เมียหลวง เมียน้อย
  จำนวนคนเข้าชม  5815


เมียหลวง เมียน้อย

 

ยะห์ยา หัสการณ์บัญชา

 

          การเรียกภรรยาคนแรกว่า เมียหลวง และภรรยาคนที่สองหรือคนหลังจากนั้นว่า เมียน้อย การเรียกดังกล่าวนี้ ถือเป็นการใช้คำพูดที่ขัดกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม

 

          เนื่องจาก ความหมายของคำว่า เมียหลวง และเมียน้อย นั้นมีความหมายตามหลักภาษาที่ขัดกับหลักคำสอนของอิสลาม โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งเป็นฉบับมาตรฐานของภาษาไทย ได้ให้ความหมายของคำว่าเมียหลวงและเมียน้อยไว้ ดังนี้

เมียหลวง : .(คำนาม) เมียที่ยกย่องว่าเป็นใหญ่.

เมียน้อย : . หญิงที่ชายเลี้ยงดูอย่างภรรยา แต่ไม่มีศักดิ์ศรีเท่าเมียหลวง หรือ ไม่ได้จดทะเบียน.

           อ้างอิงจากเว็บไซต์ ราชบัณฑิตยสถาน ว่าด้วยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ..2554 http://www.royin.go.th/dictionary/index.php

 

          จากความหมายของเมียหลวงและเมียน้อยที่ทางพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ..2554 ได้ให้ไว้ เราจะเห็นว่า คำทั้งสองนี้ขัดกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างชัดเจน เพราะ อิสลามสั่งใช้ให้สามีนั้นดูแลและให้ความยุติธรรมแก่บรรดาภรรยาของเขาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ในทุกๆเรื่องที่เขาสามารถจะให้ความยุติธรรมได้ 

 

          ดังนั้น ภรรยาทุกคนไม่ว่าจะคนแรก คนที่สอง หรือสามสี่ จึงล้วนแต่มีศักดิ์ศรีและเกียรติเท่าเทียมกัน โดยไม่สามารถแบ่งแยกหรือลำเอียงว่า ใครใหญ่สุด มีศักดิ์ศรีมากสุด หรือใครต่ำต้อยสุด

ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัมได้กล่าวว่า 

 

     “ผู้ใดก็ตามที่มีภรรยาสองคน แล้วเขาลำเอียงให้แก่ภรรยาคนใดคนหนึ่งมากกว่าอีกคน เขาจะมา(พบอัลลอฮฺใน)วันกิยามะฮฺในสภาพที่สีข้างของเขาเอียง” 

 

     บันทึกโดยอิมามอบูดาวูด และท่านฮาฟิซ อิบนุ หะญัร และชัยคฺอัลอัลบานีย์ได้ตัดสินว่าหะดีษบทนี้เป็นหะดีษที่ศ่อเฮียะหฺถูกต้อง

 

          ชัยคฺอุษัยมีน ได้กล่าวว่าและทัศนะที่ถูกต้องในเรื่องของการให้ความยุติธรรมต่อบรรดาภรรยานั้นก็คือ เขาจะต้องให้ความยุติธรรมต่อบรรดาภรรยาของเขาทุกคนอย่างเท่าเทียมกันในทุกๆเรื่องที่เขาสามารถจะให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญ ค่าเลี้ยงดู แม้แต่กระทั่งการร่วมหลับนอนหากเขามีความสามารถก็จำเป็นจะต้องให้ความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันด้วย” 

(ดูตำราฟัตวา นูร อะลัดดัรบฺ เล่มที่10 หน้าที่252)

 

          ชัยคฺศอลิหฺ อัลเฟาซาน ได้กล่าวว่าจำเป็นสำหรับสามีทุกคนที่มีภรรยาหลายคนจะต้องให้ความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันแก่บรรดาภรรยาของเขา ทั้งในเรื่องค่าเลี้ยงดู ที่พัก เครื่องแต่งกาย และการแบ่งเวรในการอยู่ร่วมกับภรรยาแต่ละคน(อัลกิสมะฮฺ)

     ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จำเป็นที่สามีจะต้องให้ความยุติธรรมต่อบรรดาภรรยาของเขาทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าภรรยาคนนั้นจะร่ำรวยหรือยากจน เพราะการให้ความยุติธรรมต่อภรรยาทุกคนอย่างเท่าเทียมกันนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็น(วาญิบ)” 

(ดูตำรา อัลมุนตะกอ มิน ฟะตาวัลเฟาซาน เล่มที่24 หน้าที่89)

 

          จากทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการเรียกเมียคนที่หนึ่ง(คนแรก)ว่าเมียหลวง และการเรียกเมียคนที่ 2 3 หรือ ว่าเมียน้อย จึงเป็นการใช้คำเรียกที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา ดังที่ได้กล่าวไป ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องนั้นก็คือ เขาจะต้องเรียกบรรดาภรรยาของเขาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน โดยเรียงลำดับการแต่งงาน เช่น ภรรยาคนที่หนึ่ง(คนแรก), ภรรยาหลังจากคนแรกว่า ภรรยาคนที่สอง ภรรยาคนที่สาม ภรรยาคนที่สี่

 

หมายเหตุ

 

          ความยุติธรรมในที่นี้คือ ความยุติธรรมในสิทธิการปรนนิบัติเลี้ยงดูทางการปฏิบัติ ไม่รวมถึงการเอนเอียงในด้านหัวใจ(เช่น รักภรรยาคนใดคนหนึ่งมากกว่าคนอื่นๆ) เพราะอัลลอฮฺทรงผ่อนผันให้ และทรงแจ้งไว้ว่าฝ่ายชาย(สามี)ไม่สามารถจะให้ความยุติธรรมในการรักภรรยาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

 

          ประเด็นหลักๆของบทความนี้ก็คือ มุสลิมไทยห้ามเรียกภรรยาคนแรกว่า เมียหลวง และห้ามเรียกภรรยาคนถัดๆไปว่าเมียน้อย เพราะความหมายของคำว่าเมียหลวงและเมียน้อยนั้นขัดกับคำสอนของศาสนาอิสลามนั่นเอง ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องคือ ต้องเรียกว่า ภรรยาคนที่หนึ่ง(คนแรก) และเรียกภรรยาคนถัดๆไปว่า ภรรยาคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่ ส่วนประเด็นอื่นๆ ให้เป็นดุลพินิจและความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว ไม่ได้สนับสนุนหรือห้ามปราม หรือชี้นำ ชักนำใครเป็นการเฉพาะ

 

 

วัลลอฮฺ อะอฺลัม