การสืบตำแหน่งผู้ปกครอง
  จำนวนคนเข้าชม  7312

การสืบตำแหน่งผู้ปกครอง

มุหัมมัด อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์

 


บทบัญญัติว่าด้วยการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ปกครอง (อัลคิลาฟะฮฺ)

 

          การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแก่บรรดามวลมุสลิมนับเป็นความจำเป็น  เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของศาสนาอิสลาม  บริหารจัดการกิจการของมุสลิม  ดำรงบทลงโทษ  รักษาสิทธิต่างๆ  ปกครองด้วยกับสิ่งที่อัลลอฮฺประทานลงมา  สั่งใช้เรื่องของความดีงาม  ห้ามปรามเรื่องของความชั่วช้า  และเรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ  อัลลอฮฺตรัสความว่า 

         “โอ้ดาวุดเอ๋ย  เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้ ดังนั้นเจ้าจงตัดสินคดีต่าง ๆ ระหว่างมนุษย์ด้วยความยุติธรรมและอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ  มันจะทำให้เจ้าหลงไหลจากทางของอัลลอฮฺ   แท้จริงบรรดาผู้ที่หลงไปจากทางของอัลลอฮฺนั้น  สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาหัสเนื่องด้วยพวกเขาลืมวันแห่งการชำระบัญชี”

(ศอด : 26)


รูปแบบในการสรรหาผู้นำ

 

รูปแบบการสรรหาผู้นำให้ยึดปฏิบัติเอาประการหนึ่งประการใด  ดังต่อไปนี้

     1. โดยประชามติจากบรรดามวลมุสลิม การแต่งตั้งให้เป็นผู้นำจะเสร็จสมบูรณ์ด้วยการทำสัตยาบันของบรรดาผู้มีบทบาทสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการผู้มีความรู้ บรรดาผู้มีคุณธรรม บรรดาผู้ที่เป็นที่ยอมรับมีตำแหน่งสูง และบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ  

     2. ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำโดยมีการระบุ (เป็นลายลักษณ์อักษร) จากผู้นำที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ก่อนจากเขา

     3. โดยการปรึกษาหารือ (ระบบชูรอ) ของบรรดาแกนนำผู้มีความยำเกรงที่ถูกกำหนดขึ้นเป็นจำนวนเฉพาะ   แล้วจึงมีมติให้คนหนึ่งคนใดจากพวกเขาเป็นผู้นำ

     4. เข้าปกครองประชาชนโดยวิธีการใช้กำลังจนกระทั่งพวกเขายอมจำนน และยอมรับเขาว่าเป็นผู้นำ   ดังนั้นนับว่าเป็นความจำเป็นที่ผู้อยู่ภายใต้การดูแลของเขาจะต้องเชื่อฟังปฏิบัติตามในสิ่งที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ

          การเป็นตัวแทนของอัลลอฮฺในผืนดิน (อัลคิลาฟะฮฺ) จะเกิดขึ้นด้วยกับการศรัทธาและการประกอบคุณงามความดี อัลลอฮฺตรัสความว่า

         “อัลลอฮฺทรงสัญญากับบรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้กระทำความดีทั้งหลายว่า  แน่นอนพระองค์จะทรงให้พวกเขาเป็นตัวแทนสืบช่วงในแผ่นดิน เสมือนดังที่พระองค์ทรงให้บรรดาชนก่อนพวกเขาเป็นตัวแทนสืบช่วงมาก่อนแล้ว  และพระองค์จะทรงทำให้ศาสนาของพวกเขาซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานเป็นที่มั่นคงเป็นเกียรติแก่พวกเขา

         และแน่นอนพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาได้รับความปลอดภัยหลังจากความกลัวของพวกเขา โดยที่พวกเขาจะต้องเคารพภักดีข้าไม่ตั้งภาคีอื่นใดต่อข้า  และผู้ใดปฏิเสธศรัทธาหลังจากนั้น  ชนเหล่านั้นพวกเขาคือผู้ฝ่าฝืน” 

(อันนูร : 55)

 
ตำแหน่งตัวแทนของอัลลอฮฺ (อัลคิลาฟะฮฺ) เป็นของชาวกุเรชและมวลมนุษยชาติจะเป็นผู้ปฏิบัติตามชาวกุเรช

 

1. จากมุอาวียะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า  ฉันได้ยินท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม  กล่าวว่า 

“แท้จริงในกิจการนี้ (อัลคิลาฟะฮฺ) เป็นของชาวกุเรช 

ไม่มีผู้ใดเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขานอกจากอัลลอฮฺจะให้ใบหน้าของเขาคว่ำลงในนรก  ตราบใดที่พวกเขายังคงดำรงอยู่ในศาสนา” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7139)

 

2. จากอิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมกล่าวว่า

 “กิจการนี้ (คิลาฟะฮฺ) ยังคงเป็นของชาวกุเรช  ตราบใดที่พวกเขายังคงเหลืออยู่ถึงแม้สองคนก็ตาม” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 3501 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ  1820)

 

3. จากอบูฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า  ท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า 

“มนุษยชาติจะปฏิบัติตามพวกกุเรชในกิจการด้านนี้ (คิลาฟะฮฺ) บรรดาผู้ที่ศรัทธาจะปฏิบัติตามผู้ศรัทธาของพวกเขา 

และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธจะปฏิบัติตามผู้ปฏิเสธของพวกเขา” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 3495 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ  1818)


ห้ามการร้องขอหรือแสวงหาตำแหน่งผู้นำ

 

1. จากอับดุรเราะฮฺมาน บิน สะมุเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ  วะสัลลัม กล่าวกับฉันว่า

“โอ้อับดุรเราะฮฺมาน บิน สะมุเราะฮฺท่านอย่าได้ร้องขอตำแหน่งผู้นำ 

หากท่านได้รับตำแหน่งโดยการร้องขอท่านก็จะถูกกิน (โดยไม่มีใครสนใจ) 

แต่หากท่านได้รับตำแหน่งโดยไม่ได้ร้องขอท่านก็จะได้รับการช่วยเหลือ...” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7147 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ  1652)

 

2. จากอบีฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า  จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

 “แท้จริงพวกท่านมีความพยายามที่จะแสวงหาตำแหน่งผู้นำกัน  และตำแหน่งนั้นมันจะทำให้เสียใจในวันกิยามะฮฺ 

ดังนั้นความดีงามจะเป็นของผู้ที่ให้นม  และความเลวร้ายจะได้กับผู้ที่หย่านม” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7148)

 

3. จากอบีมูสา เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า 

"ฉันได้เข้าไปหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม พร้อมกับชายที่มาจากเผ่าของฉันอีกสองคน 

คนหนึ่งกล่าวว่า  โอ้ท่านรอสูลุลลอฮฺจงแต่งตั้งเราให้เป็นผู้นำ  ส่วนอีกคนก็กล่าวเหมือนกับคนแรก 

ท่านรอสูลตอบว่า  แท้จริงในกิจการนี้เราจะไม่แต่งตั้งแก่ผู้ที่ร้องขอและผู้ที่พยายามแสวงหามัน” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7149 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ  1733)


ให้พยายามออกห่างจากการเป็นผู้นำโดยเฉพาะผู้ที่มีความอ่อนแอในการจะปฏิบัติตามหน้าที่

 

จากอบีซัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า 

ฉันกล่าวว่า "โอ้ท่านรอสูลุลลอฮฺท่านไม่ให้ฉันเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือ?"   

ดังนั้นท่านรอสูลได้เอามือมาวางไว้ที่บนไหล่ของฉัน  แล้วกล่าวว่า

" โอ้อบูซัร  แท้จริงท่านเป็นคนอ่อนแอ  ตำแหน่งผู้นำเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก  และในวันกิยามะฮฺจะขาดทุนและเสียใจ 

นอกจากผู้ที่รับมันมาด้วยกับสิทธิหน้าที่และได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่อันนั้น” 

(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ  1825)


ความประเสริฐของผู้นำที่มีความยุติธรรมและโทษทัณฑ์ของผู้นำที่อธรรม

1. อัลลอฮฺตรัสความว่า

“และพวกเจ้าจงให้ความเที่ยงธรรม (แก่ทั้งสองฝ่าย) เถิด แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักใคร่บรรดาผู้ให้ความเที่ยงธรรม” 

(อัลฮุญุรอต : 9)

 

2. จากอบีฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ  จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

"มีบุคคล 7 ประเภทที่จะได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของอัลลอฮฺตะอาลาในวันที่ไม่มีร่มเงาอันใด  นอกจากร่มเงาของพระองค์ 

หนึ่ง..ผู้นำที่มีความยุติธรรม  สอง..คนหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาโดยการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ...” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 1423 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1031)

 

3. จากอับดุลลอฮฺ บิน อัมรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา กล่าวว่า  ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า

          “แท้จริงบรรดาผู้ที่ให้ความยุติธรรม ณ ที่อัลลอฮฺเขาจะได้อยู่บนมิมบัรแห่งรัศมีซึ่งอยู่ทางด้านขวาของอัรเราะฮฺมาน (ผู้ทรงปราณี) อัซซาวะญัลลา  ในขณะที่มือทั้งสองของพระองค์ทรงมีความดีงาม ความศิริมงคล  พวกเขาคือบรรดาผู้ซึ่งให้ความยุติธรรมในการปกครอง  และผู้อยู่ภายใต้การรับผิดชอบดูแลของพวกเขา  และสิ่งที่พวกเขาได้ปกครอง” 

(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 1827)

 

4. จากมะอฺก็อล บิน ยะสาร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า  ฉันได้ยินท่านรอสูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า 

           “ไม่มีบ่าวคนใดที่อัลลอฮฺได้ให้เขาปกครองผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขากลุ่มหนึ่ง และได้เสียชีวิตในสภาพที่เขาคดโคงต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ยกเว้นอัลลอฮฺจะหักห้ามเขาจากการเข้าสวนสวรรค์” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7150 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ  142)

 


ตำแหน่งตัวแทนหรือตำแหน่งผู้นำต้องเป็นผู้ชายต้องไม่ใช่ผู้หญิง


         จากอบูบักเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ  กล่าวว่า  อัลลอฮฺได้ทำให้ฉันได้รับประโยชน์ด้วยกับคำคำหนึ่งในช่วงสมรภูมิอัลญะมัล  เมื่อมีข่าวไปถึงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมว่า  แท้จริงพวกเปอร์เซียได้มอบให้บุตรสาวของไกเซอร์ (กิสรอ) ขึ้นเป็นกษัตริย์  ท่านจึงกล่าวว่า

 “กลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใดจะไม่ได้รับความสำเร็จเป็นอันขาด 

การที่พวกเขาแต่งตั้งให้ผู้หญิงเป็นผู้ปกครองดูแลกิจการของพวกเขา” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7099 )

 

 


แปลโดย : ยูซุฟ อบู บักรฺ / 
Islam House