ประเด็นที่สิบ :
ปัญหาการไม่เข้าใจกัน
แท้จริง อัลลอฮ์ ทรงชี้แจงไว้ในซูเราะฮฺ อัลฮัชร์ ถึงสาเหตุที่ทำให้ไม่เข้าใจกัน นั่นคือการไม่มีสติปัญญานั่นเอง ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า
" เจ้าเข้าใจว่า พวกเขาร่วมกันเป็นปึกแผ่น ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว หัวใจของพวกเขาแตกแยกกันเป็นเสี่ยงๆ..." (อัลฮัชร์: 14)
พระองค์ทรงอธิบายให้ทราบถึงสาเหตุดังกล่าว ด้วยดำรัสของพระองค์ที่ว่า
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ"(อัลฮัชรฺ: 14)
และยาที่จะใช้รักษาโรคโง่เขลาเบาปัญญา(ไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรอง) คือ ชี้ทางสว่างให้กับเขาด้วยกับการปฏิบัติตามอัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานนั้นจะชี้นำทางไปสู่สิ่งที่มีค่า มีประโยชน์ การปฏิบัติคุณความดี ซึ่งพวกเขาไม่ใช้สติปัญญาในการพิจารณาดังที่อัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า
"หรือว่าผู้ที่ตายแล้ว เรา (อัลลอฮ์) ได้ให้เขามีชีวิตขึ้นมาใหม่ แล้วเราได้ให้แสงสว่างแก่เขา ซึ่งเขาได้ใช้แสงสว่างเดินทางไปในหมู่มนุษย์ จะเหมือนกับผู้ที่เสมือนเขาผู้นั้นอยู่ในบรรดาความมืด โดยที่มิเคยออกมาจากความมืดเลยกระนั้นหรือ ในทำนองนั้นแหละ ได้ถูกประดับประดาทำให้เพริศแพร้วสวยงาม แก่บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา ด้วยกับสิ่งที่พวกเขากระทำอยู่" (อัลอันอาม : 122)
ดังนั้น อัลลอฮ์ ทรงอธิบายไว้ในอายะฮ์นี้ว่า แท้จริงแสงรัศมีแห่งการศรัทธา (อีมาน) นั้น ทำให้มีชีวิตชีวาแก่ผู้ที่ตายไปแล้ว และยังให้แสงสว่างแก่เขา ตามหนทางที่เขาต้องเดินไปอีกด้วย
อัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า
"อัลลอฮ์ คือผู้ทรงช่วยเหลือบรรดาผู้ศรัทธา ทรงนำพวกเขาออกจากบรรดาความมืดสู่แสงสว่าง... (อัลบะเกาะเราะฮฺ : 257)
และพระองค์ยังทรงตรัสว่า
"ผู้ที่เดินคมำคว่ำหน้าบนใบหน้าของเขา จะเป็นผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องกว่า หรือว่าผู้ที่เดินตัวตรงในหนทางที่เที่ยงตรง " (อัลมุลก์: 22)
สรุปโดยรวมแล้ว สิ่งที่เป็นประโยชน์ (มะซอลิฮ์) ต่อมนุษย์ชาติ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อโลกนี้นั้น มีอยู่ 3 ประการ ด้วยกันคือ
1. การขจัดหรือป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักนิติศาสตร์อิสลาม ถึงความจำเป็นต่าง ๆ การขจัดพิษภัยอันตรายต่าง ๆ ให้พ้นจาก 6 ประการที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือ การรักษาป้องกันศาสนา รักษาป้องกันชีวิต รักษาป้องกันสติปัญญา รักษาป้องกันเชื้อสาย รักษาป้องกันเกียรติยศศักดิ์ศรี และรักษาป้องกันทรัพย์สิน
2. การได้มาซึ่งผลประโยชน์
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักนิติศาสตร์อิสลาม ถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะขาดไม่ได้ และจากส่วนย่อยของมัน เช่น การค้าขาย ตามที่ผู้มีความเห็นไปในทางนั้น การเช่าฯลฯ และที่เป็นประโยชน์โดยรวมทั่วไป คือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างปัจเจกชน และสังคมที่ถูกต้องตามบัญญัติศาสนา
3. การประดับประดาตนด้วยการมีมารยาทที่ดีงาม
ซึ่งได้แก่การปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม เป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักนิติศาสตร์อิสลาม คือการตกแต่งประดับประดาตนเองให้สวยงามและสมบูรณ์พร้อมสรรพ รวมถึงสิ่งที่เป็นธรรมชาติเดิมแท้อันบริสุทธิ์ เช่น การไว้เครา และการขลิบหนวด เป็นต้น และส่วนที่ขยายแยกออกมา คือ ห้ามมิให้กระทำสิ่งที่จะนำมาซึ่งความสกปรกโสมม และจำเป็นจะต้องมีการบริจาค ให้แก่บรรดาญาติใกล้ชิดที่ยากจน สิ่งที่เป็นคุณความดีเหล่านี้ ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้เลย นอกจากจะต้องรักษาและปฏิบัติเอาไว้ให้มั่นคง ด้วยวิธีการที่ถูกต้องและบริสุทธิ์ตามระบอบของศาสนาอิสลามเท่านั้น
ดังที่อัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า
อะลิฟ ลาม รอ คัมภีร์ที่โองการทั้งหลายของมันถูกทำให้รัดกุม มีระเบียบ และได้อธิบายเรื่องต่างๆอย่างชัดเจน (ฮะล้าล และ ฮะรอม) จากพระผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้เชี่ยวชาญ(ฮูด : 1)
وصلى الله على محمد وعلى آله وصحبه أجمعين
والحمد لله رب العلمينที่มา : หนังสือ "อิสลามศาสนาแห่งความสมบูรณ์"