ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์​ 59
  จำนวนคนเข้าชม  356

ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์​ 59

 

วันละหนึ่งความคิด...แปลเรียบเรียง

 

- อิมาม อิบนิล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     ฉันได้ยินชัยคุลอิสลาม อิบนิตัยมียะฮฺบอกว่า : ดังที่ทราบว่า มนุษย์ที่ประเสริฐที่สุดนั้นคือ บรรดานบี 

     เช่นเดียวกันคนที่เลวที่สุดนั้น ก็คือ คนที่ประพฤติตนคล้ายคลึงกับบรรดานบี

     จนทำให้นึกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ ประพฤติตนคล้ายคลึงกับบรรดานบี แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่  

     คนที่ดีที่สุดภายหลังจากบรรดานบีก็คือ ผู้ที่มีวิชาความรู้ ผู้ตายชะฮีด ผู้มีความสัจจริงและผู้มีความบริสุทธิ์ใจ 

     ส่วนคนที่เลวทรามที่สุด คือคนที่เลียนแบบ ทำตัวคล้ายคลึงกลมกลืนกับพวกท่านเหล่านั้น แต่ความจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่

 

 

 

- อัลอัลลามะฮฺ อัสสะอฺดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

หนึ่งในความโอบอ้อมอารีของอัลลอฮฺ ที่มีต่อบ่าวของพระองค์ก็คือ

การที่พระองค์ทรงทดสอบบ่าว ด้วยกับภัยพิบัติบางประการ

และทรงช่วยเหลือเอื้ออำนวยให้บ่าว ได้ทำหน้าที่อดทนต่อบททดสอบนั้น

เพื่อให้บ่าวได้รับสถานะอันสูงส่ง ซึ่งเขาไม่อาจบรรลุถึงสถานะนั้นได้ ด้วยกับผลงานของเขาเอง

และอาจเป็นไปได้ว่า  เขาอาจต้องประสบกับบททดสอบอย่างหนักหนาสาหัส

เนื่องเพราะเหตุดังกล่าวนั้น เสมือนกับที่ท่านนบีอัยยู้บ อลัยฮิสสลาม ได้รับการทดสอบมาแล้ว

 

 

 

-เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

การที่คนเราถูกระงับริบคืน จากเนี้ยะมัตบางประการไป บางทีอาจเป็นเพราะ มันคือผลแห่งการกระทำที่ได้กระทำลงไป

ซึ่งเขาสมควรจะได้รับผลของการกระทำนั้น หรืออาจเป็นเพราะ เพื่อเป็นการเลื่อนลำดับขั้น สู่ระดับของบรรดาผู้อดทน

เพราะความอดทนนั้น คือลำดับขั้นอันสูงส่ง ที่ไม่มีทางจะได้รับสถานะนั้นได้ นอกจากต้องอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆ เท่านั้น

 

 

 

- ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

ใครก็ตามที่ยึดเอาเชคหรือผู้รู้อื่น นอกเหนือจากท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม

เป็นผู้ที่ต้องดำเนินตามในทุกสิ่งที่เขาพูดและปฏิบัติ

เป็นมิตรกับการเห็นพ้องต้องกันกับเขา

และเป็นอริกับการขัดแย้งเห็นต่างจากเขา

เขาผู้นั้น ถือเป็นผู้อุตริ ผู้หลงทาง ออกจากอัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺ

 

 

 

- เชค อัลอัลบานีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     โรคภัยของมุสลิมทุกวันนี้ ไม้ใช่เพราะความเขลาในศาสตร์หนึ่งศาสตร์ใด เป็นการเฉพาะ

     ฉันพูดในฐานะที่ฉันยอมรับว่า ทุกศาสตร์วิชาที่ยังประโยชน์แก่มุสลิมนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นตามปริมาณความต้องการในศาสตร์นั้นๆ

     หากแต่สาเหตุความตกต่ำที่ถาโถมเข้ามาหามุสลิม ไม่ใช่เพราะความเขลาในศาสตร์ของฟิกฮฺ ที่ทุกวันนี้เรียกกันว่า ฟิกฮฺตามสภาพความเป็นจริง  (ฟิกฮุ้ล วากิอฺ)

     แต่ปัญหาสำคัญดังที่มีปรากฏในฮะดีสศ่อฮี้ฮฺ คือ การที่มุสลิมเพิกเฉยละเลย ในการปฏิบัติตตามบทบบัญญัติศาสนา (อะฮฺกาม)  ทั้งจากอัลกุรอาน และอัซซุนนะฮฺต่างหาก

 

 

 

- ท่าน สอี๊ด อิบนิ ญุบัยรฺ  ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     แท้จริง ความยำเกรง คือ การที่ท่านเกรงกลัวอัลลอฮฺ

          กระทั่งว่าความเกรงกลัวของท่าน สามารถกีดกันขัดขวางตัวของท่าน กับการทำผิดฝ่าฝืนของท่านได้ สิ่งนั้นเอง  คือ ความยำเกรงอย่างแท้จริง

     และการรำลึก (ถึงอัลลอฮฺ) คือ การเชื่อฟังอัลลอฮฺ 

          ดังนั้น ใครก็ตามที่เชื่อฟังอัลลอฮฺ แน่นอน เขาได้รำลึกถึงพระองค์แล้ว และใครที่ไม่เชื่อฟังพระองค์ ก็ไม่ถือว่าเขาเป็นผู้รำลึกถึงอัลลอฮฺแต่อย่างใด แม้ว่าเขาจะกล่าวสดุดี (ตั๊สบีฮฺ) และอ่านอัลกุรอานอย่างมากมายก็ตาม

 

 

 

- ท่านอัลฮาซัน อัลบัศรียฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

ท่านอย่าได้ผัดวันประกันพรุ่งเลย เพราะท่านเป็นคนของ "วันนี้" เท่านั้น หาใช่คนของ "วันพรุ่งนี้" แต่อย่างใด

และหากว่า "วันพรุ่งนี้" เป็นของท่าน ท่านก็จงอยู่ใน "วันพรุ่งนี้" เช่นที่ท่านเป็นอยู่ใน "วันนี้" เถิด

และหาก  "วันพรุ่งนี้" มิได้เป็นของท่าน ท่านก็จะได้ไม่เสียใจ ในสิ่งที่ผ่านเลยท่านไปใน "วันนี้" เลย

 

 

 

ท่านอบูบักร رضي الله عنه เคยถาม ท่านร่อซู้ล صلى الله عليه و سلم ว่า:

     "ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺครับ ใครกันในหมู่พวกเรา ที่จะไม่เคยทำความผิดเลยอย่างนั้นหรือครับ?"

     ท่านตอบว่า :" โอ้ อบูบักร ท่านไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ไม่เคยโศกเศร้า และไม่เคยพบกับความอึดอัดคับแคบใด(ในชีวิต) เลยอย่างนั้นหรือ?

                       ดังกล่าวนั้นแหละ คือสิ่งที่พวกท่านจะได้รับ "(อันเป็นผลตอบแทนจากความผิดที่เคยกระทำ)

(บันทึกโดย อิมามอะฮฺมัด)