การงานเพียงอย่างเดียวจะพอเพียงกับสวรรค์หรือไม่ ?
  จำนวนคนเข้าชม  1609


การงานเพียงอย่างเดียวจะพอเพียงกับสวรรค์หรือไม่ ?

 

โดย... .ยาซิร กรีมี

 

           สวรรค์ คือ สถานที่พำนักอันทรงเกียรติเป็นสถานที่แห่งความเมตตา อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสกับสวรรค์ว่า

 

เจ้า (สวรรค์) คือ ความเมตตาของข้า และความเมตตาของข้าที่มีต่อเจ้าก็จะประสบกับบ่าวของข้าที่ข้าประสงค์เท่านั้น

 

        ฉะนั้น คนจะไม่ได้เข้าสวรรค์อันเนื่องมาจากการประกอบอามัลเพียงอย่างเดียว แต่คนเรา (มุสลิม มุอฺมิน) นั้น จะได้เข้าสวรรค์ด้วยกับความเมตตา และความกรุณาของอัลลอฮฺควบคู่กันไปด้วย พระองค์ คือ ผู้ทรงชี้แนะสู่งทางนำอันเที่ยงตรง แล้วให้ความสำเร็จต่อท่านในการประกอบอามัลที่ซอและฮฺ

 

     ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้มีความว่าการงานของบุคคลเพียงอย่างเดียว จะไม่พอเพียงกับสวรรค์ของอัลลอฮฺเป็นอันขาด

     และบรรดาซอฮาบะฮฺ กล่าวว่าแม้กระทั่งท่านด้วยหรือครับ โอ้ ท่านร่อซูลุลลอฮฺ?”

     ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่าแม้แต่ฉันก็เช่นกัน ยกเว้นเสียแต่พระองค์จะทรงเมตตา และโปรดปรานต่อฉันอย่างท่วมท้น

(บันทึกโดยอิมาม อัลบุคอรีย์)

 

        ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำอามัลต่างๆ ให้ดีที่สุดให้ถูกต้องที่สุด ดังนั้น จงแจ้งข่าวดีเถิด (สวรรค์) และจงขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ทั้งยามเช้าและยามเย็น และช่วงหนึ่งของกลางคืน จงตั้งความหวังให้มั่นคงและถูกต้อง พึงทราบเถิดว่า การงานที่รักยิ่ง อัลลอฮฺ คือ การงานที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม

 

ฉะนั้น ฮะดิษบทนี้จึงไม่ขัดกับดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในซูเราะฮฺอัล-อะอฺร๊อฟ อายะฮฺที่ 43 ความว่า

 

     “และพวกเจ้าได้ถูกป่าวร้องว่านั่นแหละ คือสวรรค์ โดยที่พวกท่านได้รับมันไว้เป็นมรดก เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าเคยกระทำกันไว้

 

มีฮะดิษมากมายที่กล่าวถึงบุคคลที่จะได้รับสวรรค์ก็ด้วยกับการมีอีมานที่ถูกต้องและการทำอามัลที่ซอและฮฺ

 

     ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้มีความว่าบุคคลที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เสียสละในหนทางของพระองค์ หรือสิ้นชีวิต แผ่นดินที่เขากำเนิด ก็เป็นสิทธิของพระองค์ที่จะให้เขาได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน

     บรรดาซอฮาบะฮฺ ถามว่าแล้วเราจะไม่แจ้งข่าวดีอันนี้กับมนุษย์หรอกหรือ?”

     ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่าแท้จริง สวรรค์นั้นมีร้อยชั้น ซึ่งพระองค์ทรงตระเตรียมไว้สำหรับผู้ที่เสียสละในหนทางของพระองค์ ซึ่งความกว้างระหว่างของแต่ละชั้นนั้น เท่ากับระดับของชั้นฟ้าและแผ่นดิน ดังนั้น พึงทราบเถิด หากพวกท่านจะขอสวรรค์ต่อพระองค์ ก็จงขอที่ระดับของ อัล-ฟิรเดาว์ซฺ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด และจะอยู่ท่ามกล่างของสวรรค์ระดับต่างๆ ที่ชั้นนั้นจะเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำต่างๆ ของสวรรค์ (แม่น้ำนม แม่น้ำเหล้า แม่น้ำน้ำผึ้ง) และทางเบื้องบนจะเป็นอะรัชของพระองค์

(บันทึกโดยอิมาม อัลบุคอรีย์)

 

ในบันทึกของอิมาม อัล-บุคอรีย์และมุสลิม ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลัม กล่าวไว้มีความว่า

 

           “บุคคลใดที่ปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่แท้จริง นอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น และนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นบ่าวและร่อซูลของพระองค์ นบีอีซาเป็นบ่าวของพระองค์ บุตรที่เกิดจากมัรยัม (โดยปราศจากบิดา) โดยวิธีเป่าวิญญาณเข้าไปในครรภ์ของมัรยัม

           ใครที่ศรัทธาอีกว่า สวรรค์นรก มีจริง มิใช่การหลอกลวง (เมื่อเขาศรัทธามั่นในสิ่งที่กล่าวมา) ก็เป็นสิทธิของอัลลอฮฺที่จะให้เขาเข้าสวรรค์ของพระองค์ ตามการงานที่เขาได้กระทำไว้

 

และในบันทึกของอัลบุคอรีย์ 3016 ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้ มีความว่า

 

     “แท้จริงชาวสวรรค์นั้น จะมองเห็นกันและกันเหมือนกับที่เรามองดวงดาวที่ส่องแสง ทางด้าน ขอบฟ้าจากทิศตะวันออก และทิศตะวันตก นั่นคือความแตกต่าง (ประเสริฐ) ของแต่ละคน (ซึ่งขึ้นอยู่กับการประกอบกรรมดีที่ได้ทำไว้ในดุนยา)”

     บรรดาซอฮาบะฮฺ ถามว่าโอ้ ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ที่นั่น คือที่พำนักของบรรดาอัล-อัมบิยาอฺ ซึ่งเป็นสถานที่เฉพาะของพวกเขาเหล่าสั้น ปุถุชนธรรมดาอย่างพวกเราไม่สามารถบรรลุถึง ที่นั่นได้ใช่ไหมครับ?”

     ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉันขอสาบานว่า ผู้ที่ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์อย่างแท้จริง (และยึดมั่น ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ หลีกห่างจากข้อห้ามต่างๆ) เขาผู้นั้นก็มีสิทธิ์ที่จะบรรลุถึงที่ของบรรดาอัมบิยาอฺได้

 

ประชาชาติของนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะมีจำนวนมากที่สุดของชาวสวรรค์

 

         ส่วนหนึ่งจากความเมตตากรุณาของอัลลอฮฺที่มีต่ออุมมะฮฺ มุฮัมมะดียะฮฺ คือ การทำให้ประชาชาติ นบีมุฮัมมัดมีจำนวนมากที่สุดของชาวสวรรค์ และท่านนบีก็จะมีผู้ติดตามมากที่สุดเช่นกันในวันกิยามะฮฺ มีฮะดิษมากมายยืนยันในเรื่องนี้

 

ในบันทึกของบุคอรีย์ และมุสลิม ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้มีความว่า 

 

          “(ในวันกิยามะฮฺ) จะมีประชาชาติของนบีท่านต่างๆ แต่ละประชาชาติก็จะอยู่กับนบีของพวกเขา และฉันก็เห็นกลุ่มคณะประมาณสิบกว่าคนอยู่ร่วมกับนบีของเขา นบีแต่ละท่านก็มีประชาชาติเพียงคน หรือสองคน และนบีบางท่านก็ไม่มีประชาชาติเลย แม้แต่คนเดียว

          และเมื่อฉันมองไปอีกทางหนึ่งก็พบกับกลุ่มชนมหึมา ฉันคิดว่าคงจะเป็นประชาชาติของฉัน ก็มีเสียงกล่าวขึ้นว่านี่คือนบีมูซาและประชาชาติของเขา แต่ว่ามุฮัมมัด เจ้าจงมองไปที่ฟากฟ้าด้านนี้เจ้าก็พบกลุ่มชนมหึมา

        เสียงนั้นกล่าวต่ออีกว่า แล้วเจ้าจงมองไปยังฟากฟ้าอีกด้านหนึ่ง ก็จะพบกลุ่มชนมหึมาเช่นกัน และทั้งหมดนั้นก็คือ ประชาชาติของเจ้า เสียงนั้นก็จะกล่าวต่ออีกว่า จะมี 70,000 จากประชาชาติของเจ้า จะได้เข้าสวรรค์โดยปราศจากการสอบสวนและการลงโทษ

 

ในบันทึกของอิมาม มุสลิม ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า 

 

ฉันเป็นนบีที่มีประชาชาติมากที่สุดในบรรดาประชาชาติของนบีต่างๆ และฉันก็จะเป็นคนแรกที่เปิดประตูสวรรค์

 

และอีกฮะดิษหนึ่ง ท่านกล่าวไว้มีความว่า 

 

          “ฉันเป็นคนแรกที่ได้รับสิทธิในการขอชะฟาอะฮฺ และฉันก็ได้รับความไว้วางใจ มีคนเชื่อฟังมากที่สุด เพราะแท้จริงมันมีบางท่านจะมีผู้ให้ความไว้วางใจและเชื่อฟังเพียงคนหรือสองคนเท่านั้น

 

ในบันทึกของมุสลิม ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า 

 

          “ฉันขอสาบานด้วยชีวิตของฉัน ซึ่งอยู่ภายใต้พระหัตถ์ของพระองค์ ฉันปรารถนาที่จะให้ประชาชาติของฉันมีจำนวนครึ่งหนึ่งของชาวสวรรค์

 

ในบันทึกของมุสลิม ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

 “ชาวสวรรค์นั้นมีจำนวน 120 แถว และ 80 แถวนั้นก็จะเป็นประชาชาติของฉัน

ส่วนอีก 40 แถวนั้น จะเป็นประชาชาติของท่านนบีท่านอื่นๆ

 

 

จากนิตยสารรายเดือน อัต-เตาฮีด ญุมาดัล-อูลา 1427

พิมพ์และเผยแพร่โดย กลุ่มอันซอริสซุนนะฮฺ อัล-มุฮัมมะดียะฮฺ ไคโร อียิปต์

ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร 17 มกราคม 2552