แมงมุม ใน อัลกุรอาน
  จำนวนคนเข้าชม  3975


แมงมุม ใน อัลกุรอาน

 

.วิโรจน์ บุญมาเลิศ

 

          มีข้อมูลวิชาการมากมายแฝงอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานที่ท้าทายสติปัญญามนุษย์ให้ศึกษาค้นคว้าเพื่อยืนยันความยิ่งใหญ่ของพระองค์อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ผู้ทรงบังเกิดทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอาหรับบางกลุ่ม ได้พยายามชี้ให้เห็นว่า หลายอายะฮฺในอัลกุรอานมีความผิดพลาดด้านไวยากรณ์ พวกเขาได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นถึงความบกพร่องต่าง ๆ ของอัลกุรอาน โดยอ้างว่าหากอัลกุรอานเป็นดำรัสแห่งพระผู้ทรงสร้างจริง ก็ไม่ควรจะมีสิ่งใดผิดพลาด พวกเขาได้ยกตัวอย่างคำว่า อัลอังกะบูต ที่มีความหมายว่าแมงมุมตามหลักไวยากรณ์อาหรับแล้ว คำนี้เป็นคำนามที่เป็นเพศชาย แต่เหตุใดอัลกุรอานจึงนำสรรพนามเพศหญิงมาใช้ในซูเราะฮฺอัลอังกะบูต อายะฮฺที่ 41 ความว่า

 

อุปมาผู้ที่ยึดเอาอื่นจากอัลลอฮฺ เป็นผู้คุ้มครอง อุปมัยดั่งแมงมุมที่ชักใยทำรัง

 

          อายะฮฺนี้ได้นำสรรพนามที่ใช้สำหรับเพศหญิงมาใช้กับนามที่เป็นเพศชาย ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์ แต่เมื่อพิจารณาด้วยสติปัญญาอย่างละเอียดแล้วพบว่า พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มิได้ประสงค์จะให้เกิดความผิดพลาดแต่อย่างใด แต่จะทรงให้มนุษย์รู้ถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง และยืนยันความยิ่งใหญ่ของพระองค์แก่บรรดาผู้ศรัทธา พร้อมกับให้เห็นความต่ำต้อยของมนุษย์ผู้ปฏิเสธพระองค์

 

          ความจริงได้ปรากฏหลังจากที่นักชีววิทยาพบความมหัศจรรย์ในการดำรงชีพของแมงมุมซึ่งมนุษย์ไม่เคยรู้มาก่อน จากการค้นคว้าทำให้ทราบว่า แมงมุมตัวเมียเท่านั้นที่สามารถสร้างที่อยู่ในรูปแบบของใยที่เชื่อมติดกันเป็นแผงดังปรากฏให้เห็น ส่วนแมงมุมตัวผู้นั้น มีความสามารถเพียงปล่อยใยของมันเป็นเส้นยาวออกมาเพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ประสงค์ แต่ไม่สามารถปล่อยใยเพื่อสร้างรังได้ 

 

          ฉะนั้นการที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงใช้สรรพนามเพศหญิงกับนามที่เป็นเพศชายก็เพื่อให้มนุษย์ทราบว่า แมงมุมเพศเมียเท่านั้นที่สามารถปล่อยใยออกมาเป็นตาข่ายเพื่อเป็นที่อาศัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรเป็นหน้าที่ของแมงมุมตัวผู้ พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จึงทรงนำสรรพนามเพศหญิงมาใช้กับคำนามที่เป็นเพศชายเพื่อเป็นนัยให้รู้ถึงความสำคัญของแมงมุมตัวเมียที่มีมากกว่าตัวผู้ การที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นำสรรพนามเพศหญิงมาใช้กับคำนามที่เป็นเพศชาย จึงไม่เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์แต่อย่างใด

 

          ความมหัศจรรย์อีกประการหนึ่งที่นักชีววิทยาปัจจุบันพบคือ หลังจากที่แมงมุมตัวเมียให้กำเนิดลูกแล้วก็จะฆ่าแมงมุมตัวผู้แล้วโยนซากของมันออกจากรัง ในทำนองเดียวกันเมื่อลูกแมงมุมเติบโตขึ้น พวกมันก็จะรุมกันฆ่าแม่ของพวกมันเองแล้วโยนซากออกนอกรัง เหมือนเช่นที่ตัวเมียเคยทำกับตัวผู้หลังจากที่ให้กำเนิดลูก

 

          อัลกุรอานยังได้นำรังแมงมุมที่อ่อนแอและไม่มีความมั่นคงมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่มนุษย์เคารพภักดีอื่นจากพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทั้งนี้ด้วยลักษณะที่คล้ายกันระหว่างรังแมงมุมที่อ่อนแอ และที่ไม่สามารถปกป้องแมงมุมให้พ้นจากภัยอันตรายได้ กับสิ่งที่มนุษย์ยึดถืออื่นจากพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพื่อขอความคุ้มครอง ก็ไม่สามารถปกป้องมนุษย์ให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้เช่นกัน 

 

          นอกจากนี้พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยังได้นำแมงมุมมาเปรียบกับปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับสังคมมนุษย์ที่มีมากและทับซ้อนจนยากที่จะแก้ไข และไม่อาจแยกออกจากกันได้ว่า แต่ละปัญหาและความวุ่นวายนั้นเกิดจากสาเหตุใดและจากปัจจัยใด สภาพของปัญหาและความวุ่นวายจึงไม่แตกต่างจากใยแมงมุมที่เกี่ยวโยงซับซ้อนกันจนไม่อาจแยกจากกันได้ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ทำให้รังแมงมุมนั้นแข็งแรงได้

 

          ด้วยสาระสำคัญมากมายเกี่ยวกับแมงมุม พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จึงทรงให้ชื่อซูเราะฮฺว่า อัลอังกะบูต ซึ่งแปลว่า แมงมุม ทั้งนี้เพื่อให้มนุษย์ได้ศึกษาและศรัทธาในเดชาสามารถของพระผู้ทรงสร้าง ทุกสรรพสิ่ง ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม และยังซ่อนเร้นไว้ด้วยข้อมูลทางวิชาการที่รอการพิสูจน์จากมนุษย์

 

 

ที่มา : วารสารมุสลิม กทม.