فَقُولُوا خَيْرًا فَإِنَّ الْمَلاَئِكَةَ يُؤَمِّنُونَ عَلَى مَا تَقُولُونَ ». قَالَتْ فَلَمَّا مَاتَ أَبُو سَلَمَةَ أَتَيْتُ النَّبِىَّ -صلى الله عليه وسلم- فَقُلْتُ يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنَّ أَبَا سَلَمَةَ قَدْ مَاتَ قَالَ « قُولِى اللَّهُمَّ اغْفِرْ لِى وَلَهُ وَأَعْقِبْنِى مِنْهُ عُقْبَى حَسَنَةً ». قَالَتْ فَقُلْتُ فَأَعْقَبَنِى اللَّهُ مَنْ هُوَ خَيْرٌ لِى مِنْهُ مُحَمَّدًا -صلى الله عليه وسلم-. 
 
ความว่า : “เมื่อพวกท่านไปเยี่ยมผู้ป่วยหรือคนตายก็จงกล่าวแต่สิ่งดี ๆ เพราะมะลาอิกะฮฺจะกล่าว”อามีน” ต่อสิ่งที่พวกท่านได้กล่าวไว้” (อามีน แปลว่า โอ้พระองค์อัลลอฮฺ ขอโปรดทรงตอบรับ ซึ่งการกล่าวอามีนของมะลาอิกะฮฺต่อคำพูดหรือคำขอใด ๆ จะทำให้คำขอนั้น ๆ ถูกตอบรับโดยง่าย) นางเล่าต่อว่า ครั้น เมื่ออบูสะละมะฮฺ (สามีของนาง) เสียชีวิตลงฉันก็ได้ไปหาท่านเราะสูลุลลอฮฺ และพูดว่า “โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ อบูสะละมะฮฺได้สิ้นชีวิตแล้ว ท่านเลยกล่าวว่า เธอจงกล่าวซิว่า

اللَّهُمَّ اغْفِرْ لِى وَلَهُ وَأَعْقِبْنِى مِنْهُ عُقْبَى حَسَنَةً

(แปลว่า โอ้พระองค์อัลลอฮฺ ขอโปรดทรงประทานอภัยให้แก่ฉันและเขา และให้ฉันมีปลายทางที่ดีหลังจากเขา) นางเล่าว่า “แล้วอัลลอฮฺก็ทดแทนคนที่ดีกว่าเขาให้แก่ฉันนั้น นั่นคือมุหัมมัด  " (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 919)
 
2.จากอุมมุสะละมะฮฺ เล่าว่า :

دَخَلَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- عَلَى أَبِى سَلَمَةَ وَقَدْ شَقَّ بَصَرُهُ فَأَغْمَضَهُ ثُمَّ قَالَ «إِنَّ الرُّوحَ إِذَا قُبِضَ تَبِعَهُ الْبَصَرُ ». فَضَجَّ نَاسٌ مِنْ أَهْلِهِ فَقَالَ «لاَ تَدْعُوا عَلَى أَنْفُسِكُمْ إِلاَّ بِخَيْرٍ فَإِنَّ الْمَلاَئِكَةَ يُؤَمِّنُونَ عَلَى مَا تَقُولُونَ ». ثُمَّ قَالَ «اللَّهُمَّ اغْفِرْ لأَبِى سَلَمَةَ وَارْفَعْ دَرَجَتَهُ فِى الْمَهْدِيِّينَ وَاخْلُفْهُ فِى عَقِبِهِ فِى الْغَابِرِينَ وَاغْفِرْ لَنَا وَلَهُ يَا رَبَّ الْعَالَمِينَ وَافْسَحْ لَهُ فِى قَبْرِهِ. وَنَوِّرْ لَهُ فِيهِ».
   
ความว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ  ได้เข้าหาอบีสะละมะฮฺในสภาพที่ดวงตาของเขาได้เบิกค้าง ท่านจึงลูบมันให้ปิดลงแล้วกล่าวว่า “ดวงวิญญาณนั้น เมื่อมันถูกจับ (สิ้นชีวิต) ดวงตาก็จะมองตาม” แล้วคนในครอบครัวของเขาคนหนึ่งก็ตะโกนครวญคราง ท่านเลยกล่าวว่า “จงอย่ากล่าวขอสิ่งใดให้เกิดกับตัวพวกท่านนอกจากสิ่งดี ๆ เพราะเหล่ามะลาอิกะฮฺจะกล่าว ”อามีน” ต่อสิ่งที่พวกท่านกล่าว” หลังจากนั้นท่านก็ได้ขอดุอาว่า

اللَّهُمَّ اغْفِرْ  لأَبِى سَلَمَةَ  وَارْفَعْ دَرَجَتَهُ فِى الْمَهْدِيِّينَ، وَاخْلُفْهُ فِى عَقِبِهِ فِى الْغَابِرِينَ، وَاغْفِرْ لَنَا وَلَهُ يَا رَبَّ الْعَالَمِينَ، وَافْسَحْ لَهُ فِى قَبْرِهِ، وَنَوِّرْ لَهُ فِيهِ

(แปลว่า โอ้พระองค์อัลลอฮฺ !ขอโปรดทรงประทานอภัยให้แก่อบีสะละมะฮฺ (เมื่อเราต้องการจะขอดุอาให้แก่ผู้ตายคนใดก็ให้เปลี่ยนชื่อจากอบีสะละมะฮฺให้เป็นชื่อคนตายที่เราต้องการ- ผู้แปล) โปรดทรงเลื่อนตำแหน่งของเขาให้อยู่ในกลุ่มผู้ได้รับทางนำ โปรดทรงสืบทอดทายาทของเขาให้อยู่ในหมู่คนที่หลงเหลือ โปรดทรงประทานอภัยแก่พวกเราและแก่เขาเถิดโอ้พระเจ้าแห่งสากลโลก และโปรดทรงขยายหลุมศพให้กว้างขวางและทำมันให้สว่างไสวสำหรับเขา) (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 920)


การจุมพิตคนตาย

มีรายงานจากอิบนุอับบาสและท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า:

أَنَّ أَبَا بَكْرٍ - رضى الله عنه - قَبَّلَ النَّبِىَّ - صلى الله عليه وسلم - وَهْوَ مَيِّتٌ .  
 
ความว่า : อบูบักรฺได้จุมพิตท่านนะบี ขณะที่ท่านได้เสียชีวิตลงแล้ว (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 5709)


การปัดเป่าผู้ป่วย

1.มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า:

أَنَّ النَّبِىَّ - صلى الله عليه وسلم - كَانَ يُعَوِّذُ بَعْضَ أَهْلِهِ، يَمْسَحُ بِيَدِهِ الْيُمْنَى وَيَقُولُ «اللَّهُمَّ رَبَّ النَّاسِ أَذْهِبِ الْبَأْسَ، وَاشْفِهِ وَأَنْتَ الشَّافِى، لاَ شِفَاءَ إِلاَّ شِفَاؤُكَ، شِفَاءً لاَ يُغَادِرُ سَقَمًا» . 

ความว่า : ท่านนะบี  ได้ปัดเป่าคนในครอบครัวบางคนโดยท่านจะเอามือขวาลูบพร้อมกล่าวว่า

اللَّهُمَّ رَبَّ النَّاسِ أَذْهِبِ الْبَأْسَ، وَاشْفِهِ وَأَنْتَ الشَّافِى، لاَ شِفَاءَ إِلاَّ شِفَاؤُكَ، شِفَاءً لاَ يُغَادِرُ سَقَمًا

(แปลว่า โอ้พระองค์อัลลอฮฺ ! โอ้พระเจ้าของมนุษย์ ! ขอโปรดทรงให้ป่วยหายไปและโปรดทรงรักษาเขาด้วยเถิดเพราะพระองค์คือผู้รักษา ไม่มีการหายป่วยนอกจากด้วยการรักษาของพระองค์ เป็นการหายป่วยที่ไม่ทิ้งโรคข้างเคียงใด ๆ ตามมา (หรือเมื่อเป็นโรคอีกอัลลอฮฺก็จะทรงให้หายอีก)) (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ  บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 5743  และมุสลิม หมายเลข 2191)

2.จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เล่าว่า :

كَانَ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - يَقُولُ فِى الرُّقْيَةِ « بسم اللهِ، تُرْبَةُ أَرْضِنَا، وَرِيقَةُ بَعْضِنَا، يُشْفَى سَقِيمُنَا، بِإِذْنِ رَبِّنَا»  
 
ความว่า : ท่านนะบี  ได้กล่าวในตอนปัดเป่าว่า

بسم اللهِ تُرْبَةُ أَرْضِنَا، وَرِيقَةُ بَعْضِنَا، يُشْفَى سَقِيمُنَا، بِإِذْنِ رَبِّنَا

(แปลว่า ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ นี่คือผงดินของแผ่นดินเราและน้ำลายของบางคนของเรา ทำให้การเจ็บปวดได้หายไป ด้วยการอนุมัติจากพระผู้อภิบาลของเรา)


วิธีทำ : ให้เอานิ้วชี้จิ้มน้ำลายของตัวเองแล้ววางลงบนดิน จากนั้นนำผงดินที่ติดมากับนิ้วมาทาบาดแผลหรืออวัยวะส่วนที่เจ็บ โดยกล่าวดุอานี้ในขณะที่ทา (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ  บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 5746  และมุสลิม หมายเลข 2194)

3.มีรายงานจากอบีสะอีด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่า :

أَنَّ جِبْرِيلَ أَتَى النَّبِىَّ -صلى الله عليه وسلم- فَقَالَ يَا مُحَمَّدُ اشْتَكَيْتَ فَقَالَ « نَعَمْ ». قَالَ بِاسْمِ اللَّهِ أَرْقِيكَ مِنْ كُلِّ شَىْءٍ يُؤْذِيكَ مِنْ شَرِّ كُلِّ نَفْسٍ أَوْ عَيْنِ حَاسِدٍ، اللَّهُ يَشْفِيكَ بِاسْمِ اللَّهِ أَرْقِيكَ.
  
ความว่า : มะลาอิกะฮฺญิบรีลได้ไปหาท่านนะบี แล้วกล่าวว่า “โอ้มุหัมมัด ท่านเจ็บหรือ ?” ท่านตอบว่า “ใช่” เขาจึงกล่าวว่า

ِاسْمِ اللَّهِ أَرْقِيكَ مِنْ كُلِّ شَىْءٍ يُؤْذِيكَ مِنْ شَرِّ كُلِّ نَفْسٍ أَوْ عَيْنِ حَاسِدٍ، اللَّهُ يَشْفِيكَ بِاسْمِ اللَّهِ أَرْقِيكَ

(แปลว่า ด้วยพระนามของอัลลอฮฺฉันขอปัดเป่าท่าน จากทุกสิ่งที่รังควาญท่าน จากความชั่วร้ายของทุกชีวิตหรือดวงตาผู้อิจฉา อัลลอฮฺจะบำบัดรักษาท่าน ด้วยพระนามของอัลลอฮฺฉันขอปัดเป่าท่าน) (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2186)

ข้อควรปฏิบัติสำหรับมุสลิมเมื่อเกิดโรคห่า

มีรายงานจากอุสามะฮฺ บินซัยดฺว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า :

« الطَّاعُونُ رِجْسٌ أُرْسِلَ عَلَى طَائِفَةٍ مِنْ بَنِى إِسْرَائِيلَ أَوْ عَلَى مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ ، فَإِذَا سَمِعْتُمْ بِهِ بِأَرْضٍ فَلاَ تَقْدَمُوا عَلَيْهِ ، وَإِذَا وَقَعَ بِأَرْضٍ وَأَنْتُمْ بِهَا فَلاَ تَخْرُجُوا فِرَارًا مِنْهُ »

ความว่า : “โรคห่านั้น คือ สิ่งสกปรกที่ถูกส่งมายังชาวอิสรออีลกลุ่มหนึ่งหรือแก่คนก่อนหน้าพวกท่าน ดังนั้นเมื่อพวกท่านได้ยินข่าวคราวการเกิดขึ้นของมัน ณ แผ่นดินใดก็จงอย่าเข้าไปที่นั่น และเมื่อมันเกิด ณ แผ่นดินที่พวกท่านพำนักอยู่ก็จงอย่าเดินทางออกจากที่นั่นเพื่อที่จะหลีกหนีให้พ้นจากมัน”  (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ  บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3473  และมุสลิม หมายเลข 2218)

มารยาทในการเยี่ยมคนไข้ ตอน 1 >>>>Click

มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ อัต-ตุวัยญิรีย์

محمد بن إبراهيم بن عبدالله التويجري

.

المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي

المكتب التعاوني للدعوة وتوعية الجاليات بالربوة بمدينة الرياض