การล่มสลายอาณาจักรอุสมานียะห์
  จำนวนคนเข้าชม  13811

สาเหตุแห่งการล่มสลายของอาณาจักรอุสมานียะห์

โดย อาจารย์ มูนีร มูหะหมัด

          อาณาจักรอุสมานียะห์ได้สร้างความเจริญก้าวหน้า ให้กับมุสลิมอย่างมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสนใจทางด้านการปลูกสร้างอาคารสถานต่างๆ   เช่น การสร้างมัสยิด สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล และที่ทำการของรัฐที่มีอยู่ตามเมืองใหญ่ๆของอาณาจักร ขณะเดียวกัน อาณาจักรอุสมานียะห็ก็ได้ให้ความสนใจในทงการศึกษาโดยได้สร้างหอสมุดหลายแห่งดูแลความเป็นอยู่ ของนักวิชาการ และนักศึกษาโดยสร้างบ้านพักให้กับพวกเขาใกล้กับสถานศึกษานอกจากนี้แล้ว อาณาจักรอุสมานียะห์ยังได้ให้ความสนใจในศิลปะ สถาปัตยกรรมและระบบทหารอีกด้วย

          อายุอาณาจักรอุสมานียะห์  ประมาณ  ๔๐๐ปี โดยนับตั้งแต่การสถาปนาอาณาจักรนี้ ตั้งแต่ปี ฮ.ศ. ๙๐๐ ถึงปี ฮ.ศ.๑๓๐๐ (ค.ศ.๑๕๐๐-๑๙๐๐) แต่พอถึงศตวรรษที่๑๒แห่งฮิจเราะห์ หรือคริสศตวรรษที่๑๘  อาณาจักรอุสมานียะห์ก็เริ่มอ่อนแอลง ซึ่งชาวยุโรปเรียกอาณาจักรอุสมานียะห์ขณะนั้นว่า คนป่วย พวกเขาต่างจ้องมองดูอาณาจักรนี้ โดยมีเป้าหมาย เพื่อที่จะฉกฉวยผลประโยชน์จากอาณาจักรนี้

          ต่อไปนี้เราจะพูดถึงสามเหตุการณ์ของอาณาจักรอุสมานียะห์   กล่าวคือ

          ๑. ความกว้างใหญ่ของอาณาจักรอุสมานียะห์การที่อาณาจักรอุสมานียะห์มีขอบเขตกว้างขวางทำให้มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายความเชื่อถือ ขนบธรรมเนียมประเพณี   ภาษา ฯลฯ  จึงเป็นความยุ่งยากในการปกครองและการบริหารจัดการ

          ๒.การคลายความยึดมั่นในบัญญัติอิสลาม ในสมัยอาณาจักรอุสมานียะห์ ปรากฎว่ามุสลิมเริ่มหันห่างจากแก่นแท้ของศาสนาอิสลาม จึงเป็นเหตุให้สิ่งที่เป็นอุตริกรรม (บิดอะห์) และความหลงผิดเพิ่มมากขึ้น  บรรดานักวิชาการศาสนา ต่างทำตัวเป็นผู้รับใช้ผู้ปกครองโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ตามหลักบัญญัติศาสนา มุ่งหวังในลาภยศ และผลประโยชน์ และไม่ให้ความสนใจในการอบรมสั่งสอนในเรื่องหลักการศานาอิสลาม และกระทำการใดๆตามที่เขาปรารถนา แม้ว่าจะขัดต่อหลักการอิสลามก็ตาม จนขาดความเข้มแข็ง อดทน และละทิ้งการญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์

          ๓. ความอ่อนแอของบรรดาซุลฏอน เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ และความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นในอาณาจักรอุสมานียะห์จึงทำให้ซุลฏอนรุ่นหลัง ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางความสุขสบาย และหลงระเริงอยู่กับความสนุกสนานไม่เคยประสบกับความยากลำบาก   ซึ่งทำให้พวกเขามีความอ่อนแอในการบริหารอาณาจักร ทำให้มีการติดสินบน การฉ้อราษฎร์บังหลวง ความชั่วช้าการแก่งแย่งอำนาจ และความยุ่งเหยิง ปั่นป่วนแพร่สะพัดไปทั่ว

          ๔.ขาดการบริหารที่ดี บรรดาข้าราชการในอาณาจักร ดำรงตำแหน่งด้วยการซื้อหา มิใช่ด้วยความสามารถจึงทำให้พวกเขาใช้ตำแหน่งเป็นหนทางไปสู่การสะสมเงินทองและรวบรวมทรัพย์สินเพื่อให้เป็นของกำนัลแก่ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า เพื่อที่จะให้เขาอยู่ในตำแหน่งเดิม หรือเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น ทุกคนให้ความสนใจในการรักษาผลประโยชน์ของตน จึงทำให้ละเลยการทำนุบำรุงการศึกษา  การดูแลบ้านเมือง  ความโง่เขลา   การเจ็บป่วยความยากจนแพร่กระจายไปทั่ว ผู้อยู่ใต้การปกครองไม่ไว้ใจผู้ปกครอง สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในอาณาจักรก็คือ การแยกตัวเป็นอิสระของผู้ปกครองตามหัวเมืองต่างๆ

          ๕.ความอ่อนแอนของกองทัพ แม้ว่าอาณาจักรอุสมานียะห์จะเต็มไปด้วยการพิชิตและการแผ่ขยายดินแดนก็ตาม แต่ทว่าเหล่าทหารในยุคหลังมาจากเยาวชนที่มาจากความกล้าหาญ ความอดทน พวกเขาใช้ชีวิตแบบสุขสบาย รื่นเริงสนุกสนาน สิ่งที่ติดตามมาก็คือ การขาดมารยาท มีความเกียจคร้าน และชอบใช้ชีวิตท่ามกลางโอชารส

           ๖. การแทรกแซงของต่างชาติเข้ามาในอาณาจักรอุสมานียะห์ เมื่ออาณาจักรอุสมานียะห์ ยุติการพิชิตดินแดนในศตวรรษที่๑๒แห่งฮิจเราะห์บทบาททางทหารของอาณาจักรอุสมานียะห์ ได้เปลี่ยนสภาพจากการบุกไปข้างหน้ามาเป็นการป้องกัน จึงทำให้กลุ่มประเทศยุโรป พยายามเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในอาณาจักรอุสมานียะห์ โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อจะคุ้มครองชาวคริสเตียน และเพื่อดูแลผลประโยชน์ของพวกเขา


           สิ่งที่ชาวยุโรปปฏิบัติคือ ความพยายามที่จะเข้ามามีอำนาจในทางเศรษฐกิจ และทางการเมืองภายในอาณาจักรอุสมานียะห์ เช่น การจัดตั้งธนาคาร การตัดทางรถไฟ สร้างท่าเรือ ติดตั้งสายโทรศัพท์ ไฟฟ้า จัดระบบไปรษณีย์  สร้างโรงเรียน เพื่อสอนภาษาและศาสนา สร้างโรงพยาบาล ตลอดจนการดำเนินการต่างๆที่จะทำให้กลุ่มประเทศยุโรปทำหน้าที่ในการควบคุมดูแลผลประโยชน์ของพวกเขา โดยอาศัยสถานเอกอัครราชฑูตและสถานกงสุลเป็นหลัก