การตอบสลามให้แก่คนต่างศาสนิก
  จำนวนคนเข้าชม  18892

 

การตอบสลามให้แก่คนต่างศาสนิก

 

เรียบเรียงโดย  อบูชีส


 

คำถาม

 

เมื่อต่างศาสนิกให้สลามแก่มุสลิม ดังนั้นเราจะตอบสลามแก่เขาได้ใหม? และถ้าเขายื่นมือมาจับมีข้อตัดสินว่าอย่างไร ? 


 

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ การตอบสลามให้แก่กาฟิร(คนต่างศาสนิก)นั้นมี สามรูปแบบ
 

         เชค มุฮัมหมัด อิบนุ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ตอบคำถามดังกล่าวว่า : เมื่อกาฟิรให้สลามแก่มุสลิม ด้วยการสลามที่ชัดเจน ครบถ้วน โดยที่เขากล่าวว่า "อัสลามุอะลัยกุม" ดังนั้นให้ท่านตอบว่า "อะลัยกัสสลาม"


 โดยมีหลักฐานจากพระดำรัสของอัลลอฮ์ว่า


( وإذا حييتم بتحية فحيوا بأحسن منها أو ردوها ) النساء / 86


"และเมื่อพวกเจ้าได้รับคำอวยพรจะด้วยคำอวยพรใด ๆ ก็ตาม ก็จงกล่าวคำอวยพรตอบที่ดีกว่านั้น

หรือไม่ก็กล่าวคำอวยพรนั้นตอบกลับไป แท้จริงอัลลอฮฺทรงคำนวณนับในทุกสิ่งทุกอย่าง"


แต่ถ้าการสลามนั้นไม่ชัดเจน ก็ให้ท่านตอบว่า "วะอะลัยก้า"
 

       เช่นเดียวกัน ถ้าเขาให้สลามท่านชัดเจนด้วยกับถ้อยคำที่ว่า "อัซซามุอะลัยกุม" (ขอความตายประสบแด่ท่าน) ก็ให้ตอบเขาไปว่า "วะอะลัยก้า"



การตอบสลามทั้งสามประเภท

 

ประเภทที่หนึ่ง : การที่เขากล่าวสลามอย่างชัดเจน ว่า "อัซซามอุอะลัยกุม" ให้ตอบว่า "วะอะลัยก้า"

 

ประเภทที่สอง : การที่เราสงสัยว่า เขาพูดว่า "อัซซาม" หรือ "อัสลาม" ก็ให้ตอบว่า "วะอะลัยก้า"

 

ประเภทที่สาม : การที่เขากล่าวสลามด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน ว่า "อัสลามุอะลัยกุม" ก็ให้ตอบว่า "วะอะลัยกัสลาม" 

 

จากอายะกุรอานที่ว่า

 

"และเมื่อพวกเจ้าได้รับคำอวยพรจะด้วยคำอวยพรใด ๆ ก็ตาม ก็จงกล่าวคำอวยพรตอบที่ดีกว่านั้น

หรือไม่ก็กล่าวคำอวยพรนั้นตอบกลับไป แท้จริงอัลลอฮฺทรงคำนวณนับในทุกสิ่งทุกอย่าง"

 

ท่านอิบนุก็อยยิม ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า เมื่อผู้ได้ยิน ได้ยินชัดว่าคนต่างศาสนิกให้สลามแก่เขาโดยกล่าวว่า "อัสลามุอะลัยกุม"

และไม่สงสัยในคำให้สลาม เขาสมควรจะกล่าวตอบว่า "วะอะลัยกัสลาม" หรือ จำกัดแค่ "วะอะลัยก้า"

        สิ่งที่บ่งชี้จากหลักฐานต่างๆและกฏเกณฑ์ของบทบัญญัติ ให้เขาตอบไปว่า "วะอะลัยกัสลาม" เพราะมันเป็นเรื่องของความยุติธรรม อัลลอฮ์ทรงสั่งใช้ให้ยุติธรรมและความดีงาม พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า


"และเมื่อพวกเจ้าได้รับคำอวยพรจะด้วยคำอวยพรใด ๆ ก็ตาม ก็จงกล่าวคำอวยพรตอบที่ดีกว่านั้น

หรือไม่ก็กล่าวคำอวยพรนั้นตอบกลับไป แท้จริงอัลลอฮฺทรงคำนวณนับในทุกสิ่งทุกอย่าง"


          เมื่อถูกกระตุ้นให้ทำสิ่งที่ประเสริฐ(ที่ดีกว่า) ก็จึงจำเป็นที่จะต้องยุติธรรม และไม่เป็นการขัดแย้งกับฮะดิษต่างๆในประเด็นนี้เลย เพราะว่าท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แท้ที่จริงการที่ท่านสั่งให้ตอบสลามโดยจำกัดเพียงแค่คำว่า "วะอะลัยก้า" นั้นมีสาเหตุว่า บรรดาพวกปฏิเสธได้ยึดมาเป็นคำทักทายของพวกเขา

 

             ท่านอิบนุก็อยยิม ได้กล่าวอีกว่า และการพิจารณานั้น หากว่าจะพิจารณาคำพูดโดยรวม ก็จะพิจารณาดูภาพรวมเหมือนกับสิ่งที่ถูกกล่าวถึง แต่ไม่เหมือนกับคำที่แตกต่างจากสิ่งที่พูดถึง ดังที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสไว้ว่า


( وإذا جاءوك حيوك بما لم يحيك به الله ويقولون في أنفسهم لولا يعذبنا الله بما نقول ) المجادلة / 8


"และเมื่อพวกเขามาหาเจ้า พวกเขาจะกล่าวทักทายไม่เหมือนกับที่อัลลอฮฺทรงกล่าวทักทายด้วยคำพูดนั้น

และพวกเขากล่าวในหมู่พวกเขาว่า ทำไมอัลลอฮฺจึงไม่ทรงลงโทษเราตามที่เราได้กล่าวทักทาย (มุฮัมมัด)"


         ท่าน อัลกิตาบี กล่าวว่า อัสลามุอะลัยกุม วะเราะห์มะตุลลอฮ์ ความยุติธรรมในการทักทาย(ให้สลาม) ก็คือการตอบสลามแก่เขา เหมือนกับที่ให้เขาให้สลาม (จบคำพูดของท่าน)


وفي صحيح البخاري عن ابن عمر ـ رضي الله عنهما ـ أن النبي صلى الله عليه وسلم ، قال : " إذا سلم عليكم اليهود فإنما يقول أحدهم : السام عليكم ، فقولوا : وعليك " . والسام هو الموت .


     ในซ่อเฮียะห์บุคคอรีย์ จากอิบนุอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า แท้จริง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า 

มื่อชาวยิวได้ให้สลามแก่ท่าน โดยที่คนหนึ่งจากพวกเขากล่าวว่า "อัซซามุอะลัยกุม" 

 

พวกท่านจงกล่าวว่า "วะอะลัยก้า" (อัซซาม คือ ความตาย)

 

และเมื่อเขายื่นมือเพื่อมาจับมือของท่านก็ให้ท่านจับมือเขา หากว่าเขาไม่ยืนมา ท่านก็ไม่ต้องเป็นผู้เริ่มยื่นมือไปก่อน

 


انتهى من مجموع فتاوى ابن عثيمين رحمه الله (36/3