หลังความตาย
  จำนวนคนเข้าชม  8441

หลังความตาย

โดย อ.มัสลัน มาหะมะ

วันสิ้นโลก (อาคิเราะฮ์)

          มุสลิมต้องศรัทธาในชีวิตใหม่หลังความตาย และศรัทธาในวันตัดสิน คำสอนที่สำคัญเกี่ยวกับหลักศรัทธาข้อที่ 5 นี้มีดังต่อไปนี้

          ยอมรับการมีอีกภพหนึ่ง อันเป็นโลกที่มีชีวิตที่จีรัง  ซึ่งมนุษย์จะมีชีวิตอยู่  ณ โลกแห่งนั้นชั่วนิรันดร์ กล่าวคือหลังจากมนุษย์ตายลง ทุกคนจะถูกให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในวันสอบสวน(กิยามะฮ์)เพื่อตอบแทนผลกรรมที่ประกอบเอาไว้ ดังนั้นผู้ใดเชื่อฟังและปฏิบัติตามที่ศาสนทูตสั่งสอนไว้  เขาย่อมได้เข้าสวรรค์ ส่วนผู้ใดปฏิเสธและฝ่าฝืนย่อมตกนรก

          นอกจากนั้น การศรัทธาต่อวันสุดท้ายในที่นี้ยังรวมถึงความเชื่อต่อการมีอยู่จริงของความสุขและการทรมานในหลุมฝังศพ  การฟื้นคืนชีพหลังความตาย  การพิพากษา   ตาชั่งบัญชีแห่งความดีและความชั่ว     สะพาน(ศิรอต)ที่ทอดข้ามระหว่างนรกสวรรค์   แอ่งน้ำขนาดใหญ่(เฮาฏ์)ที่สามารถดับกระหายได้ในวันแห่งการชุมนุมที่มีแต่ความร้อนแรง  ตลอดจนเชื่อต่อการมีอยู่ของสวรรค์ และนรก ตามที่อัลลอฮ์ และศาสนทูตของพระองค์ได้บอกไว้

          นะบีมุฮัมมัด สอนว่าโลกนี้และทุกสิ่งในโลกต้องมีจุดจบในวันที่กำหนดไว้ ทุกสิ่งจะถูกทำลาย ในวัน “กิยามะฮ์” หรืออีกนัยหนึ่งคือ “วันฟื้นคืนชีพ”

          ท่านสอนว่า ต่อจากนั้นมวลมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกตั้งแต่เริ่มจะต้องฟื้นคืนชีวิต และถูกนำไปอยู่ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ผู้ซึ่งทำการตัดสินทุกอย่างในวันนั้น วันแห่งการชุมนุม หรือ(หัชร์)

          ท่านสอนว่า ประวัติอันสมบูรณ์ของมนุษย์ที่ได้บันทึกการกระทำทั้งดีและเลว จะถูกเสนอต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อการตัดสินครั้งสุดท้าย

         พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิจารณาให้รางวัลแก่ทุกๆ คน พระองค์จะทรงชั่งการกระทำดีและชั่วของมนุษย์ ผู้ที่กระทำดีจะได้รับรางวัลแห่งความดีงาม ส่วนผู้ที่มีความชั่วมากกว่าความดีจะต้องได้รับการลงโทษ

          การพิจารณาให้รางวัลและการลงโทษจะเป็นไปอย่างยุติธรรม ผู้ที่ได้รับรางวัล มีสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทนและประตูแห่งความสุขจะเปิดรอรับเขา ส่วนผู้ที่ถูกลงโทษจะถูกส่งไปยังนรกดินแดนแห่งไฟและการทรมาน

          มุสลิมศรัทธาว่าสวรรค์และนรกมีจริง ความเชื่อในข้อนี้เป็นจริงเพราะอัลลอฮ์ สามารถสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว โลกและจักรวาล พระองค์จึงสามารถสร้างสวรรค์และนรก พระองค์เป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุด ทรงตัดสินให้รางวัลคนดีและลงโทษคนชั่ว ดังนั้น จะต้องมีสถานที่ ที่ผู้ได้รับรางวัลจะชื่นชมกับรางวัล เกียรติยศ ความสุขทุกชนิด และมีอีกสถานที่หนึ่งซึ่งคนบาปจะได้รู้สำนึกถึงความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน

           การศรัทธาในชีวิตหลังความตายเป็นเรื่องสำคัญตามคำสอน นะบีทุกคนได้สอนบรรดาสาวกให้เชื่อในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับนะบีมุฮัมมัด เพราะเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการเป็นมุสลิม นะบีทุกคนได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่าคนที่ไม่เชื่อหรือสงสัยในเรื่องนี้คือผู้ปฏิเสธ (กาฟิร์) เพราะว่าการปฏิเสธชีวิตหลังความตายทำให้ความเชื่ออื่นๆไร้ความหมาย และการปฏิเสธในเรื่องนี้ยังทำลายเงื่อนไขสำหรับการมีชีวิตที่ดีและทำให้มนุษย์ต้องตกอยู่ในชีวิตแห่งความโง่เขลาและการไร้ความศรัทธา

          ในชีวิตประจำวัน เมื่อใดที่เราถูกขอให้ทำอะไรสักอย่าง เราจะคิดถึงผลประโยชน์หากเราทำตาม และถ้าไม่ทำจะมีผลร้ายอะไรไหม นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ โดยสัญชาตญาณมนุษย์จะถือว่าสิ่งที่ไม่มีประโยชน์นั้นเป็นเรื่องเสียเวลา แน่นอนเราจะไม่มีวันยอมเสียเวลาและพลังงานไปในงานที่ไร้ประโยชน์และไม่มีผลตอบแทนเกิดขึ้น เช่น ทำไมเด็กจึงเอามือแหย่เข้าไปในกองไฟ เพราะว่าเขาไม่แน่ใจว่าไฟจะร้อน ทำไมเด็กถึงหนีเรียน เพราะเขาไม่เข้าใจถึงความสำคัญและผลประโยชน์ของการศึกษา

           ลองคิดถึงผู้ที่ไม่เชื่อในวันแห่งการตัดสิน เขาคิดหรือว่าการศรัทธาในพระเจ้าและชีวิตที่ดำเนินไปตามบทบัญญัติจะไม่มีผลอะไร เขายึดคุณค่าอะไรให้แก่ชีวิตในการแสวงหาความโปรดปรานจากพระองค์ สำหรับเขาแล้วการเชื่อฟังพระเจ้าไม่มีประโยชน์อะไรและไม่ให้โทษประการใดด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮ์  นะบีของพระองค์และคัมภีร์ของพระองค์ และไม่มีแรงจูงใจที่เขาจะยอมรับการทดสอบ การเสียสละ และถ้าหากมนุษย์ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของอัลลอฮ์ และดำเนินชีวิตไปตามความพอใจแล้ว ความเชื่อในการมีอยู่ของอัลลอฮ์ จะไม่มีประโยชน์อะไร

         ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าเราพิจารณาลงให้ลึกซึ้งกว่านั้น จะสรุปได้ว่าความเชื่อในชีวิตหลังความตายเป็นปัจจัยที่สำคัญในชีวิตของมนุษย์ การยอมรับหรือการปฏิเสธความเชื่อนี้จะเป็นตัวกำหนดเส้นทางแห่งชีวิตและพฤติกรรมของเขา

          คนที่มองความสำเร็จหรือความล้มเหลวเพียงแค่โลกนี้จะกังวลแต่เพียงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เขาไม่พร้อมที่จะทำความดีถ้าไม่มีผลประโยชน์แห่งโลกนี้บางอย่างเป็นการตอบแทน และเขาไม่หลีกเลี่ยงการทำผิดใด ๆ ถ้าไม่สร้างผลเสียแก่ผลประโยชน์ของเขา

          แต่คนที่มีความศรัทธาในโลกหน้าและเชื่อมั่นผลสุดท้ายที่จะติดตามมาจากการกระทำ จะมองว่าผลได้ผลเสียทางโลกทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งชั่วคราวและจะไม่ยอมเอาสวรรค์อันนิรันดร์ไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์เพียงชั่วครู่ จะมองสิ่งต่างๆ ด้วยทัศนะที่กว้างไกล จะทำความดีไม่ว่ามันจะแพงหรือไม่ว่าจะไม่มีผลประโยชน์ให้ในโลกนี้ และจะหลีกเลี่ยงความผิดไม่ว่าจะเย้ายวนแค่ไหน จะตัดสินสิ่งต่างๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะติดตามมาอย่างถาวร


          ดังนั้น ความเชื่อหรือความไม่เชื่อในชีวิตหลังความตายนั่นเองที่ทำให้มนุษย์ดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน สำหรับคนที่ไม่เชื่อในวันแห่งการตัดสินนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะดำเนินชีวิตไปตามคำสอนของอิสลาม