อิหร่านในการทำสงครามผ่านกลุ่มติดอาวุธ
  จำนวนคนเข้าชม  58

 

บทบาทของอิหร่านในการทำสงครามผ่านกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรีย

และการกวาดล้างอะฮฺลุซซุนนะฮฺในยุคซอฟาวียูน

 

เรียบเรียงโดย อิสมาอีล   กอเซ็ม 

 

          ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านได้แสดงบทบาทอย่างชัดเจนในการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่มีลักษณะ แนวคิดนิกายชีอะฮ์เป็นฐาน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง อิหร่านมิได้จำกัดบทบาทตนเองไว้เพียงภายในประเทศ แต่ได้ขยายอิทธิพลผ่านกลุ่มติดอาวุธชีอะฮ์ในประเทศต่าง ๆ เช่น อิรัก ซีเรีย เลบานอน และเยเมน ส่งผลให้เกิดความรุนแรงทางนิกายและการปราบปรามชาวอะฮฺลุซซุนนะฮ์ในวงกว้าง

 

1. อิรัก: จากการล่มสลายของระบอบบะอัษ สู่การครอบงำโดยอิหร่าน

 

         หลังการรุกรานอิรักโดยสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2003 และการล่มสลายของระบอบซัดดาม ฮุเซน เกิดสุญญากาศทางอำนาจและการเมือง ซึ่งเปิดทางให้อิหร่านแทรกแซงอย่างเป็นระบบ โดยการสนับสนุนและฝึกฝนกลุ่มติดอาวุธชีอะฮ์หลายกลุ่ม ได้แก่:

กองทัพอัลมะฮ์ดีย์ (جيش المهدي) ภายใต้การนำของ มุกตะดา อัศศ็อดร

องค์กรบะดัร (منظمة بدر) ซึ่งได้รับการฝึกโดยกองกำลังคุดส์ (فيلق القدس)

ฮิซบุลลอฮ์อิรัก และกลุ่มติดอาวุธชีอะฮ์อื่น ๆ

 

ผลกระทบ:

 การลอบสังหารผู้นำทางศาสนา นักวิชาการ อิหม่ามมัสยิดซุนนี

การอุ้มหายและประหารชีวิตชาวซุนนีโดยมิได้ผ่านกระบวนการยุติธรรม

การทรมานในคุกลับที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังติดอาวุธ

          องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น Human Rights Watch และ Amnesty International ได้เผยแพร่รายงานจำนวนมากเกี่ยวกับ การประหารหมู่ชาวซุนนีในแบกแดด ดิยาลา และอัลอันบาร ซึ่งเกิดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนทางตรงหรือทางอ้อมจากกองกำลังที่อิหร่านหนุนหลัง

 

 

2. ซีเรีย: สงครามนิกายและยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลของอิหร่าน

 

          เมื่อเกิดการลุกฮือของประชาชนซีเรียในปี ค.ศ. 2011 เพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการบาชาร อัลอะซัด อิหร่านได้เข้ามามีบทบาทในฐานะ ผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลซีเรีย โดยใช้กองกำลังต่าง ๆ ได้แก่:

      กองกำลังคุดส์ แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC)

      ฮิซบุลลอฮ์เลบานอน

      กลุ่มติดอาวุธจากชีอะฮ์นานาชาติ เช่น ลิวาอ์ ฟาฏิมิยูน (จากอัฟกานิสถาน), ลิวาอ์ ซัยนับ (จากปากีสถาน), และกลุ่มชีอะฮ์จากอิรัก

 

เป้าหมายและผลลัพธ์:

      ปราบปรามการลุกฮือของชาวซุนนี ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของซีเรีย

      ล้อมเมืองสำคัญของซุนนี เช่น ฮะลับ, ฆูเฏาะฮ์, ฮิมศ์ และดะรอา พร้อมทั้งใช้ยุทธศาสตร์ "ล้างชาติพันธุ์" (ethnic cleansing)

      การสังหารหมู่ ขับไล่ประชากร และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโดยการย้ายชาวชีอะฮ์เข้ามาแทน

      รายงานจาก Syrian Observatory for Human Rights (SOHR) ระบุว่า กองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านมีบทบาทสำคัญในการสังหารประชาชนหลายพันคน โดยเฉพาะในฮะลับและฆูเฏาะฮ์

 

 

3. มุมมองของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ

 

ดร. อับดุลลอฮฺ อัลอุมัร นักวิชาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ระบุว่า:

     "อิหร่านใช้กลุ่มติดอาวุธชีอะฮ์เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อขยายอิทธิพลเหนือภูมิภาค และลดทอนบทบาทของชาวซุนนี"

 

เชค รอเบี๊ยะ อัลมัดคอลีย์ กล่าวว่า:

     "สิ่งที่เกิดขึ้นในอิรักและซีเรียเป็นอาชญากรรมร้ายแรงต่ออุมมะฮ์ซุนนี ซึ่งไม่อาจนิ่งเฉยหรือปกปิดไว้ได้เพียงเพราะอิหร่านอ้างว่าตนต่อต้านไซออนิสต์"

 

 

4. ซอฟาวียูน: ต้นแบบของการกวาดล้างซุนนีในประวัติศาสตร์

 

          ราชวงศ์ซอฟาวียะฮ์ (الدولة الصفوية) ซึ่งปกครองเปอร์เซียระหว่างปี ค.ศ. 1501–1736 ภายใต้การนำของ ชาฮ์ อิสมาอีล อัซซอฟะวีย์ คือจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานให้ อิหร่านกลายเป็นรัฐชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง และดำเนินนโยบายปราบปรามอะฮฺลุซซุนนะฮ์อย่างเป็นระบบ

 

ลักษณะของการกวาดล้าง:

      การเปลี่ยนมัสญิดทั้งหมดให้เป็นชีอะฮ์

      การสาปแช่งศอหาบะฮ์อย่างเป็นทางการในคุตบะฮ์ญุมุอะฮ์

      การประหารหรือเนรเทศผู้ที่ยึดมั่นในแนวทางซุนนี

      การเผาตำราทางวิชาการของอะฮฺลุซซุนนะฮ์ และห้ามการเรียนรู้อะกีดะฮ์ซุนนีโดยเด็ดขาด

 

อิบนุกะษีร กล่าวว่า:

     "พวกซอฟาวีย์ได้กระทำในสิ่งที่แม้แต่มองโกลก็ยังไม่กระทำ คือการสังหารประชาชนเพียงเพราะพวกเขายึดมั่นในสุนนะฮ์"

 

ดร. อิฮฺซาน อิลาฮี เฎอฮีร์ ระบุว่า:

     "การถือกำเนิดของรัฐซาฟาวียะฮ์คือหายนะของอะฮฺลุซซุนนะฮ์ในเปอร์เซีย และเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางนิกายอย่างรุนแรง"

 

 

สรุป

 

          แม้ว่าอิหร่านจะอ้างตนเป็นผู้นำแห่งแนวต้านอิสราเอลและสนับสนุนปาเลสไตน์ แต่บทบาทในอิรัก ซีเรีย และประวัติศาสตร์ของซอฟาวียูน ได้เผยให้เห็นถึง ลักษณะของการใช้นโยบายเชิงนิกายเพื่อขยายอำนาจทางการเมือง โดยมีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของชาวอะฮฺลุซซุนนะฮ์อย่างกว้างขวาง จึงไม่อาจพิจารณาอิหร่านจากมิติ "ต่อต้านไซออนิสต์" เพียงอย่างเดียว หากแต่การต่อสู้กับอิสรออีลนั้นเป็นเรื่องขัดแย้งกันในประโยชน์ การแย่งอำนาจขึ้นมาเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง