ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์​ 52
  จำนวนคนเข้าชม  405

ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์​ 52

 

วันละหนึ่งความคิด...แปลเรียบเรียง

 

- ท่านอุมัร อิบนิ้ล ค็อฏฏอบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ -

 

 อย่าให้คนที่อ่านอัลกุรอาน ... ทำให้ท่านหลงยกย่องชื่นชม

เพราะแท้จริง อัลกุรอานคือถ้อยคำที่ใช้เอ่ยวาจา

หากแต่จงพิจารณาให้ดีเถิดว่า ...ใครกันที่ยึดถือปฏิบัติตาม

 

 

 

-ท่านมาลิก อิบนิ ดีน้าร ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     ผู้ที่จดจำอัลกุรอานทั้งหลาย อัลกุรอานได้บ่มเพาะสิ่งใดในหัวใจของพวกท่านบ้าง ?

     แท้จริง อัลกุรอานนั้นคือสายธารของผู้ศรัทธา เช่นที่หยาดฝนคือสายธารแห่งผืนแผ่นดิน...

     อัลลอฮฺได้ประทานน้ำฝนลงมาจากฟากฟ้าสู่ผืนดิน ให้มันลงมายังเรือกสวนนาไร่

     และได้ทำให้มันมีเมล็ดพันธุ์ ที่แม้นผืนดินที่แห้งแล้งมีกลิ่นก็มิได้เป็นสิ่งขัดขวาง 

     ไม่ให้เมล็ดพันธ์ุงอกเงยเติบโต เขียวขจีอุดมสมบูรณ์และสวยสดงดงามได้เลย

     โอ้บรรดาผู้ที่ถือครอง (ท่องจำ) อัลกุรอานอยู่เอ๋ย อัลกุรอานได้บ่มเพาะสิ่งใดในหัวใจของพวกท่านบ้าง ?

อยู่ที่ใดกันเล่าผู้ที่เป็นพลพรรคของซูเราะห์หนึ่ง

อยู่ที่ใดกันเล่าผู้ที่เป็นพลพรรคของสองซูเราะห์

พวกท่านได้กระทำสิ่งใดตามซูเราะห์ทั้งสองแล้วบ้าง ?

 

 

 

-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     ผู้ที่อัลลอฮฺได้ทรงสร้างเขามาเพื่อสรวงสวรรค์ ความยากลำบากต่างๆ จะยังคง เข้ามาหาเขาเสมอ

     ผู้ศรัทธาที่หนักแน่นมั่นคง เขาจะยังคงยืนหยัดในสถานการณ์ที่หนักหนา หัวใจของเขาจะไม่แปรผัน ลิ้นจะไม่เรียกร้องพร่ำบ่น

     การปกปิดเคราะห์กรรม ความเจ็บปวดไว้เป็นความลับ คือวิถีปฏิบัติของผู้มีปัญญา

     คนอัปยศที่พบกับหายนะ คือ คนที่ความอดทนหายสิ้นดับสูญ คนที่พบกับบททดสอบ..

     โปรดจงบรรเทาความหนักหนาเหล่านั้น ออกไปจากตัวท่านเอง ด้วยการรำลึกถึงคำสัญญาแห่งการตอบแทน

     รำลึกถึงความคลี่คลายง่ายดายของปมปัญหา เพื่อให้ความทุกข์ยากผ่านพ้นไป โดย ไร้คำเรียกร้องพร่ำบ่นใดๆ

     และพึงระลึกไว้เสมอว่า ท่านถูกขัดขวางไม่ให้ได้รับในสิ่งใด นั่นหมายถึงเพื่อที่ท่านจะได้รับในอีกสิ่ง

ภัยพิบัติที่ท่านประสบ ก็เพื่อที่ท่านจะได้รับความปลอดภัย (ในภายภาคหน้า)

และบททดสอบที่ท่านได้พบ ก็เพื่อที่ท่านจะได้บริสุทธิ์ผ่องใส (จากมลทิน)

 

 

 

- เชค ซอลิห์ เฟาซาน อัลเฟาซาน ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

ความดีจะคงอยู่ตลอดไป...แม้คนที่หลงทางจะหลงทางออกไป

และแม้คนที่หันเหเฉไฉ จะหันเหออกนอกทางไปก็ตาม

 

 

 

- อิมาม อัลเอาซาอีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

แท้จริงแล้ว อิสลามจะไม่ได้หายไป แต่อะฮฺลิซซุนนะฮฺ (ผู้ที่อยู่บนแนวทางซุนนะฮฺ) ต่างหากที่จะหมดลง

กระทั่งว่าจะไม่หลงเหลืออะฮฺลิซซุนนะฮฺอยู่ในเมืองๆ หนึ่ง นอกจากเพียงคนเดียวหรือสองคนเท่านั้น 

และบางทีอาจจะไม่หลงเหลืออยู่เลยสักคนเดียว

 

 

 

- ท่านอิบนุ ซีรีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

แท้จริง กลุ่มชนหนึ่งได้ละทิ้งวิชาความรู้  และยึดเอาส่วนหนึ่งจากมัสยิด (เป็นที่ทำอิบาดะฮฺ)

พวกเขาละหมาดและถือศีลอดโดยปราศจากความรู้ ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ

คนที่กระทำการงานหนึ่งการงานใดโดยไม่มีความรู้นั้น ผลเสียที่จะเกิดขึ้นย่อมมากกว่าผลดี

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

" มนุษย์จะยังไม่ประสบกับหายนะ จนกว่าพวกเขาจะแก้ตัว ขอผ่อนผัน (ให้พ้นผิด)*จากตัวของพวกเขาเอง"

( ศ่อฮีฮุ้ล ญามิอฺ 5231)

          * หมายถึง มนุษย์จะทำผิดอย่างมากมาย และไม่สำนึกผิดกลับตัว เมื่อนั้น พวกเขาก็จะไม่พบข้อผ่อนผันใดๆ ในการทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการลงโทษได้ หรือ ทำบาป และสิ่งที่ผิดพลาดมากมาย แต่พวกเขาก็แก้ตัว เพื่อหาความชอบธรรมในการทำผิด  และคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

" หากท่านพบว่าอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ประทานสิ่งที่ผู้เป็นบ่าวปรารถนาในดุนยา 

ทั้งๆ ที่เขายังคงฝ่าฝืนต่อพระองค์แล้ว แท้ที่จริง มันคือการลงโทษอย่างเป็นลำดับ"

และท่านก็อ่านดำรัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ว่า :

"ครั้นเมื่อพวกเขาลืมสิ่งที่พวกเขาถูกเตือนให้รำลึกในสิ่งนั้น  เราก็เปิดให้แก่พวกเขาซึ่งบรรดาประตูของทุกสิ่ง

จนกระทั่งเมื่อพวกเขาระเริงต่อสิ่งที่พวกเขาได้รับ  เราก็ลงโทษพวกเขาอย่างกะทันหัน แล้วทันใดนั้นพวกเขาก็หมดหวัง" 

(อัล-อันอาม 44)

(บันทึกโดยอิมาม อะฮฺมัด อิมามอัลอัลบานีย์ ระบุว่า ศ่อเฮี๊ยะฮฺในอัศศ่อฮีฮะฮฺ 412)

          คือ ได้รับเนี๊ยะมะฮฺมากมาย  ทั้งๆ ที่ยังทำผิดอยู่ แต่พระองค์ก็ยังคงประทานให้ จนทำให้คนผู้นั้นหลงลืม การขอบคุณ และการขออภัยโทษ ต่อพระองค์ นึกคิดเองว่าสิ่งที่ตนได้รับเป็นความดี  เป็นความโปรดปรานจากพระองค์ แต่ความจริงแล้ว คือ การประวิงเวลา และเก็บสะสมความผิดเอาไว้ สำหรับการลงทัณฑ์อันสาสม

 

 

 

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙